:::     :::

คุณภาพที่ต่างกัน

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 คอลัมน์ โรงเตี๊ยมลูกหนัง โดย ทอมมี่ ท่ามะกา
772
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ตำแหน่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกเปลี่ยนมืออีกครั้งหลังเกมซูเปอร์บิ๊กแมตช์ที่ผู้ชนะมีคุณภาพมากกว่าและคู่ควรกับการแซงขึ้นนำบนหัวตาราง

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นจ่าฝูงได้สำเร็จหลังบุกชนะ อาร์เซน่อล ถึงเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ได้อย่างไร้ข้อกังขา

จุดชี้ขาดสำคัญในเกมนี้คือ "คุณภาพ" ที่ แมนฯ ซิตี้ เหนือกว่าโดยเฉพาะจังหวะชี้เป็นชี้ตายในเขตโทษ 

อาร์เซน่อล เล่นได้ดีในครึ่งแรก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ยอมรับว่า "ในครึ่งแรก อาร์เซน่อล ดีกว่าเราเยอะ เราไม่ได้เล่นด้วยความเข้มข้นมากพอ บางทีอาจเพราะผมเปลี่ยนแปลงบางสิ่ง และมันยังไม่ดีพอ"

เป๊ป ปรับทัพตำแหน่งเดียวจากนัดชนะ แอสตัน วิลล่า 3-1 ด้วยการส่ง นาธาน อาเก้ ลงเล่นเกมรับแทน เอ็มเมอริค ลาปอร์กต์

ส่วน มิเกล อาร์เตต้า ปรับสองจุดจากนัดเสมอ เบรนท์ฟอร์ด 1-1 โธมัส ปาร์เตย์ บาดเจ็บกล้ามเนื้อ จอร์จินโญ่ ตัวใหม่จาก เชลซี จึงได้ลงตัวจริงนัดแรก ส่วนแบ็กขวาสลับให้ ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ เล่นแทน เบน ไวท์

สถิติเจอกันช่วงหลัง แมนฯ ซิตี้ ข่มชนิดบอลคนละชั้นด้วยการชนะรวด 10 นัดรวดในลีก และเป็นฝ่ายคอนโทรลเกมตลอด  

ต่างจากเกมนี้ที่ อาร์เซน่อล ครองบอลและผ่านบอลได้มากกว่า ทว่าไม่เด็ดขาดในจังหวะจบสกอร์และมีความผิดพลาดในเกมรับ

โทมิยาสึ ส่งคืนหลังไม่ดีเข้าทาง เควิน เดอ บรอยน์ ที่วิ่งเข้ายิงจังหวะเดียวไม่ต้องจับ อารอน แรมส์เดล พยายามออกมาขวางแล้วแต่เซฟไม่ได้

ก่อนพลาดจังหวะนี้ อาร์เซน่อล น่าจะขึ้นนำก่อนจากลูกโหม่งเน้นๆ ในเขตโทษของ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ แต่สะบัดมากไปหน่อย บอลจึงหลุดเสาออกหลังน่าเสียดาย


เดอ บรอยน์ ลงโทษทันทีในความผิดพลาดของ อาร์เซน่อล

หลังพลาดแล้วโดนทันที อาร์เซน่อล มีโอกาสต่อเนื่องทั้ง โทมิยาสึ ที่ได้วอลเลย์ในเขตโทษข้ามคาน และ บูคาโย่ ซาก้า รับบอลจากเพื่อนในพื้นที่โล่งๆ แต่เลือกล็อกเข้าซ้ายจนมีผู้เล่นซิตี้พุ่งมาขวางได้ทัน 

แต่ อาร์เซน่อล ก็ได้ประตูตีเสมอจนได้ในช่วงเวลาที่ดี คือก่อนจบครึ่งแรกจากจุดโทษที่ เอ็นเคเทียห์ หลุดไปตวัดยิงมุมแคบแล้วโดน เอแดร์ซอน ทำฟาวล์ ก่อนเป็น ซาก้า รับหน้าที่ยิงไม่พลาด

จังหวะนี้ถกเถียงกันเล็กน้อยว่าควรเป็นจุดโทษหรือไม่ แต่ตามกฎค่อนข้างเคลียร์ว่า เอแดร์ซอน ออกมาแล้วไม่โดนบอล และ เอ็นเคเทียห์ มีโอกาสตามไปเล่นจังหวะสองได้หากไม่โดนฟาวล์ก่อน 

โมเมนตัมหลังจบครึ่งทางแรกอยู่ฝั่ง อาร์เซน่อล ที่ตามตีเสมอได้ แถม แมนฯ ซิตี้ ได้ใบเหลืองถึง 3 ราย

แต่ครึ่งหลังกลับไม่เป็นอย่างนั้น อาร์เซน่อล ครองบอลและต่อบอลได้มากกว่าเหมือนเดิม ทว่าเรื่องของคุณภาพและประสิทธิภาพเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่กินขาด 

เรือใบสีฟ้าเล่นได้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก เป๊ป เผยถึงการปรับเกมว่า "ตั้งแต่นาทีแรกของครึ่งหลัง เราไล่เพรสสูงขึ้น และเอาเป็นเอาตายยิ่งกว่าเดิม เราเล่นได้ดุดันมากขึ้นเยอะ และทำได้ดีกว่าเดิมมากๆ"

เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ คือตัวอย่างชัดเจนสุดในการเล่นเพรสซิ่งสูงที่เข้มข้นจริงจังของ แมนฯ ซิตี้ 

ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกคนปัจจุบันเล่นงานเกมรับ อาร์เซน่อล ได้อย่างต่อเนื่อง ความแข็งแกร่งของร่างกาย ความมุ่งมั่น ทำเอาตัวประกบอย่าง กาเบรียล มากัลเญส ลิ้นห้อยหลายจังหวะ และเกือบเรียกจุดโทษได้ด้วยหากไม่ล้ำหน้าเสียก่อน 

นี่คือจุดเด่นของ ฮาแลนด์ ที่ต่อให้เกมนี้ไม่ได้ยิงปิดท้ายก็ยังเป็นผู้เล่นที่มีส่วนสำคัญช่วยให้ซิตี้เก็บชัยชนะได้ 

ในเกมที่ แมนฯ ซิตี้ ไม่ได้เป็นฝ่ายครองบอลเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่ ฮาแลนด์ ยังเป็นตัวเป้าที่เพื่อนร่วมทีมสามารถฝากบอลยาวไปถึงได้ตลอด เขามีคุณสมบัติทุกอย่างที่หน้าเป้าควรมีในการดวลกับกองหลังคู่แข่ง  

ขณะที่ตัวสนับสนุนอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ และ แจ็ค กรีลิช ต่างหนุนหลังคอยเสริมจังหวะสองได้ดีและยิงได้ทั้งคู่ 


ซาก้า เหนื่อยไม่น้อยในการปั้นเกม

แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสยิงในครึ่งหลัง 5 ครั้ง เข้ากรอบทั้งหมด และได้ 2 ประตู ส่วน อาร์เซน่อล ได้ยิงเพียง 3 ครั้ง และไม่เข้ากรอบเลย นี่คือความต่างระหว่างทั้งสองทีม

อาร์เตต้า ยอมรับในความพ่ายแพ้โดยกล่าวว่า "มันเป็นการต่อสู้ที่สุดยอดระหว่างสองทีม เราเสียประตูให้พวกเขาแบบง่ายๆ ซึ่งในทางกลับกัน เราก็มีโอกาสจะแจ้งสามครั้ง แต่ทำไม่ได้"

"การเอาชนะพวกเขาให้ได้ เราต้องเล่นให้เหนือกว่าระดับที่เราเล่นเพราะพวกเขามีคุณภาพ เรายกระดับสู้ได้ แต่ความยอดเยี่ยมของพวกเขาแต่ละคนในเขตโทษก็ชี้ขาดเกมได้ พวกเขาดีกว่าเราจริงๆ"

ขณะที่ มาร์ติน โอเดการ์ด ก็มองตามความจริงในทิศทางเดียวกันว่า "เกมนี้ชี้ขาดกันในเขตโทษ และเราไม่เฉียบขาดมกาพอทั้งหน้าประตู (คู่แข่ง) และเขตโทษเราเอง พวกเขาทำได้ดีกว่า"

"ที่เหลือ เราเล่นกันได้ดี ทำได้เยี่ยมในหลายอย่างและมีช่วงที่ดีมากมาย แต่เราต้องทำให้ดีกว่านี้ในเขตโทษ"

"ในเกมฟุตบอล บางครั้งก็คว้าโอกาสได้ บางครั้งก็ไม่ได้ แต่นั่นคือสิ่งที่เราต้องปรับปรุงและเด็ดขาดให้มากขึ้น รวมถึงต้องป้องกันเขตโทษเราเองด้วย มันไม่ใช่เรื่องของนักเตะเดียงคนเดียว แต่ทุกคนในทีม"

แมนฯ ซิตี้ ได้ครองบอลเพียง 36 เปอร์เซ็นต์ในเกมนี้ เป็นสถิติน้อยสุดของทีมในยุค เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และน้อยสุดตั้งแต่ เป๊ป ในอาชีพกุนซือที่เริ่มจาก บาร์เซโลน่า และ บาเยิร์น มิวนิค

ไม่บ่อยนักที่ แมนฯ ซิตี้ จะเป็นรองคู่แข่งในเรื่องการครองบอล แต่สิ่งที่ยังมีเหมือนเดิมคือคุณภาพในการจบสกอร์ซึ่งเป็นข้อแตกต่างที่ทำให้บุกชนะ อาร์เซน่อล ได้เป็นครั้งที่ 7 ติดต่อกันในลีก

การยึดตำแหน่งจ่าฝูงได้ของ แมนฯ ซิตี้ เป็นการคว้าโอกาสที่เหวี่ยงเข้าหาได้อยู่หมัดในช่วงที่ อาร์เซน่อล สะดุดเก็บได้เพียงคะแนนเดียวจาก 3 นัดหลังในลีก และไม่ชนะ 4 นัดติดในทุกรายการ 


ฮาแลนด์ ซัดปิดท้ายหลังป่วนเกมรับปืนจนรวน

ขณะที่ อาร์เซน่อล สิ่งที่ต้องรีบทำให้ได้คือกลับมาชนะอีกครั้งให้เร็วที่สุดเพราะการที่เคยนำถึง 8 คะแนน แต่ถูกทาบเป็นที่เรียบร้อยก็คงไม่ต้องย้ำหลายรอบว่าพวกเขาจะพลาดอีกไม่ได้แล้วถ้าหากต้องการเป็นแชมป์ในฤดูกาลนี้ 

เกมนี้พวกเขาได้เห็นข้อผิดพลาดของตัวเองมากมายเหลือเกินทั้งเกมรุกที่ควรเด็ดขาดมากกว่านี้โดยเฉพาะ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ กับสองโอกาสทองได้โหม่งเหน่งๆ แต่ไม่เข้ากรอบ 

เช่นเดียวกับเกมรับที่ต้องลดความผิดพลาดลง มีสมาธิ และมั่นใจกว่านี้ ไม่ใช่โอนไปเอนมาราวกับว่าไม่ใช่แนวรับที่เคยได้รับการยกย่องอย่างมากในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก 

ทั้งสองทีมจะต้องเจอกันอีกนัดที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ในวันพุธที่ 26 เมษายน ความได้เปรียบทุกอย่างจะอยู่ที่ฝั่งเรือใบเต็มๆ 

ระหว่างทางก่อนถึงนัดดังกล่าว อาร์เซน่อล ต้องลงเล่นอีก 12 นัด แบ่งเป็นพรีเมียร์ลีก 10 นัด และยูโรปา ลีก อีก 2 นัด

ส่วน แมนฯ ซิตี้ มีคิวลงสนาม 12 นัดใน 3 รายการทั้งพรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และยูโรปา ลีก และจะมากขึ้นหากเข้ารอบบอลถ้วยได้ 

เมื่อถึงตอนนั้น น่าสนใจเหลือเกินว่าคะแนนของ แมนฯ ซิตี้ กับ อาร์เซน่อล จะเป็นอย่างไร และแน่นอนว่าผลการแข่งขันนัดล่าสุดที่เจอกันน่าจะมีผลไม่น้อยกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด