แม้จะหายใจได้สะดวกขึ้น แต่ถ้าพูดกันตามตรง นี่คือปีที่ทัพ "นกใหญ่พิฆาต" ทำผลงานได้น่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากมองย้อนกลับไปในช่วงฤดูกาลก่อน พวกเขาคือ 1 ใน 4 ทีมที่ได้เตะเพลย์ออฟเลื่อนชั้น 

และแม้จะออกสตาร์ทแมทช์แรกของฤดูกาลใหม่ด้วยชัยชนะก็ตาม แต่เมื่อเข้าสู่การแข่งขันระยะยาวแบบเต็มตัว พวกเขาก็หาฟอร์มเก่งจากเมื่อฤดูกาลที่แล้วไม่เจอ ทำให้ต้องตกลงไปอยู่ในโซนสีแดงอย่างไม่น่าเชื่อ จากทีมที่เคยได้ลุ้นเลื่อนชั้นเมื่อปีก่อน กลับกลายมาเป็นต้องหนีตกชั้นอย่างเต็มตัว

นั่นทำให้สโมสรต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วนในช่วงปลายเลกแรก โดยเฉพาะกับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอน และนำมาซึ่งการตัดสินใจแยกทางกับ ดาเนียล บลังโก้ กุนซือชาวอาร์เจนติน่า เปลี่ยนไปใช้บริการโค้ชรุ่นใหม่ไฟแรงอย่าง "อ๊อตโต้" พันธุ์นารายณ์ พันธุ์ศิริ แทน

อันที่จริงแล้ว เราอาจเคยได้ยินหรือคุ้นชื่อของชายหนุ่มผู้นี้มาอยู่บ้าง ในฐานะที่เป็นเจ้าของเพจฟุตบอลชื่อดังอย่าง "THE NEXT COACH" รวมไปถึงการสอบผ่านเอไลเซนส์ของเอเอฟซี ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย และผ่านการทำงานให้กับหลายๆ สโมสรในประเทศไทยมาแล้ว

แต่ถึงแม้จะมีประสบการณ์อยู่บ้าง ก็ต้องบอกว่าการเข้ามารับเผือกร้อนในถิ่นเขาพลอง สเตเดี้ยมนั้น ไม่ใช่งานง่ายเลยสักนิด ด้วยเพราะมีปัญหาที่ต้องทำการแก้ไขอยู่หลายจุด และที่สำคัญ เขาเข้ามาในช่วงปลายเลก เลยยังไม่มีสิทธิ์เลือกตัวผู้เล่นใช้งานเท่าไหร่นัก

"โค้ชอ๊อตโต้" จึงเริ่มต้นการคุมทีมด้วยความพ่ายแพ้ต่อเชียงใหม่ เอฟซี และอุทัยธานี เอฟซี ก่อนส่งท้ายเลก 1 ด้วยการบุกไปแพ้ระยอง เอฟซี เท่ากับว่าผลงานใน 3 นัดแรกของเขานั้น จบลงด้วยความปราชัยทั้งหมด และไม่มีคะแนนติดมือเลยสักแต้มเดียว 

แต่ถ้าตัดเรื่องผลการแข่งขันออกไป กระแสตอบรับจากแฟนบอลชัยนาทก็ถือว่าเป็นไปในทิศทางที่บวก นั่นเพราะทีมมีทรงบอลในการเล่นมากกว่าเดิม ต่อบอลกันสวยงาม และดูเหมือนว่านักเตะทุกคน จะสู้กันมากกว่าเดิมเช่นกัน

แล้วช่วงเวลาที่รอคอยก็มาถึง ทันทีที่ตลาดนักเตะเปิดทำการ กุนซือหนุ่มวัย 26 ปีรายนี้ ก็จัดเต็มในเรื่องของตัวผู้เล่นเลยทีเดียว

ทีมเสียประตูเยอะ ก็เซ็น "จูเนียร์" ปฐมทัตน์ สุดประเสริฐ ผู้รักษาประตูจอมเซฟจากราชประชาเข้ามาอุดรอยรั่ว รวมไปถึงการได้ตัวสันติภาพ แย้มแสน เซ็นเตอร์แบ็คที่เลกแรกเล่นอยู่กับกระบี่ เอฟซี เข้ามาเพิ่มความแน่นในแดนหลังอีกหนึ่งราย

ทีมยิงประตูได้น้อย ก็จัดการสอย เกร็ก ฮูล่า แนวรุกชาวฝรั่งเศสที่เป็นเดอะแบกของอุดรธานี เอฟซี ในช่วง 17 นัดแรกเข้ามาแก้ปัญหา ทั้งยังได้จาตุรงณ์ พิมพ์คูณ อดีตเยาวชนทีมชาติไทยรุ่นชนาธิป สรงกระสินธ์ เข้ามาเป็นตัวสแตนด์บายอีกต่างหาก

แค่นั้นยังไม่พอ เพราะยังได้ตัว เวลลิงตัน พริโอรี่ หนึ่งในนักเตะที่เป็นขวัญใจแฟนบอลจากฤดูกาลที่แล้ว เข้ามาช่วยขับเคลื่อนเกมในแดนกลางของทีมอีกครั้ง

อย่างที่กล่าวไปในตอนต้น เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้ว ทัพ "นกใหญ่พิฆาต" ฝูงนี้ ก็ดูเหมือนจะฟื้นคืนชีพได้สำเร็จ พวกเขาออกสตาร์ทเลกสองด้วยการเปิดบ้านแซงชนะทีมแกร่งอย่าง คัสตอมส์ ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์ 2-1 ต่อด้วยการบุกเสมอทีมที่เล่นในบ้านได้ดีมากๆ อย่างแพร่ ยูไนเต็ด 3-3 

ขณะที่ผลการแข่งขันในนัดล่าสุดที่พึ่งจบลงไป ก็ลงเอยด้วยการเสมอกับเกษตรศาสตร์ เอฟซี 0-0จากที่แพ้ติดกันในช่วง 3 นัดแรก ก็เปลี่ยนเป็นไร้พ่ายใน 3 นัดหลัง 

ถึงจะยังอยู่ในโซนท้ายตาราง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชัยนาทในมือของ "โค้ชอ๊อตโต้" ดูมีความหวังขึ้นเยอะ และบางที เขาอาจไม่ได้โฟกัสแค่การหนีตกชั้นก็ได้ เพราะแต้มที่ตามหลังโซนเพลย์ออฟอยู่นั้น ก็ไม่ได้ห่างกันซะทีเดียว

ฟุตบอลไทยลีก 2 ยังคงเหลือการแข่งขันอีกหลายนัดครับ เมื่อดูจากทิศทางแล้ว ก็ไม่แน่เหมือนกันว่าบางที ชัยนาทอาจจะสร้างเซอร์ไพรส์เข้ารอบเพลย์ออฟ 3 ฤดูกาลติดก็เป็นได้ ใครจะไปรู้ ซึ่งถ้าหากทำได้จริงๆ แล้วล่ะก็

ชายหนุ่มที่ชื่อ พันธุ์นารายณ์ พันธุ์ศิริ จะได้รับการจดจำในฐานะของ "ผู้ปลุกนกใหญ่ให้ฟื้นคืนชีพ" อย่างแน่นอน !!!