จากเด็กหนุ่ม 'โนเนม' กลายมาเป็นสตาร์ระดับโลกที่ถูกยกย่องว่าตอนนี้เป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ตัวกลางที่ดีที่สุดของโลกยุคปัจจุบัน ทุกอย่างได้พิสูจน์ออกมาบนสนามทั้งในนามสโมสรและทีมชาติ

จึงไม่แปลกที่แข้งวัย 19 ปีจะเป็นที่หมายตาของทีมใหญ่ทั่วยุโรปทั้งใน อังกฤษ, เยอรมนี, สเปน หรือ ฝรั่งเศส ที่พร้อมทุ่มเงินดึงตัวไปครอง

พัฒนาการของ เบลลิงแฮม ถือว่าน่าสนใจเพราะตั้งแต่มีข่าวหรือกลายเป็นกระแสในวงการฟุตบอลเมื่อปี 2019 กองกลางชาวอังกฤษเลือกทางเดินของตนเองด้วยการย้ายไป โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

ณ บุนเดสลีกา เหมือนเป็นเวทีที่ช่วยผลักดันและสร้าง เบลลิงแฮม ให้กลายมาเป็นดาวดังแบบในปัจจุบันนี้ แน่นอนว่าปัจจัยสำคัญคือตัวนักเตะเองที่พัฒนารุดหน้าไปไกลและสร้างผลงานอันเอกอุออกมา แต่อีกส่วนสำคัญคือ ดอร์ทมุนด์ มอบโอกาสและเชื่อใจส่งลงสนามซึ่งผลตอบแทนก็เป็นอย่างที่เห็น

กระนั้นผลที่ตามมาอีกอย่างคือสายตาจากทีมใหญ่ที่กำลังจับจ้องพร้อมแย่งตัวไปครองหลังจบฤดูกาลนี้ 

เป็นเรื่องธรรมดาและเป็นวัฏจักรที่เกิดขึ้นในวงการฟุตบอล โดยเฉพาะ ดอร์ทมุนด์ ที่กลายเป็นสิ่งปกติไปเสียแล้วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพราะสโมสรมักจะดึงนักเตะอายุน้อยฝีเท้าดีเข้าสังกัด ให้โอกาสลงสนาม พัฒนาฝีเท้า และหลังจากนั้นคือการขายทำกำไร เหมือนกรณีของสองดาวเตะ เจดัน ซานโช่ และ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เป็นต้น

แม้กรณี เบลลิงแฮม อาจจะแตกต่างตรงที่ ดอร์ทมุนด์ พยายามรั้งตัวนักเตะให้อยู่กับทีมอีกหนึ่งปีและปรารถนาต่อสัญญา (ไม่ว่าจะในแง่การผูกมัดหรือขยายอำนาจการเจรจาซื้อขายในอนาคต) แต่ทุกอย่างกำลังอยู่บนเส้นทางที่ไม่แน่นอน

ยิ่งมีกระแสข่าวโหมกระหน่ำเข้ามาต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากฝั่งสเปนที่พยายามโยง เบลลิงแฮม กับ เรอัล มาดริด แบบไม่ขาดสาย หรือทางอังกฤษที่เทไปฝั่ง ลิเวอร์พูล ก็กำลังพยายามเล่นข่าวนี้อย่างหนัก (มีบางรายถึงขั้นลงลึกว่า เบลลิงแฮม เลือก ลิเวอร์พูล เป็นอนาคตของตนเองเป็นที่เรียบร้อย)

ใช่ว่าจะมีเพียงสองทีมข้างต้นที่สนใจมิดฟิลด์วัย 19 เพราะทีมใหญ่เงินหนาจากเมืองแมนเชสเตอร์ทั้ง ยูไนเต็ด กับ ซิตี้ ที่เป็นคู่ค้าสำคัญของ ดอร์ทมุนด์ ก็จับตามองนักเตะเช่นกัน หรือแม้แต่ เชลซี, อาร์เซน่อล, ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง และ บาร์เซโลน่า ซึ่ง 'ดิ แอธเลติก' เชื่อว่าอยู่ในข่ายที่ตัดออกไปไม่ได้ (ถึงปัจจัยด้านอื่นๆ อาจจะเป็นสองทีมแรกและ แมนฯ ซิตี้ และ แมนฯ ยูไนเต็ด)

ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นที่น่าสนใจว่าอนาคตของ เบลลิงแฮม จะลงเอยเช่นไร ซึ่งหากพิจารณาสถานการณ์ ณ ปัจจุบันคงเร็วไปที่จะฟันธงได้อย่างชัดเจน เพราะทุกความเป็นไปได้ยังมีอยู่ แถมยังต้องรอปัจจัยประกอบที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากนี้อีกมากมาย

แต่สำหรับ ดิ แอธเลติก มองว่า หงส์แดง, เรือใบสีฟ้า, ปิศาจแดง และ ราชันชุดขาว เป็น 4 สโมสรตัวเต็งที่พร้อมล่าแข้งวัย 19 ปีและมีเงินทุนมากพอในการจ่าย 150 ล้านยูโรตามความต้องการของ ดอร์ทมุนด์ 

แน่นอนว่า 150 ล้านยูโรเป็นจำนวนเงินมหาศาล แต่หากพิจารณาในมุม ลิเวอร์พูล พวกเขาพร้อมทุ่มอยู่แล้วเพื่อให้ทีมกลับมาเข้ารูปเข้ารอยหลังจากโชว์แผลใหญ่ให้ทีมอื่นๆ ได้เห็นในฤดูกาลนี้ เพราะเมื่อแดนกลางของทีมอ่อนยวบลงไป หงส์แดง ที่เคยดุดันหนักแน่นก็ดูไม่เป็นท่าและพลาดง่ายๆ ให้เห็นอย่างต่อเนื่อง

แถมมีรายงานข่าวว่า เยอร์เกน คล็อปป์ ประกาศิตไปยังบอร์ดบริหารให้ดึงมิดฟิลด์ 'ชั้นนำ' เข้าทีม 2 รายในหน้าร้อนปีนี้ และหากไม่ทำตามเทรนเนอร์ชาวเยอรมันพร้อมโบกมือลา

จึงไม่แปลกที่ ลิเวอร์พูล พร้อมเดินหน้าทุ่มเงินสถิติสโมสรเพื่อสร้างแดนกลางให้กลับมาแข็งแกร่ง และมีชื่อ เบลลิงแฮม เป็นเป้าหมายเบอร์ 1 

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันไม่ง่ายแน่นอนเพราะทีมอื่นๆ พร้อมลงแย่งตัว ซึ่งจุดนี้อยู่ที่ว่าทีมไหนจะมีสาริกาลิ้นทองกล่อม เบลลิงแฮม ได้ดีกว่ากัน

หลังจากนี้เราจะได้เห็นกระแสข่าว เบลลิงแฮม อย่างต่อเนื่องแบบทุกทิศทางเหมือนเป็นการโหมโรงก่อนตลาดซื้อขายนักเตะหน้าร้อนปี 2023 มาถึง 

ทางด้านแฟนบอลก็คงอยู่ในอารมณ์ไม่ต่างกันที่อยากทราบอนาคตหลังจากนี้ของ เบลลิงแฮม ว่าจะเป็นเช่นไรต่อไป จะเล่นให้ ดอร์ทมุนด์ อีก 1 ปี (เป็นอย่างน้อย) หรือพร้อมมองหาความท้าทายใหม่ซึ่งมีเส้นทางมากมายให้รอเลือก

จบฤดูกาลนี้คงได้ทราบกันอย่างแน่นอน