แต่การจะไปถึงขั้นนั้นได้ พวกเขาจำเป็นต้องใช้รายการ WAFF 10th Men Championship - UAE 2023 ซึ่งทีมชาติไทย จะไปร่วมแข่งขันที่ประเทศยูเออี ในระหว่างวันที่ 20 มีนาคม - 2 เมษายน 2566 ในการล้มบรรดาทีมอาหรับให้ได้ในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว
เนื่องจากเป็นการแข่งขันแบบฟีฟ่า เดย์ ทำให้มีการรับคะแนนในส่วนนี้ ซึ่งมีถึง 9 ชาติ ที่แรงกิ้งดีกว่าเรา ไม่ว่าจะเป็น บาห์เรน (85), อิรัก (68), จอร์แดน (84), เลบานอน (100), โอมาน (75), ปาเลสไตน์ (93), ซาอุดิอาระเบีย (49), ซีเรีย (90), ยูเออี (70)
ส่วนอีก 2 ชาติ ที่ต่ำกว่าทีมชาติไทย ในอันดับ 111 ของโลกเวลานี้ ก็คือ คูเวต (148) และ เยเมน (154) นั่นจึงเป็นสาเหตุที่เราควรจะใช้ในรายการนี้ ขยับอันดับโลกให้ได้ แถม บ.ไทยลีก จำกัด ยังทำการขยับลีกสูงสุดของเมืองไทยให้อีก
ประกอบด้วย สัปดาห์ที่ 24 วันที่ 18-19 มีนาคม 2566 เปลี่ยนไปแข่งวันที่ 16-17 มีนาคม 2566 และในช่วง สัปดาห์ที่ 25 วันที่ 1-2 เมษายน 2566 เปลี่ยนไปแข่งวันที่ 18-19 เมษายน 2566 เพื่อให้ทีมชาติไทย ได้เดินทางตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม จนถึง 2 เมษายน หากว่าเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้
ซึ่ง มาโน โพลกิ้ง กุนซือทีมชาติไทย ยืนยันแล้วว่า ผู้เล่นจากต่างแดนจะเรียกเข้ามาอย่างแน่นอน นำโดยจาก 2แข้งของทีมใน เจลีก ทั้ง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ของทีม คาวาซากิ ฟรอนตาเล่, สุภโชค สารชาติ ของทีม คอนซาโดเล่ ซัปโปโร
รวมถึง นิโคลัส มิเคลสัน แบ็คขวา โอบี โอเดนเซ่ ที่กำลังอยู่ในช่วงของการเตรียมเดินทางมากับสโมสร เพื่อทำการเข้าแคมป์ในเมืองไทย โดยปีก่อนเขาทำผลงานในการเติมเกมรุกให้กับทีมชาติไทย ยู 23 ได้อย่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน กระทั่งมาเข้าตาเฮดโค้ชช้างศึก
ส่วนกลุ่มผู้เล่นจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เจ้าตัวมองเอาไว้ ทั้ง ศุภชัย ใจเด็ด และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดเหลือเกิน หลังกลับมาจากการไปฝึกซ้อมอย่างหนักกับ เลสเตอร์ซิตี้ ยอดทีมแห่งเกาะอังกฤษครั้งที่สอง
แน่นอนว่าผลจับสลากออกมาเป็นอย่างไรเรามีแต่ได้กับได้ เพราะจะได้รู้ว่าเราสามารถต่อกรกับทีมระดับอาหรับได้มากขึ้นหรือไม่ ไม่เช่นนั้นเราคงจะเก่งเพียงแค่ในอาเซียนอย่างเดียว อีกทั้งรายการนี้ยังเป็นการเตรียมความพร้อมที่ดีในการลุย เอเชียน คัพ 2023 ด้วย
ทัวร์นาเมนต์นี้ เอเอฟซี มีการประกาศเลือก กาตาร์ เป็นเจ้าภาพ พร้อมกับปรับโปรแกรมเดิมจาก 16 มิ.ย.-16 ก.ค.66 ไปแข่งขันช่วง ม.ค.67 ซึ่งส่งผลให้กาตาร์ได้เป็นเจ้าภาพรายการระดับใหญ่ถึง 3 รายการอย่างต่อเนื่อง ฟุตบอลโลก 2022 20 พ.ย.-18ธ.ค.65,23 ปีชิงแชมป์เอเชีย2024 10-28 ม.ค.67 และ เอเซียนคัพ2023 ม.ค.67
โดย มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือทีมชาติไทย ได้เปิดใจถึง อาเซียน คัพ สู่ WAFF คัพ ว่า "แนวทางการทำงานในรายการ AFF ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ เราสามารถป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ ซึ่งผมเองก็ต้องการพาทีม กลับไปเป็นเบอร์ 1 ของทวีปอาเซียนให้ได้”
"นอกจากนี้ผมยังได้หารือถึงภารกิจสำคัญอีกมากมาย สำหรับการเตรียมทีมชาติไทย โดยเฉพาะการแข่งขันรายการต่อไป อย่างศึก WAFF ที่ประเทศยูเออีในช่วงเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งแน่นอนว่าผมจะยังทำงานหนักต่อไป เพื่อยกระดับทีมชาติไทย เตรียมตัวให้พร้อมและพิสูจน์ตัวเองต่อไปในอีกระดับ"
ต้องมาคอยดูว่าในการส่งรายชื่อนักเตะ 30 คนแรกนั้น ทีมชาติไทย จะมีเซอร์ไพรส์นักเตะคนใดหรือไม่ เพราะรายการนี้เป็น ฟีฟ่า เดย์
แข้งไทยทั่วทุกมุมโลกที่ มาโน โพลกิ้ง ติดตามอยู่นั้น ก็มีโอกาสมาแสดงแสนยานุภาพให้เห็นเป็นประจักษ์ได้ด้วยอย่างแน่นอน
