สำหรับ ฟเดริโก้ เคียซ่า แนวรุกทีมชาติอิตาลี ที่ต้องบอกว่า เขาต้องแบกรับความกดดันมาตั้งแต่อายุยังน้อย เนื่องจากคุณพ่อของเขาเป็นนักเตะชื่อดังของทีมชาติอิตาลี มาก่อน ทำให้เกิดการเปรียบเทียบกันเป็นเรื่องธรรมดา
ช่วงนี้ เราลองย้อนกลับไปดูเส้นทางลูกหนังของเขากัน ลองไปดูหน่อยว่า เขาสลัดร่มเงาของผู้เป็นพ่อได้อย่างไร และเพราะเหตุใด เขาถึงพิสูจน์ตัวเอง ด้วยการก้าวมาเป็นนักฟุตบอลระดับโลกเหมือนทุกวันนี้
เฟเดริโก้ เคียซ่า คือเด็กจากเมืองเจนัว ประเทศอิตาลี เติบโตมาพร้อมกับแบบอย่างที่ดี เมื่อคุณพ่อของเขาคือเอ็นริโก้ เคียซ่า กองหน้าของทัพ “อัซซูรี่” ที่เคยผ่านการค้าแข้งกับทีมดังในบ้านเกิด ทั้งซามพ์โดเรีย, ปาร์ม่า, ฟิออเรนติน่า และลาซิโอ
สำหรับเฟเดริโก้ เคียซ่า เริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมท้องถิ่นในเมืองฟลอเรนซ์ ก่อนถูกรับเข้าสู่ระบบเยาวชนของฟิออเรนติน่า ด้วยวัยเพียง 10 ขวบ
แน่นอนว่า เขาต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างหนัก เพราะบางคนมองเขาว่าเป็นเด็กเส้น หรือมีโอกาสดีกว่าเด็กคนอื่น เนื่องจากมีพ่อที่เคยเล่นกับทัพ “ม่วงมหากาฬ” แถมยิงประตูถล่มทลาย
อย่างไรก็ตาม เขากลับมีเส้นทางลูกหนัง และพรสวรรค์เป็นของตัวเอง โดยได้รับการยืนยันจากปากของ เฮอร์นาน เครสโป อดีตเพื่อนร่วมทีมของพ่อที่ปาร์ม่า ที่กล่าวว่า
“ผมเคยทำนายไว้ว่า เขาจะก้าวมาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน ผมเฝ้าดูเขาเล่นฟุตบอลที่สวนหลังบ้าน ตั้งแต่ที่เขายังเป็นเด็กแล้ว มันน่าเหลือเชื่อมาก การเคลื่อนไหวของเขา ช่างเหมือนกับพ่อเหลือเกิน”
หากจะมีสิ่งหนึ่งที่แตกต่างจากคุณพ่อ เฟเดริโก้ เคียซ่า ไม่ได้เป็นกองหน้าเสียทีเดียว โดยสามารถจู่โจมทางริมเส้น รวมถึงสนับสนุนอยู่หลังกองหน้าตัวเป้า จุดเด่นอีกอย่างคือพลัง และความมุ่งมั่น
หากมีพื้นที่ให้เล่นแล้ว เขาจะจัดการลากบอลใส่กองหลังแบบตัวต่อตัว สัญชาตญาณแรกของเขา คือการเลี้ยงบอลจี้ใส่คู่แข่งที่อยู่ใกล้ที่สุด
กระทั่งในช่วงปี 2016 เขาก้าวมาเล่นทีมชุดใหญ่ เป็นผลสำเร็จ โดยที่ “เปาโล ซูซ่า” อดีตผู้จัดการทีมฟิออเรนติน่า ซึ่งเป็นคนที่ผลักดันเขาสู่ทีมชุดใหญ่ ออกมาบอกว่า สาเหตุที่เด็กคนนี้ขึ้นมาเล่นกับทีมไม่ใช่เพราะการมีพ่อเป็นอดีตนักเตะชื่อดัง
แต่มาจากการเอาชนะใจคนอื่นๆ ด้วยพลังอันแรงกล้า และความกระตือรือร้น ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่คนอยากเห็นในตัวนักฟุตบอลสักหนึ่งคน
“ลูกชายของผมเล่นฟุตบอลด้วยความสุข นี่คือจุดเด่นที่สุดของเขาเลย” คุณพ่อของเขาออกมากล่าวบ้าง “เขาจะต้องเดินหน้าต่อไปในเส้นทางนี้ รวมถึงการทำผลงานให้ดีกับ ฟิออเรนติน่า"
"คุณอยากเปรียบเทียบเขากับผมหรอ ? เขายังเป็นนักเตะอายุน้อยอยู่เลย เราควรให้เวลาเขาเติบโต เขาต้องสนุกกับตัวเองต่อไป”
ด้วยฟอร์มการเล่นที่น่าประทับใจกับฟิออเรนติน่า ทั้งการยิงประตู และสร้างสรรค์เกม ทำให้เขาถูกเรียกติดทีมชาติอิตาลี ชุดใหญ่ พร้อมกับโดนทีมหัวแถวของประเทศอย่างยูเวนตุส ยืมตัวไปใช้งาน และซื้อตัวขาดในที่สุด
หากใครยังจำกันได้ ผลงานสร้างชื่อของเขา เกิดขึ้นในศึกยูโร 2020 ของเขาคือ ยิงไป 2 ประตู พร้อมกับเป็นนักเตะที่เลี้ยงบอลฝ่าคู่แข่งมากสุดในทีมที่ 24 ครั้ง อย่างที่เราทราบกัน เขาจบทัวร์นาเมนต์ด้วยการพาทีมชาติอิตาลี คว้าแชมป์มาครองอย่างยิ่งใหญ่
“ในฐานะนักฟุตบอล ผมทุ่มเท 200 เปอร์เซนต์ เพื่อเป็นการพัฒนาตัวเอง” เฟเดริโก้ เคียซ่า กล่าวทิ้งท้าย
