การปราชัยที่ สต๊าด หลุยส์ II ทำให้ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง แพ้เป็นเกมที่ 4 ตั้งแต่กลับมาลงสนามอีกครั้งหลังจบศึกฟุตบอลโลก

สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความขุ่นเคืองให้สาวก 'ปารีเซียงส์' อย่างมาก ถึงขนาด เพรสแนล คิมเพมเบ้ ต้องถือโทรโข่งไปพูดคุยแฟนบอลหลังจบเกมล่าสุด เพราะบรรดากองเชียร์สโมสรไม่พอใจอย่างที่สุด

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ เพราะตั้งแต่ เปแอสเช สถาปนาตนเองเป็นหนึ่งในยอดทีมฝรั่งเศส และยกระดับหลังการมาของกลุ่มทุนกาตาร์ ทุกอย่างดำเนินไปพร้อมกับความคาดหวังที่สูงขึ้นทุกปี

ความคาดหวังดังกล่าวดำเนินและพัฒนาไปพร้อมความสำเร็จที่จับต้องได้ในแต่ละปี และที่สำคัญคือผลงานในระดับสูงที่ต้องพัฒนาต่อเนื่องแถมห้ามสะดุดเป็นอันขาด

สิ่งเหล่านั้นคือข้อบังคับต่ำสุดที่กุนซือแต่ละคนต้องแบกรับและกลายเป็นแรงกดดันยามทำหน้าที่ในถิ่น ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ จึงไม่แปลกที่มีการพูดแดกดันทำนองว่า 'ทำดีเสมอตัว ทำแย่ก็รอรับกรรม (โดนปลด) ได้เลย'

เรื่องดังกล่าวกำลังกัดกินและเล่นงาน คริสโตฟ กัลติเย่ร์ อย่างหนักในตอนนี้ การปราชัยให้กับ โอลิมปิก มาร์กเซย ในบอลถ้วยถือเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้เพราะนอกจากจะตกรอบ เฟร้นช์ คัพ มันคือการทำให้อริไม่เผาผีได้ไปต่อไปในรายการนี้

แถมความพ่ายแพ้นัดล่าสุดยังทำให้บรรยากาศเลวร้ายลงไปกว่าเดิม ความกดดันจึงพุ่งเป้าไปหา กัลติเย่ร์ แบบเลี่ยงไม่ได้

ฝั่งกุนซือวัย 56 ปียอมรับตรงไปตรงมาว่ากังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ่งอาจจะเป็นไปหลังจากนี้ เพราะทีมกำลังมีปัญหาในส่วนของสภาพทีมที่เจออาการบาดเจ็บ แถมผลงานโดยรวมไม่ดีเหมือนช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล

หากพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ก็พอเข้าใจสถานการณ์ของ เปแอสเช ณ ตอนนี้ เพราะช่วงที่ผ่านมาแทบจะไม่ได้ใช้งานผู้เล่นได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ละคนสลับหายหน้ากันไป และที่สำคัญคือกรณี คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้

แม้ คิมเพมเบ้ ออกมาแก้ตัวว่า เปแอสเช ไม่ได้ขึ้นอยู่กับกองหน้าวัย 24 ปี แต่จากผลงานที่ออกมาล่าสุดจึงไม่แปลกที่จะโดนตั้งคำถามเช่นนั้น เพราะเมื่อไม่มี เอ็มบั๊ปเป้ ทีมมักเจอผลงานที่น่าผิดหวัง

หลังจากนี้จึงน่าสนใจว่าสถานการณ์ของ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง จะดีขึ้นหรือไม่ โดยเฉพาะ 5 เกมต่อไปจะเจองานหนักไล่ตั้งแต่ บาเยิร์น มิวนิค (แชมเปี้ยนส์ ลีก), ลีลล์ (ลีก เอิง), มาร์กเซย (ลีก เอิง), น็องต์ (ลีก เอิง) และปิดท้ายด้วย เสือใต้ ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมนัดที่สองช่วงต้นเดือนหน้า

ที่น่าสนใจเพราะอาจจะเป็นช่วงเวลากำหนดอนาคต กัลติเย่ร์ ในฐานะกุนซือใหญ่ หลังจากมีรายงานว่าเจ้าของทีมที่กาตาร์เริ่มส่งสัญญาณไม่พอใจฟอร์มในช่วงนี้อย่างมาก

5 เกมต่อไปจึงไม่ต่างจากบทพิสูจน์ว่า กัลติเย่ร์ สมควรเป็นายใหญ่เปแอสเชต่ออีกหรือไม่ และอีกมุมมันอาจจะเป็นเกมนับถอยหลังชะตากุนซือวัย 56 ปี

เริ่มต้นด้วยศึกสำคัญที่สโมสรตั้งเป้าไว้สูงมากในการรับมือ บาเยิร์น บนเวที 'ยูซีแอล' วันอังคารนี้ ทุกสายตาโดยเฉพาะแฟนบอลปารีเซียงส์จะจับตาไปยังผลงานในสนาม และคาดหวังให้ผลลัพธ์ออกมา 'ดูดี' เท่านั้น

แรงกดดันที่กำลังถาโถมเป็นสิ่งที่ กัลติเย่ร์ คาดไว้แล้วตั้งแต่ตกลงรับงานในรั้ว ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ แม้สถานการณ์ตอนนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่อยากพบเจอ แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ต้องพาทีมผ่านไปให้ได้ ซึ่งไม่ใช่แค่การกลับไปทำผลงานให้ออกมาดูดีแต่มันอาจจะเป็นการกำหนดอนาคตของเขาอีกด้วย

5 เกมต่อไป (หรือมากน้อยไปกว่านี้อยู่ที่ความอดทนของบอร์ดบริหาร) จึงน่าติดตามความเป็นไปในรั้ว ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ว่าจะเป็นเช่นไร และเราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลง (อีกครั้ง) หรือไม่