‘เหยี่ยวลิสบอน’ มีมาตรฐานสูงในแบบของตัวเอง
เรื่องตำแหน่งแชมป์ ลีกา โปรตุเกส หนล่าสุดที่ทีมทำได้อาจย้อนไกลถึง 2019 เพราะนั่นคือยุทธศาสตร์รอง
ขอไล่ล่าตามโอกาสอำนวย ปล่อยอริอย่าง ปอร์โต้ หรือ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ห้ำหั่นกันไป
แม้กระทั่งความก้าวหน้าด้านผลงานบนเวทีแชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ไม่ใช่เป้าหมายแรก
ในเมื่อยุทธศาสตร์หลักซึ่งได้ผู้อำนวยการอะคาเดมี่ เปโดร มิล-โอเมนส์ ที่เปรียบเหมือนผู้จัดการโรงงานเป็นคนกำหนด คือทำให้แน่ใจว่าได้ผลิตผู้เล่นดาวรุ่งที่ดีสุดของโปรตุเกสป้อนวงการ
อย่างฤดูกาลนี้ เบนฟิก้า แจ้งเกิด 3 แข้งจากทีมสำรองขึ้นชุดใหญ่
ไล่เรียงจาก กอนซาโล่ รามอส กองหน้าดีกรีทีมชาติโปรตุเกสชุดลุย เวิลด์ คัพ 2022 แถใทำแฮตทริกเกมพบสวิตเซอร์แลนด์
ปราการหลัง อันโตนิโอ ซิลวา และกองกลาง ฟลอเรนติโน่
ซึ่งประจวบเหมาะภาพรวมทีมอื่นๆมีสมดุลทีมของเทรนเนอร์ โรเจอร์ ชมิดท์ จึงมีลุ้นแชมป์ ลีกา โปรตุเกส ขณะที่เส้นทางชปล.ก็ผ่านคลับ บรูช สู่รอบก่อนรองฯ
“เราทั้งหมดชอบการเป็นแชมป์อยู่แล้ว แต่ถ้วยรางวัลจริงๆของเรา สิ่งหนึ่งที่สำคัญสุด คือได้เห็นลูกหม้ออย่าง ฟลอเรนติโน่ ของเรา, อันโตนิโอ ซิลวา ของเรา หรือ กอนซาโล่ รามอส ของเรา ก้าวสู่ชุดใหญ่” การเปิดปากของ มิล-โอเมนส์
“แล้วไม่เพียงแค่ติดทีม แต่ต้องแสดงคุณภาพและขีดความสามารถเพื่อยืนระยะตรงจุดนั้นให้นานให้ที่สุด”
“โชว์ให้ทุกคนดูว่าเด็กปั้นเราเตรียมตัวมาดี, มีของ, หัวจิตหัวใจกล้าแกร่ง เพื่อสามารถสร้างผลงานระดับสูง”
“เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้น เมื่อนั้นผมค่อยสามารถนั่งไขว่ห้างบนโซฟา แล้วพูดว่าภารกิจลุล่วง”
มองต่างมุมคือจุดแข็งของ เบนฟิก้า
เพราะหนึ่งในเป้าหมายที่ผอ.อะคาเดมี่ไม่เหนียมอายในกาบอกกล่าวนั่นคือปั้นเด็กขายออกราคาแพงๆ เพื่อระดมทุมซื้อแข้งประสบการณ์สนับสนุนชุดใหญ่
อ้างอิงจาก หอสังเกตการณ์ฟุตบอลแห่งศูนย์นานาชาติเพื่อการศึกษาด้านกีฬา (ซีไออีเอส) เมื่อปีก่อนที่ระบุงว่าอะคาเดมี่ เบนฟิก้า เป็นโรงงานปั้นเด็กขายที่ทำกำไรสูงสุดของวงการลูกหนังโลก
นับจากปี 2015 เป็นต้นมาประมาณตัวเลขที่ 379 ล้านยูโร
ตามด้วย เรอัล มาดริด 330 ล้านยูโร และ โมนาโก ลำดับสาม 285 ล้านยูโร
หนึ่งในดีลเด็กๆคือปล่อย ชูเอา เฟลิกซ์ ที่เพิ่งเดบิวต์ทีมซีเนียร์ปีเดียวสู่ แอต.มาดริด เป็นสถิติแพงสุดสโมสร 126 ล้านยูโร เมื่อปี 2019
ปีต่อมาเซนเตอร์แบ็ก รูเบน ดิอาส ซึ่งเข้าสังกัดตั้งแต่ 13 ขวบ โดนขายให้ แมนฯ ซิตี้ 68 ล้านยูโร
ก็นับเป็นศิษย์เก่า ‘เหยี่ยวลิสบอน’ ลำดับสี่ ณ เอติฮัด สเตเดี้ยม ร่วมกับนายด่าน เอแดร์ซอน โมราเอส, กองกลาง แบร์นาร์โด้ ซิลวา หรือแบ็กขวา ชูเอา กานเซโล่ ซึ่งปัจจุบันเล่นแบบยืมตัวที่ บาเยิร์น มิวนิค เมื่อตลาดม.ค.
วิสัยทัศน์ปั้นเด็กขายได้ผลอย่างมากรอบทศวรรษที่ผ่านมาสำหรับ เบนฟิก้า เพราะตีตัวเลขออกมาคร่าวทะลุ 1.2 พันล้านยูโร
เครือข่ายแมวมองอันทรงประสิทธิภาพก็เป็นเครื่องมือสำคัญสนับสนุนให้มีช้างเผือกเดินเข้าเอสตาดิโอ ดา ลุซ เนืองๆ
ยกตัวอย่าง เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ กองกลางที่ เชลซี เพิ่งคว้ามาตอนตลาดม.ค. 121 ล้านยูโรนั้น เดิมทาง เบนฟิก้า สอยจาก ริเวอร์ เพลท ตอนซัมเมอร์ 2022 ย่อมเยาเพียง 17 ล้านยูโร
ดาร์วิ่น แห่ง ‘หงส์แดง’ ก็เข้าข่ายเพราะขายไปเมอร์ซี่ย์ไซด์ 100 ล้านยูโร กำไรเกือบ 5 เท่าจากครั้งมาร่วมทัพเมื่อปี 2020 ราคาเพียง 24 ล้านยูโรจาก อัลเมเรีย
ทราบถึงตรงนี้ทางผจก.โรงงานปั้นนักฟุตบอลเด็กเผยหนึ่งเคล็ดลับความสำเร็จคือยิ่งปลูกฝังวัฒนธรรมลูกหนังแบบ เบนฟิก้า แก่เยาวชนในอะคาเดมี่ได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี
ตัวเลขไม่เคยโกหกซีซั่น 2021-22 กว่า 70%ของวัตถุดิบแห่งอะคาเดมี่ อายุน้อยเพียง 6-12 ขวบ
วิธีกวาดต้อนเด็กมากศักยภาพของ ‘เหยี่ยวลิสบอน’ ไม่ได้เพิ่งคิดทำในรอบ 2-3 ปีหลัง แต่ดำเนินตามโร้ด-แม็ปตั้งแต่ศักราช 2008
สโมสรเลือกกระจายสถาบันลูกหนังของตัวเองไปทั่งทุกภูมิภาคของประเทศโปรตุเกสเมื่อปี 2008
เจตนาเพื่อลดความแออัดของเด็กๆไม่ต้องมากองยังฐานบัญชาการใหญ่กรุงลิสบอน สามารถปลูกฝังศาสตร์ฟุตบอล แบบมีครอบครัวดูแลใกล้ชิด
ช่วงปีหลังๆ อะคาเดมี่ของ เบนฟิก้า จึงแข็งแกร่งขึ้นทัดเทียมขาใหญ่ภาคเหนือประเทศหน้าเดิมอย่าง เอฟซี ปอร์โต้ และ บราก้า
แล้วเพราะสาขาตามหัวเมืองทำให้เด็กภูธรแบบ รามอส กับ ซิลวา ที่ไม่ได้มาจากอะคาเดมี่ส่วนกลาง ก็ค่อยมาสมทบยังศูนย์ใหญ่เมื่ออายุถึงเกณฑ์
“ในพื้นที่กรุงลิสบอนมีคนกว่า 2 ล้านอาศัย แล้วเราไม่สามารถดูแลบรรดาเด็กๆได้มากพอ ดังนั้นก็พยายามทำงานเชิงรุกให้ครอบคลุมสุดทั่วประเทศ” มิล-โอเมนส์ อธิบายหลักการ
“การเปิดโอกาสให้พวกเขาได้อยู่กับอะคาเดมี่ยิ่งนานยิ่งดี เพราะสามารถปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรได้มีประสิทธิภาพ”
อีกข้อได้เปรียบของ เบนฟิก้า ที่สโมสรพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่มีทางทำได้คือการมีทีมสำรองที่ส่งแข่งใต้บรรยากาศจริงจัง ดวลพวกผู้ใหญ่ในดิวิชั่น 2
ในขณะที่ดาวรุ่งของลีกผู้ดีซึ่งด้อยโอกาสต้องถูกส่งเล่นยืมตัวเพื่อหาประสบการณ์แข่งในสังกัดอื่นๆ
ทาง เบนฟิก้า จัดเด็กแววดีของตัวเองซ้อมกับชุดใหญ่ได้เกือบทุกวัน แต่พอลงแข่งก็ไปลองวิชากับชุด บี
จึงเป็นเรื่องปกติที่จะเห็นเด็กอายุไม่ถึง 19 ปีวันหนึ่งเตะให้ทีมเยาวชน, ต่อมาเล่นชุด บี จากนั้นโผล่สัมผัสบรรยากาศชุดใหญ่ ในเวลา 7-10 วัน ทั้งหมดเกิดใต้ฤดูกาลเดียวกัน
“มันคือข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่” ผอ.อะคาเดมี่เสริมต่อ
“เราพยายามปรับหลักสูตรการสอน ระดับความเข้มข้นไปตามศักยภาพผู้เล่นในมือ หากไม่ทำแบบนั้นพวกเด็กๆจะเสียเวลา”
“นักกีฬาก็ดูชอบวิธีที่ทำอยู่เพราะพวกเขารู้สึกถึงการแข่งขันจริง, ซ้อมใต้สภาพแวดล้อมที่มากขึ้นกว่าแค่แบบฝึกตามเกณฑ์อายุ”
ความตั้งใจอีกอย่างของ มิล-โอเมนส์ คือได้เห็นลูกหม้อจากอะคาเดมี่เล่นให้ชุดใหญ่ เบนฟิก้า มากกว่าแค่ 1 ซีซั่นอย่างกรณี ชูเอา เฟลิกซ์
นั่นก็เพื่อประโยชน์ต่อพวกเขาเองในอนาคตอาชีพ หากถูกถ่ายทอดปรัชญาแบบ ‘เหยี่ยวลิสบอน’ เต็มหลักสูตร
แน่นอนว่าความอยากมันสวนทางกับความจริง ที่วงการลูกหนังหากเห็นเพชรเม็ดงามเด่นขึ้นมา ค่ายใหญ่ก็เร่งดูด
“เงื่อนไขที่สมบูรณ์แบบสุดคือให้ผลผลิตจากอะคาเดมี่ได้เล่นชุดใหญ่เพื่อแสดงผลงานมากกว่าแค่ฤดูกาลเดียว มากเท่าไหร่ยิ่งดี จากนั้นค่อยขายออกเพื่อถอนทุน”
“ทว่าอุตสาหกรรมนี้บางเวลาไม่มีกฎตายตัว มันเปิดโอกาสตลอด และสโมสรที่เข้ามาก็จ่ายตามศักยภาพที่จ่ายไหวแลกนักเตะเราไป”
“ถามใจก็อยากให้อยู่ด้วยกันนานขึ้น แม้ทราบดีว่าบางครั้งเรื่องพรรค์นั้นไม่มีทางเกิดขึ้น”
ติดตามซัมเมอร์ 2023 ลูกหม้อ เบนฟิก้า เด่นๆรุ่นล่าสุด กอนซาโล่ รามอส, อันโตนิโอ ซิลวา และ ฟลอเรนติโน่ จะลงเอยที่ใด
