แต่สำหรับ 'อีทีเอช' มันคือเกมที่ยังไม่ดีพอหรือเป็นที่สุดและมีหลายอย่างที่ต้องปรับปรุงโดยเฉพาะการป้องกันและหยุดฝ่ายตรงข้ามไม่ให้เดิมเกมคุกคาม เพราะหากใครที่ชมถ่ายทอดสดจะพบว่าถ้าไม่มี ดาบิด เด เคอา ทีมมีโอกาสเสียประตูและเจองานหนักกว่านั้นแน่นอน

เป็นอีกครั้งที่ผู้รักษาประตูชาวสเปนแสดงผลงานที่ดีออกมาในการช่วยป้องกันจังหวะสำคัญๆ หลายครั้ง เรียกได้เต็มปากว่า บอร์นมัธ มีโอกาสจบสกอร์หลายครั้งจนเหนื่อยแต่ไม่สามารถผ่านมือเจ้าเดฟไปได้เลยสักหนเดียว

จะว่าเป็นเรื่องดีก็ใช่ที่ เด เคอา แสดงผลงานยอดเยี่ยมออกมา แต่หากมองในมุม เทน ฮาก นั่นคือสิ่งที่ต้องปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นไม่ใช่ปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามสร้างโอกาสได้มากมายเหมือนนัดล่าสุด

เข้าใจที่กุนซือวัย 52 ปีพยายามสื่อไปถึงลูกทีมว่าเล่นให้ 'ฉลาดขึ้น' ซึ่งมันถือเป็นก้าวต่อไปของทีม ในแง่นี้รวมทั้งเกมรุกที่ต้องเฉียบคมและเกมป้องกันที่ต้องแน่นอนกว่านี้ในการปิดโอกาสฝ่ายตรงข้าม

โดยเฉพาะเกมรับที่จะให้ไปอาศัยโชคช่วยเหมือนเกมที่ผ่านมาทุกนัดคงไม่ใช่ แน่นอน เด เคอา เป็นผู้รักษาประตูที่ดีแต่ไม่ได้การันตีเสมอว่าเขาจะป้องกันได้ทุกจังหวะไปตลอด

อีกสิ่งหนึ่งที่ เทน ฮาก พยายามจี้ไปยังนักเตะคือการดูจังหวะการเล่นอย่าเร่งจนเกินไป เพราะบางครั้งช่วงที่สกอร์นำห่างไปแล้วลูกทีมยังคงเร่งเกมเหมือนเดิม จุดนี้กุนซือชาวเนเธอร์แลนด์จึงอยากให้นักเตะพิจารณาตามสถานการณ์และเดินเกมอย่างเหมาะสมมากกว่าที่เกิดขึ้น

ถือเป็นขั้นตอนที่ค่อยๆ พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งชัยชนะดังกล่าวมาพร้อมรอยยิ้มและความพึงพอใจของทุกคนในทีม แถมยังช่วยให้มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นจากเดิมไปอีกระดับ

รายละเอียดต่างๆ คืองานที่ต้องกลับไปนั่งพูดคุยและทำความเข้าใจหลังจากนี้ มันคือขั้นตอนที่ทุกคนต้องสอดประสานลงลึกในการประชุมทีม ซึ่งแน่นอนว่าจะมีการพัฒนาที่รุดหน้าออกมาให้เห็นอย่างแน่นอน

สัญญาณที่ดีต่างๆ ถูกส่งออกมา ตอนนี้ทีมคว้าชัยเป็นเกมที่ 6 ติดต่อกันจากทุกรายการโดยเฉพาะ 4 นัดหลังสุดที่ไม่เสียประตูเลย สิ่งนั้นสร้างความพึงพอใจให้ เทน ฮาก อย่างมาก เพราะกุนซือรายนี้คิดว่าการมีทางเลือกในแนวรับหลายคนทำให้ตนเองสามารถจัดทีมตามความเหมาะเพื่อลงเล่นในแต่ละนัด แถมแฟนบอลยังได้เห็นการทดลองอะไรบางอย่างในช่วงที่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟนัดกันไม่พร้อมช่วยงานหลายคน

ไม่ต่างจากตำแหน่งอื่นๆ ที่เขาต้องการให้มีทางเลือกมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพราะยิ่งมีทางเลือกให้ใช้งานมากเท่าไหร่นั่นหมายถึงความเป็นไปได้การจัดทีมที่ดีที่สุดตามความเหมาะสมในแต่ละเกม

หลังจากนี้ ปิศาจแดง ยังคงมีคิวลงสนามต่อเนื่องแต่เปลี่ยนบรรยากาศเป็นศึก เอฟเอ คัพ รอบ 3 ที่ดวลกับ เอฟเวอร์ตัน คืนวันศุกร์

แม้ทาง ทอฟฟี่สีน้ำเงิน กำลังทำผลงานไม่แน่นอนเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายชนิดที่บทจะเล่นออกมาดูดีก็ดีน่าใจหาย (เหมือนเกมบุกเสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1) แต่บทจะหลุดก็หลุดง่ายๆ เหมือนนัดล่าสุด (แพ้ ไบรท์ตัน คารัง 1-4) 

กระนั้น เทน ฮาก ไม่ประมาทแน่นอนเพราะตั้งแต่ที่กุนซือรายนี้เข้ามาทำทีมในรั้ว โอลด์ แทรฟฟอร์ด เขามั่นใจแล้วว่าแต่ละเกมคือสนามรบที่ต้องลงไปแล้วคว้าชัยให้ได้โดยไม่มีข้อแม้และไม่มีนัดไหนที่ง่ายเลย

ยิ่งศึก เอฟเอ คัพ มีความสำคัญในแง่ของรายการที่ ยูไนเต็ด มีความหวังในการพุ่งชนความสำเร็จ จึงเป็นเวทีที่แฟนบอลจำนวนไม่น้อยหมายมั่นว่าทีมจะทำผลงานออกมาดูดีและเดินหน้าไปตามเส้นทางจนถึงรอบลึกๆ อย่างที่คาดหวัง

บวกกับการเจอ เอฟเวอร์ตัน ตั้งแต่รอบ 3 จึงเป็นอีกบททดสอบสำคัญของ เทน ฮาก ในการผลักดันทีมให้เดินหน้าสานต่อผลงานที่ดีเช่นนี้ 

สำหรับ 'อีทีเอช' มันคือการเดินหน้าไปทีละนัด และแน่นอนว่าเกมต่อไปกับ เอฟเวอร์ตัน คือสิ่งที่เขากับลูกทีมให้ความสนใจเป็นอันดับหนึ่งไม่มองไปไกลเกินกว่านั้นหรือคิดไปถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น มีเพียงเกมวันศุกร์นี้เท่านั้นที่อยู่ในหัวพวกเขา

แต่สำหรับแฟนบอลถือเป็นช่วงสำคัญของสโมสรในการลงเล่นฟุตบอลถ้วยสองรายการติดต่อกัน เพราะหลังจาก เอฟเวอร์ตัน ทีมมีคิวเปิด โรงละครแห่งความฝัน รับมือ ชาร์ลตัน ในเวที คาราบาว คัพ วันอังคารหน้า

ถือเป็นอีกรายการที่แฟนบอลคาดหวังให้ ปิศาจแดง หลุดไปยังรอบตัดเชือกให้ได้เพราะถือเป็นเรื่องดีที่สามารถหลบเลี่ยงสโมสรในลีกสูงสุดแล้วจับไปชน ดาบอัศวิน จากลีก วัน 

จึงไม่แปลกที่เหล่าสาวกหมายมั่นเช่นนั้นและต้องการให้ทีมเข้าไปยืนในรอบรองชนะเลิศให้ได้อย่างที่หวัง ซึ่งหลังจากนั้นจะดวลกับใครก็พร้อมเจอเพราะมาถึงรอบตัดเชือกแล้วไม่ว่าพบทีมไหนก็หนักพอกัน แต่สิ่งที่ชัดเจนคือทุกคนพร้อมเดินหน้าชน

แต่ด่านแรกที่ต้องทำให้สำเร็จคือผ่านด่าน ชาร์ลตัน ไปให้ได้เสียก่อน และนั่นคืองานต่อไปหลังจากเกมสำคัญกับ เอฟเวอร์ตัน วันศุกร์นี้

หลังจากนี้จะเป็นการเปลี่ยนอารมณ์จากบอลลีกมาเป็นบอลถ้วย 2 รายการติดต่อกัน แต่สำหรับ เทน ฮาก และลูกทีมมันคือการสานต่อโมเมนตัมและรักษาสมาธิให้คงเดิมเพิ่มเติมด้วยการเล่นที่แน่นอนขึ้นไป ซึ่งคงไม่ต่างจากเกมก่อนหน้านนั้นที่พร้อมลงไปสร้างฟอร์มการเล่นและคว้าผลการแข่งขันอย่างที่ตั้งใจ 

นอกจากนั้นสิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจนคือจิตวิญญาณของความมุ่งมั่นในการเอาชนะ จุดนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะไม่ว่าจะดวลกับใครหน้าไหนทีมต้องรักษาเรื่องเหล่านั้นให้คงเดิมพร้อมเดินหน้าพุ่งหาชัยชนะอย่างที่ต้องการ