ความท้าทายสูงสุดหลังจบฟุตบอลโลกที่ตรงกับโปรแกรมบ็อกซิ่งเดย์คือ อาร์เซน่อล ไม่เคยคว้าแชมป์ลีกได้เลยตลอด 5 ครั้งหลังสุดที่นำจ่าฝูงวันคริสต์มาส 

2 ครั้งหลังเกิดขึ้นในยุคพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2002/03 ที่จบเพียงรองแชมป์ ส่วนฤดูกาล 2007/08 หล่นจากจ่าฝูงไปจบอันดับ 3 ของตาราง

ฤดูกาลนี้จะทำได้หรือไม่? 

ก่อนพักเบรก มิเกล อาร์เตต้า พาทีมบุกชนะ วูล์ฟส์ 2-0 ทำให้ทิ้งห่าง แมนฯ ซิตี้ เป็น 5 คะแนนหลังทัพเรือใบพลาดท่าแพ้คาบ้านต่อ เบรนท์ฟอร์ด 1-2 สุดเหลือเชื่อ 

การชนะให้ได้ในนัดแรกที่พรีเมียร์ลีกกลับมาแข่งไม่เพียงสำคัญต่อการรักษาระยะห่างบนหัวตารางเอาไว้ต่อไป แต่น่าจะส่งผลถึงความมั่นใจในเส้นทางลุ้นแชมป์อย่างมาก และเป็นการล้างอาถรรพ์จ่าฝูงวันคริสต์มาสของทีมลงได้ 

ความท้าทายรองลงมาคือ อาร์เตต้า จะแก้ปัญหาการขาดหายไปของ กาเบรียล เชซุส ที่บาดเจ็บหนักจากบอลโลกได้อย่างไร? 

อาร์เตต้า เลือกทางออกแรกที่ไม่ซับซ้อนคือส่ง เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ลงตัวจริงเกมลีกนัดแรกในฤดูกาลนี้ ขณะที่เกมรับได้ วิลเลี่ยม ซาลีบา ที่กลับจากภารกิจทีมชาติช้าสุด ฟิตทันลงสนาม 

หากไม่นับตำแหน่งของ เชซุส ที่ถือว่าโชคร้ายแล้ว ชุดนี้เกือบเป็นชุดดีสุดของ อาร์เตต้า โดยที่ข้างสนามได้ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ฟิตกลับมาเป็นสำรองรอวันทวงตำแหน่งคืนจาก คีแรน เทียร์นีย์ 

เวนเกอร์ แขกวีไอพีในนัดนี้

ขณะที่ เวสต์แฮม ของกุนซือ เดวิด มอยส์ ได้ดวลกึ๋นลูกน้องเก่า อาร์เตต้า สมัยร่วมงานกันที่ เอฟเวอร์ตัน อีกครั้ง โดยที่ได้ มิคาอิล อันโตนิโอ ผ่านความฟิตลงตัวจริงแดนหน้า ไม่ต้องปรับ จาร์ร็อด โบเว่น ไปเล่นแทนเหมือนที่เปรยเอาไว้ก่อนเกม

อาร์เซน่อล คอนโทรลเกมได้ตั้งแต่ต้นตามคาด การต่อบอล การเคลื่อนที่ยังคงทำได้ยอดเยี่ยม เช่นเดียวกับความฟิตความพร้อมของร่างกายเหมือนไม่ใช่การลงเล่นทางการนัดแรกในรอบหนึ่งเดือนครึ่ง 

การยกพลไปเข้าแคมป์ฝึกซ้อมและอุ่นเครื่อง 2 นัดที่ดูไบ รวมถึงอีกนัดที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม (จริงๆ มีอุ่นนอกรอบอีก 2 นัด) ช่วยให้สภาพร่างกายของนักเตะอยู่ในความพร้อมที่ดี ขณะที่กลุ่มนักเตะทีมชาติก็ไม่ได้บอบช้ำอะไรมาก ยกเว้นเพียง เชซุส  

แต่ปัญหาตลอดครึ่งแรกคือจังหวะสุดท้ายยังไม่ลงล็อก เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ กับ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ฝืนเล่นไปในบางจังหวะ แต่ส่วนหนึ่งต้องให้เครดิตเกมรับของ เวสต์แฮม ที่ยืนกันแน่นมากตั้งแต่หน้าเขตโทษจนถึงในเขตโทษ

นอกจากเจาะประตูนำก่อนไม่ได้แล้ว อาร์เซน่อล ยังมาพลาดเสียจุดโทษในจังหวะเสียบบอลของ วิลเลี่ยม ซาลีบา ที่โดนขา โบเว่น เล็กน้อย แม้ไม่ได้รุนแรง แต่ผู้ตัดสินก็มองว่ามีการสัมผัสกันจริง ซาอิด เบนราห์ม่า รับหน้าที่สังหารไม่พลาด

กลายเป็นว่า อาร์เตต้า และลูกทีมเจอบททดสอบตั้งแต่นัดแรกที่กลับมาแข่ง ผลการแข่งขันใน 45 นาทีแรกไม่ใช่สิ่งที่แฟนบอลปืนใหญ่คิดว่าจะได้เจอหลังรอคอยนัดนี้มาหลายสัปดาห์ แถมเป็นวันที่มีแขกระดับวีไอพีมากมายเข้ามาชมเกมด้วย

แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือ อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตกุนซือระดับตำนานของสโมสรที่กลับมาชมเกมในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่อำลาตำแหน่งเมื่อปี 2018

ซาก้า พกฟอร์มเด่นจากบอลโลกลุยต่อกับทีม

แต่ครึ่งหลัง แข้งปืนแสดงให้เห็นถึงอีกหนึ่งคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมคือการไม่ตื่นตกใจกับสถานการณ์ที่เพลี่ยงพล้ำก่อน พวกเขายังคงใจเย็นมากพอ และพยายามเล่นด้วยความมุ่งมั่นต่อไป 

"มันเป็นเพียงจังหวะเดียวที่เราไม่ได้ป้องกันให้ดีพอ แต่จากนั้นเราแสดงความนิ่งออกมา ไม่มีอาการวิตก ก่อนทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อเอาชนะให้ได้" อาร์เตต้า กล่าว 

เพียง 8 นาทีหลังเกมรีสตาร์ท บูคาโย่ ซาก้า ที่เด่นมากในฟุตบอลโลกด้วยผลงาน 3 ประตูกับทีมชาติอังกฤษ ก็เป็นคนซัดตีเสมอให้ทีม 

ลูกนี้ต้องให้เครดิต มาร์ติน โอเดการ์ด ด้วยแม้เหมือนว่าตั้งใจยิงแล้วโดนเหลี่ยมไม่ดี แต่กลายเป็นเข้าทาง ซาก้า ได้เกี่ยวเข้าไปดวลกับ ฟาเบียนสกี้ ก่อนเลือกมุมยิงอย่างใจเย็น 

โอเดการ์ด พยายามแทงทะลุช่องสร้างโอกาสให้เพื่อนตลอดครึ่งแรกโดยมีจังหวะต้นเกมจบด้วยการยิงตุงตาข่ายของ ซาก้า หลัง เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ตอกส้นให้ ทว่าล้ำหน้าไปก่อน แต่แอสซิสต์แรกที่ทำได้กลับเป็นจังหวะตั้งใจยิงเอง 

ประตู 1-1 ในต้นครึ่งหลังคือช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบ ทุกทีมที่ตามหลังครึ่งแรกต่างต้องการตีเสมอให้เร็วหลังผ่านการแก้เกมในช่วงพักครึ่ง 

อาร์เซน่อล คว้าโมเมนตัมที่เหวี่ยงกลับมาได้อยู่หมัดมากขึ้นด้วยประตูแซงนำ 2-1 ในอีก 5 นาทีถัดมาจากลูกยิงยัดมุมแคบของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่

การเลือกยิงเองจังหวะนี้ของ มาร์ติเนลลี่ ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเพราะโอกาสเป็นประตูยาก แต่หัวหอกทีมชาติบราซิลชุดฟุตบอลโลกล่าสุด กลับยิงได้แม่นและเร็ว บอลพุ่งเข้าช่องระหว่างเสากับขาของ ฟาเบียนสกี้ ที่มีอยู่นิดเดียว 

ปืนใหญ่จึงกลับมาได้เต็มตัวพร้อมเสียงเชียร์กระหึ่ม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อาร์เตต้า บอกว่าพลังเชียร์ในสนามมีส่วนช่วยอย่างมากในชัยชนะนัดนี้ 

"เราทำประตูได้ในช่วงเวลาสมบูรณ์แบบ และแฟนบอลก็สุดยอดมากซึ่งรวมถึงตอนที่เราเสียประตูด้วย พวกเขายังคงเชื่อมั่นในทีม และเปล่งเสียงดังตอนที่เรายิงได้ และสร้างโมเมนตัมที่ต้องการสำเร็จ"

เอ็นเคเทียห์ พลิกยิงได้อย่างสมบูรณ์แบบ

แม้เหลือเวลาอีกพอสมควรสำหรับ เวสต์แฮม ในการลุ้นตีเสมอ ทว่าความมั่นใจอยู่ฝั่ง อาร์เซน่อล เต็มกราฟ และก่อนเข้าสู่ 20 นาทีสุดท้ายก็มาได้ประตูปิดจ๊อบจากลูกยิงอันสุดยอดของ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์

เป็นการโจมตีที่ยอดเยี่ยมของเจ้าบ้าน เบน ไวท์ งัดบอลหนีผู้เล่นทีมเยือนอย่างเหนือชั้นก่อนจ่ายให้ โอเดการ์ด ชิ่งต่อไปถึง เอ็นเคเทียห์ ที่เหมือนจะพลิกเข้าใน แต่หลอกไปอีกด้านเพื่อหนี ธิโล เคห์เรอร์ ก่อนหมุนตัวยิงด้วยขวาเข้าเสาไกลอย่างเด็ดขาด

ประตูนี้สำคัญต่อ อาร์เซน่อล ที่ตอกฝาโรงได้แน่นหนามากขึ้น แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคือเป็นประตูที่ เอ็นเคเทียห์ ต้องการมากๆ 

เขารู้ตัวเองดีว่าต้องยิงประตูหรือทำอะไรบางอย่างออกมาเพื่อช่วยทีมให้ได้ในช่วงที่ เชซุส ต้องพักรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์ โอกาสต่อจากนี้จะมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นต้องคว้าให้ได้ 

ขุนค้อนพยายามฮึดสู้เต็มที่กับสกอร์ที่เป็นฝ่ายตามหลัง 2 ประตู แต่ทำได้แค่จังหวะฉาบฉวยเพราะปืนใหญ่ยังคงเป็นฝ่ายควบคุมสถานการณ์ และบุกต่อเนื่อง เก็บจังหวะสองได้ดีกว่า เร็วกว่า และเล่นได้ตามเสียงเชียร์ของแฟนบอล

ฟอร์มในครึ่งหลังของ อาร์เซน่อล คุ้มค่ากับสิ่งที่แฟนบอลรอคอยเกมลีกมานาน พวกเขาได้ชมฟุตบอลที่เอนเตอร์เทน มีความสุขคละเคล้าไปเข้ากับบรรยากาศช่วงคริสต์มาส และได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ

ปืนใหญ่ชิงโอกาสหนี แมนฯ ซิตี้ เป็น 8 คะแนนก่อนที่เรือใบสีฟ้าจะไปเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด ในวันพุธนี้ ทว่าห่างจาก นิวคาสเซิ่ล ที่มาแรงสุดๆ 7 คะแนนเท่าเดิมเพราะทัพสาลิกาไม่พลาดในการบุกขยี้ เลสเตอร์ ซิตี้ 

แฟนปืนแฮปปี้กับในวันบ็อกซิ่งเดย์

สถิติดีงามหลายอย่างยังคงอยู่ และเป็นความท้าทายของทีมต่อไปไม่ว่าจะเป็นชนะเกมลีกในบ้าน 7 นัดติด และเป็น 10 นัดติดเมื่อรวมกับฤดูกาลที่แล้ว 

เป็นทีมเดียวในลีกที่ยิงประตูได้ทุกนัด ไม่มีขาดตกบกพร่อง 

สามแนวรุก ซาก้า, เอ็นเคเทีย์ และ มาร์ติเนลลี่ มีสกอร์ทุกคน และมาจากการจ่ายของตัวปั้นเกมทั้ง โอเดการ์ด และ ชาคา 

เป็นสิ่งที่ดีสุดที่มอบให้แฟนบอลได้ในวันแกะกล่องของขวัญ และทั้งหมดเกิดขึ้นต่อหน้า เวนเกอร์ ที่ทุกคนรอคอยการปรากฏตัวที่สนามมานานถึง 1,688 วัน 

ได้ฉลองบ็อกซิ่งเดย์กันอย่างชื่นมื่นถ้วนหน้า