:::     :::

เส้นทางสู่สถิติอันยิ่งใหญ่ของคิงโม

วันพฤหัสบดีที่ 02 มีนาคม 2566 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
754
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
6 ฤดูกาลของ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ในสีเสื้อของ ลิเวอร์พูล คือครึ่งทศวรรษแห่งความน่าทึ่ง เขาทำลายและทาบทับในหลาย ๆ สถิติของสโมสร และเดินหน้ารอวันขึ้นแท่นเป็นหมายเลขหนึ่งในอีกหลาย ๆ สถิติอย่างดุดัน ไม่เกรงใจใคร

ในเกมชนะ วูลฟ์ฯ เมื่อคืนนี้นั้น เขาเพิ่งทำสถิติยิงประตูให้ทีมถึงหลัก 20 ลูกมาติดต่อกัน 6 ฤดูกาล นับว่าเป็นแข้งรายที่สองที่ทำได้ต่อจาก เอียน รัช และหากว่าในปีหน้ายังฟอร์มดีแบบนี้อยู่ ดูท่าว่า ซาล่าห์ เตรียมตัวขึ้นแท่นเป็นเจ้าของสถิติสุดโหดนี้แต่เพียงผู้เดียวไปเลย


ซาล่าห์ ถือว่าเป็นปีกจอมถล่มประตูที่หงส์แดงขาดไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นแข้งระดับโลกซึ่งได้รับการยอมรับจากแฟนบอลอย่างไร้ข้อกังขามานานแล้ว แต่เรื่องที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้มาก่อนก็คือ เส้นทางลูกหนังของ โม ซาล่าห์ ก่อนจะมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล นั้น เขาต้องดิ้นรนพิสูจน์ตัวเองอย่างหนักเลยทีเดียว




โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ เกิดที่เมืองนากริก ในปี 1992 โดยตัวเขาเองนั้นมาจากครอบครัวธรรมดาไม่ได้ร่ำรวยอะไร ในทุกวันเขาต้องนั่งรถเมล์เกือบ ๆ 4 ชั่วโมงเพื่อไปซ้อมบอล ก่อนจะได้รับโอกาสสานฝันของตัวเองด้วยการย้ายมาอยู่กับ อัล โมเกาลูน เมื่ออายุ 14 ปี


ที่สโมสรแห่งนี้ ฟอร์มการเล่นของเขาอยู่ในสายตาของ โมฮาเหม็ด รัดวาน กุนซือทีมของชุดใหญ่มาโดยตลอด ก่อนจะถูกส่งลงประเดิมสนามในลีกสูงสุดของประเทศตั้งแต่อายุเพียงแค่ 17 ย่่าง 18 ปีเท่านั้น


3 ฤดูกาลกับทีมในบ้านเกิด ซาล่าห์ ที่เล่นปีกขวาซัดได้ทั้งหมด 12 ประตูจาก 44 นัดรวมทุกรายการ ซึ่งความเก่งกาจนี้ของเขาก็ไปเข้าตาทีมงานแมวมองของ บาเซิ่ล เข้าอย่างจัง จนทีมดังจากสวิตเซอร์แลนด์ถึงกับจัดเกมอุ่นเครื่องนัดพิเศษโดยเตะกับทีมชาติอียิปต์ชุดยู 23 เพื่อขอเช็คฟอร์มของ ซาล่าห์ โดยเฉพาะเลยทีเดียว


ซาล่าห์ เล่นเกมกระชับมิตรดังกล่าวแค่ครึ่งเวลาเดียว ซึ่งมันก็เพียงพอแล้วที่ บาเซิ่ล จะตัดสินใจขอซื้อตัวปีกจอมพลิ้วคนนี้ไปร่วมทีม การเจรจาซื้อขายลุล่วงไปด้วยดีแม้จะไม่มีตัวเลขชัดเจนว่าค่าตัวเท่าไหร่ แต่นั่นก็คือก้าวสำคัญของ ซาล่าห์ ที่ได้ออกตะลุยยุโรปเป็นครั้งแรก


ชีวิตในยุโรปกับ บาเซิ่ล เป็นไปอย่างราบรื่น 2 ฤดูกาลกับทีมดังจากแดนนาฬิกา ซาล่าห์ พาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ทั้ง 2 ครั้ง โดยยิงได้ฤดูกาลละ 10 ประตูจากตำแหน่งปีก ไฮไลต์เด่นของเขาคือเกมที่ บาเซิ่ล บุกไปเอาชนะ เชลซี ถึงสแตมฟอร์ด บริดจ์ 2-1 ซึ่งเขาเป็นคนยิงตีเสมอและจบเกมด้วยการเป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ อีกด้วย


จากฟอร์มการเล่นในเกมดังกล่่่าว ทำให้ เชลซี ต้องรีบควักเงินกว่า 11 ล้านปอนด์เพื่อดึงตัว ซาล่าห์ มาร่วมทีม โดยเขาประเดิมสนามในฐานะตัวสำรองบนเกมที่ชนะ นิวคาสเซิ่ล 3-0 ก่อนที่จะยิงประตูแรกของตัวเองได้ในอีก 7 นัดต่อมาซึ่งเป็นเกมที่ เชลซี ถล่ม อาร์เซน่อล ไป 6-0


แม้จะทำผลงานโดยรวมไม่แย่มาก แต่ ซาล่าห์ เป็นตัวเลือกลำดับท้าย ๆ ในทีมของ มูรินโญ่ เวลานั้น เนื่องจากตำแหน่งปีกมีทั้ง อาซาร์ กับ วิลเลี่ยน เป็นตัวเลือกแรก ดังนั้น เขาจึงถูกปล่อยให้ ฟิออเรนติน่า ยืมตัวไปร่วมทีมในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายปี 2015


"ตอนอยู่กับเรา ซาลาห์ ยังเด็กเกินไป เขามีความเร็วนะแต่ค่อนข้างปราะบาง เขายังปรับตัวกับฟุตบอลอังกฤษได้ไม่ดี ผมเคยส่งเขาลงสนามในเกมใหญ่อย่าง สเปอร์ส และ แมนฯ ซิตี้ นะ จากการประเมิน ผมว่าผมคิดถูกเพราะเกมที่นี่หนักเกินไปสำหรับเขาจริง ๆ" 


โชเซ่ มูรินโญ่ เคยให้สัมภาษณ์ถึงการปล่อยตัว โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ออกจากทีม


ที่ฟลอเรนซ์ ซาล่าห์ เลือกใส่เสื้อเบอร์ 74 เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์นองเลือดในพอร์ต ซาอิด บ้านเกิด โดยลงสนามให้ทีมไป 26 นัดยิงได้ 9 ประตู 4 แอสซิสต์จากทุกรายการ ไฮไลต์เด่น ๆ คือยิงประตู สเปอร์ส ได้ในยูโรปา ลีก, ยิงประตูชัยใส่ อินเตอร์ และบุกไปเหมา 2 เม็ดพาทีมชนะ ยูเวนตุส ในถ้วยโคปปา อิตาเลีย ถึงตูริน


เมื่อหมดสัญญากับ ฟิออเรนติน่า เขาถูกส่งตัวต่อไปยัง โรม่า ในฤดูกาลถัดมาทันที ถึงตอนนั้น ซาล่าห์ รู้ตัวดีแล้วว่าโอกาสของเขากับ เชลซี มันจบลงไปแล้ว


พอเขาย้ายมาอยู่กับ โรม่า กลายเป็นว่า ซาล่าห์ พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น เขาสอดประสานเกมรุกร่วมกับ เอดิน เชโก้ และ ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ อย่างกลมกล่อมลงตัว จนหมาป่าแห่งกรุงโรมตัดสินใจซื้อขาดจาก เชลซี ตอนปี 2016 ด้วยค่าตัวราว ๆ 15 ล้านปอนด์


2 ฤดูกาลกับ โรม่า ทั้งตอนยืมตัวและตอนซื้อขาด ซาล่าห์ เป็นตัวรุกคนสำคัญของทีมอีกทั้งยังเล่นได้โดดเด่นสุด ๆ เขายิงให้ทีมไป 34 ประตูจาก 83 นัด ก่อนที่จุดเปลี่ยนสำคัญในอาชีพของเขาจะเดินทางมาถึงเมื่อ ลิเวอร์พูล ทุ่มเงินกว่า 42 ล้านปอนด์มาคว้าตัวไปร่วมทัพ


การมาของ ซาล่าห์ ด้วยค่าตัวสูงลิบลิ่วทำให้แฟนบอลบางส่วนกลัวว่าจะเป็นการลงทุนที่ล้มเหลว เนื่องจากในอดีตนั้น นักเตะจากดินแดนไอยคุปต์ที่เป็นระดับโลกจริง ๆ แทบไม่มีเลย อย่างเก่งและเคยประสบความสำเร็จมากสุดก็แค่ได้เข้ามาเล่นในยุโรป โดยมี อาเหม็ด ฮอสซัม มิโด้ ที่อยู่กับ อาแจ๊กซ์ และ สเปอร์ส, โมฮาเหม็ด ซีดาน ในบุนเดสลีกา และใกล้เข้ามาอีกหน่อยก็เป็น อาเมอร์ ซากี้ ที่เคยอยู่กับ วีแกน เท่านั้น


แถม ซาล่าห์ ยังเอาตัวไม่รอดสมัยอยู่กับ เชลซี จนต้องระหกระเหินไปเล่นที่อิตาลีอีกต่างหาก นั่นจึงทำให้เกิดความกังวลขึ้นเล็ก ๆ ว่าดีลนี้จะสูญเปล่าหรือไม่




ทว่า การกลับมายังพรีเมียร์ลีกในภาค 2 คราวนี้ของ ซาล่าห์ มันคือเวอร์ชั่นอัพเกรดไปแล้ว ร่างกายของเขาแข็งแกร่งมากขึ้น มีความมั่นใจมากขึ้น มีประสบการณ์มากขึ้น ยิ่งได้ทำงานกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ เขายิ่งเลเวลอัพรัว ๆ ในทุก ๆ สัปดาห์


ซาล่าห์ ใช้เวลาไม่นานในการตอบทุกข้อสงสัยทั้งหมด เขาจบฤดูกาลแรกด้วยสถิติสุดยอดมากมายก่ายกอง ไล่ตั้งแต่ได้ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก, ยิงรวมทุกถ้วยถึง 44 ประตูจาก 52 นัด, มีส่วนร่วมต่อการได้ประตูของทีมเกิน 50 ลูก, เป็นนักเตะอียิปต์คนแรกที่ทำแฮตทริคในพรีเมียร์ลีก, เป็นนักเตะจากแอฟริกาคนแรกที่ยิงในลีกได้เกิน 30 ประตู เป็นต้น


นับนิ้วจนถึงปัจจุบัน ซาล่าห์ ยิงให้หงส์แดงไปแล้ว 175 ประตู 72 แอสซิสต์จากการลงเล่น 289 นัด เขาคว้าแชมป์มาได้หลายถ้วยตั้งแต่พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ, แชมป์สโมสรโลก, แชมป์ลีก คัพ และได้ดาวซัลโวลีกถึง 3 สมัย อีกทั้งยังเป็นนักเตะของ ลิเวอร์พูล คนแรกที่ได้ทั้งดาวซัลโวและท็อป แอสซิสต์ของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลเดียวกันอีกด้วย


ชีวิตที่ ลิเวอร์พูล เปลี่ยนเขาให้ขึ้นไปอยู่ในระดับโลกอย่างเต็มตัว แต่ในขณะเดียวกันการมีเขาอยู่ในทีม ก็ถือว่าเป็นการช่วยให้ ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมลุ้นแชมป์ในทุกรายการตลอด 6 ปีที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน แม้ว่าจะมีเป๋ไปบ้างในปีนี้ แต่การมีอยู่ของเขายังคงสำคัญและช่วยเหลือทีมได้เยอะแยะมากมายจริง ๆ


บนวัย 30 ปี คงไม่เกินเลยไปนะครับหากจะบอกว่า โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ คือตำนานอันยิ่งใหญ่อีกคนของแอนฟิลด์ และคงอีกนานเลยกว่าจะมีคนทาบทับสถิติต่าง ๆ ที่เขาทำได้แบบในวันนี้



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด