:::     :::

เพชรเม็ดโตจากสเปน สเตฟาน ไบจ์เซติก

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
745
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ในวิกฤติ​แดนกลางของ ลิเวอร์พูล​ ฤดูกาล​นี้ แสงสว่างเล็ก ๆ ที่ปลายอุโมงค์อันเรืองรองก็คือการพุ่งขึ้นมาในดาวรุ่งวัย 18 ที่ชื่อ สเตฟาน ไบจ์เซติก

เด็กหนุ่มโนเนมคนนี้ย้ายจาก เซลต้า บีโก้ ในสเปนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เจอร์เก้น คล็อปป์ ตอนเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021 ซึ่งในตอนนั้นเขาเพิ่งจะมีอายุครบ 16 ปีเท่านั้นเอง ใครจะไปคิดล่ะครับว่าอีก 24 เดือนต่อมาเขาจะกลายเป็นตัวความหวังใหม่ในแดนกลางของทีมไปอย่างรวดเร็ว


เรื่องที่หลายคนไม่รู้มาก่อนก็คือ ไบจ์เซติก เคยเล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟมาก่อน โดยมีจุดเด่นคือนอกจากจะเล่นเกมรับได้เก่งกาจแล้ว เขาพาบอลขึ้นมาสร้างเกมรุกให้ทีมได้ในเวลาเดียวกันอีกด้วย ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่ทำให้เขาถูกตัดเปลี่ยนพันธุกรรมมาเล่นเป็นกองกลางเต็มตัวอย่างที่เห็นในปัจจุบัน 




ไบจ์เซติก ประเดิมสนามชุดใหญ่ให้ ลิเวอร์พูล​ เกมแรกคือวันที่ชนะ บอร์นมัธ 9-0 และได้สัมผัสประสบการณ์​ในถ้วยยุโรปเกมแรกคือวันที่ดวลกับ อาแจ๊กซ์​ โดยลงมาในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แม้จะอยู่ในสนามไม่นานแต่นั่นคือสัญญาณสำคัญที่ คล็อปป์ พยายามบอกกับเราว่าเจ้าหนูคนนี้มีแววสำหรับการเล่นให้ ลิเวอร์พูล​ ในอนาคตอย่างแน่นอน


อนาคตที่ว่ามาถึงเร็วกว่าที่ทุกคนคาดหวังครับ จะบอกว่าขื่อของ ไบจ์เซติก เริ่มอยู่ในสายตาของเดอะค็อปจริงจังคือในเกมอุ่นเครื่องช่วงฟุตบอลโลก กับรายการที่ชื่อว่า ดูไบ ซูเปอร์​ คัพ โดยเขาถูกส่งลงเป็นตัวจริงทั้งสองนัด และทำผลงานได้ไม่แย่เลย ก่อนจะมาได้รับโอกาสจริงจังมากขึ้นโดยไล่ตั้งแต่เกมคาราบาวคัพ นัดที่แพ้ แมนเชสเตอร์​ ซิตี้​ 2-3 และมาสตาร์ตตัวจริงยิงยาว ๆ ตั้งแต่เกมเอฟเอ คัพ ที่ชนะ วูลฟ์ฯ 1-0 เรื่อยมาจนถึงเกมกับ เอฟเวอร์ตัน เมื่อสุดสัปดาห์​ที่ผ่านมา​ โดยเป็นการลงเล่นในฐานะ 11 ตัวจริงติดต่อกัน 5 นัดเลยทีเดียว


ไบจ์เซติก ลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล​ ในฤดูกาล​นี้ไปแล้วถึง 13 นัด ยิงได้ 1 ประตู หากนับแค่ในเกมพรีเมียร์​ลีก​เขาลงเล่นไป 6 นัด สตาร์ตตัวจริงไป 3 นัด คิดเป็นนาทีคือ 283 นาที, จ่ายบอลสำเร็จไป 101 ครั้ง แม่นยำราว ๆ 81%, สร้างโอกาสทำประตู 4 หน, แท็คเกิ้ลชนะ 3 จาก 5 ครั้ง และตัดบอล แย่งบอลคืนมาได้อีก 6 ครั้ง นับว่าเป็นตัวเลขที่ดีพอตัวเลย


กัปตันทีมอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน พูดถึงเขาว่า "สเตฟาน ทำได้ดีเกินคาดมาก ๆ นับตั้งแต่ย้ายมา และเขาก็โผล่ขึ้นมาสู่ทีมในช่วงเวลาที่เหมาะสม" 


"กับเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ เขาเล่นได้ดีเยี่ยมและสร้างความแตกต่างตรงกลางสนามได้ เขามีส่วนสำคัญในการช่วยทำให้เกมของเรากลับมาดีเหมือนเดิม" 


ไบจ์เซติก เติบโตขึ้นมาอย่างถูกที่ถูกเวลา เพราะในช่วงนี้กองกลางของ ลิเวอร์พูล​ ล้วนอยู่ในช่วงขาลงและฟอร์มตกกันแทบทั้งสิ้น นอกจากนี้เขายังทำประตูแรกให้ทีมได้แล้วในเกมชนะ แอสตัน วิลล่า 


"มันน่าเหลือเชื่อมากที่ผมเริ่มต้นกับทีมได้ดี ผมมีหน้าที่แค่ลงมาในสนาม พยายามวิ่งและช่วยเกมรับ นั่นคืองานของผม แต่เมื่อทำประตูได้ด้วย มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกเหมือนฝัน นั่นคือประตูแรกกับทีม และผมก็หวังว่าจะทำมันได้เรื่อย ๆ ในอนาคต"




เกมกับ วิลล่า คือนัดที่เขาทำประตูแรกได้ก็จริง แต่เกมที่ทำให้ชื่อของเขาเข้าไปนั่งในใจแฟนบอลก็คือเกมชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 ในนัดล่าสุดมากกว่าครับ เพราะเกมนั้นเขาเล่นดีมาก จ่ายบอลแม่นยำ 77% ซึ่งการจ่ายบอลส่วนใหญ่คือการรุกคืบไปด้านหน้าไม่ใช่การแปะบอลสั้น ๆ ง่าย ๆ เพลย์เซฟ โดยเป็นการจ่ายบอลเข้าพื้นที่อันตรายถึง 10 ครั้งเลยทีเดียว


นอกจากนี้ยังสร้างโอกาสให้ทีมได้ลุ้นประตู 2 ครั้ง, วางบอลยาวสำเร็จ 3 จาก 6 ครั้ง, ตัดบอลแย่งบอลสำเร็จ 5 ครั้ง, เข้าสกัดบอลมากที่สุดในสนาม และที่น่าสนใจก็คือ เขาพาบอลเลี้ยงหลบคู่แข่งได้มากถึง 5 ครั้ง มากที่สุดในบรรดากองกลางของ ลิเวอร์พูล​ เกมนี้เลยทีเดียว อีกทั้งช่วงที่เปลี่ยนตัวออกนั้ย แฟนบอลในแอนฟิลด์ยังลุกขึ้นปรบมือกันดังกึกก้องสนามอีกต่างหาก


หลังจบเกมนั้น ทางเว็บไซต์ สกาย สปอร์ตส์​ เลือกให้ ไบจ์เซติก เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ แถม เดวิด แมดด็อค นักข่าวของเดอะ มิร์เรอร์ ยังเอ่ยปากชมว่าเป็นดาวรุ่งที่มีอนาคตมากในทีมชุดนี้


"ผมจำไม่ได้แล้วว่าเคยเห็นเด็กอายุ 18 คนไหนที่ลงเล่นเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ เป็นครั้งแรกแล้วเล่นได้นิ่งขนาดนี้ เขาอ่านเกมได้ดีมาก ผมมองเห็นอนาคตที่สดใสของเขารออยู่ในอีกไม่นานนี้แน่นอน" 


ขณะที่ ไบจ์เซติก เองยอมรับว่าคือนั่นคือเกมที่จะอยู่ในความทรงจำและจะพยายามพัฒนาตัวเองต่อไปอย่างหนัก


"เกมกับ เอฟเวอร์ตัน ผมได้ยืนเยื้องไปทางซ้ายซึ่งมันเป็นตำแหน่งที่แตกต่างออกไป แต่ผมสนุกสนานกับมันมาก ๆ นะ ผู้คนบอกว่านี่คือเกมที่ดีของผม แต่ผมรู้ดีว่าเกิดขึ้นได้เพราะทุกคนช่วยกัน มันเป็นชัยชนะที่สำคัญสำหรับเรา และตอนนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะเดินหน้าต่อไป และเก็บชัยชนะเกมต่าง ๆ มากขึ้น"


"นี่คือปีที่ผมรู้สึกว่าบ้าระห่ำมากนะ หนึ่งปีก่อนผมเล่นในระดับทีมยู-18 และตอนนี้ผมได้ลงเล่นที่แอนฟิลด์ ซึ่งนั่นเกิดขึ้นในปีเดียว ผมกำลังสนุกกับหลาย ๆ อย่างที่นี่ และจะทำให้ดีต่อไป"


ไม่ใช่แค่นักข่าวหรือคนนอกที่มองว่าเขายอดเยี่ยม แต่ โม ซาลาห์ เองยังอดชื่นชมเจ้าหนูคนนี้ไม่ได้เช่นกัน


"เขาทำงานหนักมากตั้งแต่ย้ายมา ในช่วงที่ทีมกำลังระส่ำ เขาเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดของทีม ผมหวังว่าเขาจะรักษาความมั่นใจและฟอร์มการเล่นนี้ต่อไปได้นาน ๆ"


สเตฟาน ไบจ์เซติก อาจไม่ได้มีอะไรเด่นจนต้องฮือฮา แต่นาทีนี้เขาคือดาวรุ่งของ ลิเวอร์พูล​ ที่มีอนาคตสดใสที่สุด อายุน้อย มีวิสัยทัศน์​ มีทักษะการเล่นที่ยอดเยี่ยม และมีโอกาสที่จะเติบโตไปข้างหน้าได้ไกลกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน ดีไม่ดีอาจไปได้ไกลกว่า เคอร์ติส โจนส์ รุ่นพี่ที่เคยเปรี้ยงปร้างมาก่อนด้วยซ้ำ


เราไม่รู้หรอกครับว่าอนาคตของ ไบจ์เซติก จะเป็นอย่างไรต่อไป จะเดินตามรอย สตีเว่น เจอร์ราร์ด หรือไม่อยู่กับร่องกับรอยแบบ โจนส์ แต่การพุ่งขึ้นมาท่ามกลางสถานการณ์​ที่ย่ำแย่ของทีมแบบนี้ิก็พอจะยืนยันได้อย่างหนึ่งว่าเด็กคนนี้มีดีพอตัว และอาจไปได้ไกลเกินกว่าที่แฟนบอลคาดหวังก็เป็นได้


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด