โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ย้ายมาร่วมทีมบาร์เซโลน่า พร้อมกับทำผลงานอย่างยอดเยี่ยม นอกจากการนำเป็นดาวซัลโวในศึกลาลีกา สเปน ที่จำนวน 15 ประตู เขายังนำทีมบาร์ซ่า ยึดตำแหน่งจ่าฝูงของตารางคะแนนอย่างเหนียวแน่น
อย่างไรก็ตาม กว่าที่เลวานดอฟสกี้ จะก้าวมาประสบความสำเร็จ และเป็นยอดดาวยิงระดับโลกเหมือนทุกวันนี้ ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยนอกจากการฝึกซ้อมอย่างหนักแล้ว เขาต้องใส่ความเป็นมืออาชีพลงไปแบบสุดตัวด้วย
“ฟุตบอลไม่ใช่แค่สิ่งที่คุณเห็นในสนามแข่งขัน”
เลวานดอฟสกี้ เกิดที่กรุงวอร์ซอว์ เมืองหลวงของประเทศโปแลนด์ เขาเติบโตมาในครอบครัวนักกีฬา พ่อของเขาเป็นแชมป์ยูโดระดับประเทศ ขณะที่แม่ และพี่สาว ก็มีความเชี่ยวชาญด้านกีฬาวอลเลย์บอล
อย่างไรก็ตาม เลวานดอฟสกี้ ที่ชอบการเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่จำความได้ กลับพบว่าถนนสายนี้ไม่เคยเป็นเรื่องง่ายเลย ด้วยการเป็นเด็กที่ตัวเล็กกว่ารุ่นเดียวกัน เขาจึงถูกตัดตัวออกจากทีมเยาวชนอยู่เสมอ
ด้วยเหตุผลที่ว่า โครงสร้างร่างกายบอบบาง และไม่แข็งแรงตามมาตรฐาน ดาวรุ่งหลายคนอาจหมดกำลังใจ แต่สำหรับเขา มันคือเชื้อไฟที่สุมสู่ความสำเร็จ
ปัจจุบัน เขาคือเจ้าของฉายา “เดอะ บอดี้” จากสภาพร่างกายที่แข็งแกร่ง และกล้ามเนื้อที่สมบูรณ์ นอกจากปมในวัยเด็ก สิ่งสำคัญที่ขับเคลื่อนเขามายืนตรงจุดนี้ คือความเสียสละในการดูแลตัวเอง ที่เปลี่ยนจากเด็กที่ร่างกายผอมบาง กลายมาเป็นยอดดาวยิงที่บรรดาแฟนบอลยอมรับ
“ฟุตบอลไม่ใช่แค่สิ่งที่คุณเห็นในสนามแข่งขันเท่านั้น สำหรับผม มันคือทุกอย่างรอบตัว สิ่งที่คุณทำที่บ้านก็มีความสำคัญมากเช่นกัน” เขาเริ่มเล่าถึงแรงบันดาลใจ ในการสร้างโรงยิมส่วนตัวเอาไว้ที่บ้านของตัวเอง แม้แต่ในช่วงวันหยุดพักผ่อน เขาก็ยังอุทิศตนให้กับการออกกำลังกาย
ทั้งหมดนั้น เลวานดอฟสกี้ ได้รับการช่วยเหลือจาก “แอนนา” ภรรยาของตัวเอง ที่มีดีกรีเป็นนักคาราเต้ระดับทีมชาติ ที่ผันตัวเองมาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ และฟิตเนส โดยเขาได้รับการสนับสนุน และคำแนะนำ ตั้งแต่เรื่องที่จำเป็น ไล่จนถึงเรื่องเล็กน้อยที่หลายคนมองข้าม
“ผมโชคดีมากที่ภรรยาของผมคือผู้เชี่ยวชาญในด้านการควบคุมอาหาร เธอรู้ว่าผมควรกินอะไร หรือว่าควรกินวิตามินชนิดไหน” เขาเสริมต่อว่า เขาไม่ได้เน้นการทำงานในแง่กายภาพเพียงอย่างเดียว ในแง่ของจิตใจ และสมาธิ ก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน
“บางครั้ง ผมก็ออกกำลังกายแบบพิเศษ เพื่อมุ่งเป้าไปยังเรื่องของการฝึกสมาธิโดยเฉพาะ ผมมองว่า สมาธิเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะกับการเล่นฟุตบอลในตำแหน่งกองหน้า”
จุดเริ่มต้นของเรื่องราว เกิดขึ้นในช่วงปี 2010 นั่นคือช่วงเวลาที่ต้องย้ายจากสโมสรในบ้านเกิดอย่างเลซ พอซนาน มาร่วมทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ นอกจากการเล่นลีกที่มีคุณภาพมากขึ้น เขาต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อรับมือกับบรรดานักเตะฝีเท้าดี
“ย้อนกลับไปตอนอายุ 22 ผมเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ตัวเองกิน เพื่อให้ตัวเองยืดอายุการเล่นฟุตบอลออกไปได้ ช่วงเวลานั้น ผมไม่รู้หรอกว่ามันจะช่วยผมได้หรือไม่ ? แต่ผมยังทำมันต่อไป ส่วนตัวผมมองว่ามันออกมาได้ผล เพราะทุกสิ่งที่ผมทำในวันนั้น ช่วยผลักดันให้ผมมีทุกวันนี้ ..... สำหรับผม การกินอาหารเพื่อสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะช่วยเรื่องการเผาผลาญ ผมคิดเสมอกับสิ่งที่เอาเข้าปากว่า มันใช้เวลาย่อยนานแค่ไหน”
ภรรยาของเขาอธิบายเสริมว่า เขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องโภชนาการอย่างแท้จริง โดยจะไม่ค่อยกินพวกแล็กโทส, แป้งสาลี, น้ำตาลทรายขาว รวมถึงพวกอาหารทอดต่างๆ โดยเน้นไปที่คาร์โบไฮเดรต ตามมาด้วยโปรตีน รวมถึงเน้นผัก และผลไม้
ขณะที่เรื่องของการพักผ่อน ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัย ช่วยให้เขางัดผลงานในสนามออกมา จนสามารถยิงประตูคู่แข่งได้อย่างถล่มทลาย โดยส่วนสำคัญคือ การเข้ารับการปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการนอนหลับของตัวเอง
ห้องนอนของเขาสามารถปิดกั้นแสงได้อย่างสนิท เครื่องปรับอากาศจะถูกปรับอยู่ที่ 21 องศา เป็นแบบนี้โดยไม่เปลี่ยนแปลง แม้กระทั่งในช่วงหน้าร้อนก็ตาม
นอกจากนี้ ห้องนอนต้องไม่มีโทรทัศน์ ที่เป็นแหล่งผลิตแสงสีฟ้า ที่อาจเป็นอันตรายต่อสายตา และต้องปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ โดยรูปแบบการนอนของเขา นำมาจากนักบำบัดด้านการนอนหลับ ที่สอดรับกับพฤติกรรมในสนามแข่งขัน เช่นการปรับให้ตัวเองนอนตะแคงซ้าย เพราะว่าเขาถนัดการเล่นฟุตบอลด้วยเท้าขวา และนี่คือเท้าที่ทรงพลังมากกว่า
เลวานดอฟสกี้ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผมเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับหมอนเป็นอย่างมาก"
"หมอนของผมต้องไม่แข็ง หรืออ่อนจนเกินไป หากคุณนอนหลับสบาย คุณก็จะพร้อมในการลงแข่งขันมากขึ้น หมอนของผมเป็นหมอนเพื่อสุขภาพ ที่ปรับให้เข้ากับร่างกาย และศีรษะเป็นอย่างดี นั่นหมายความว่า ไม่ว่าคุณหนักเท่าไหร่ หมอนก็จะพอดีกับสรีระเสมอ"
"ผมตื่นนอนประมาณ 7-8 โมงเช้า ขึ้นอยู่กับเวลาที่ลูกของผมตื่นด้วย เพราะผมต้องช่วยภรรยาเตรียมอาหารเช้าให้ลูก ที่กำลังออกไปโรงเรียน การตื่นเร็ว ทำให้ผมมีเวลาเตรียมความพร้อมในการฝึกซ้อม"
เรื่องราวที่น่าสนใจคือ เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชาพลศึกษา หลักสูตรการฝึก และการจัดการด้านกีฬา โดยวิทยานิพนธ์ที่เขาเลือกทำ มีหัวข้อว่า “อาร์แอล 9 เส้นทางสู่ชื่อเกียรติยศ”
เนื้อหาภายใน เล่าถึงเส้นทางลูกหนังของเขา ตั้งแต่เป็นเด็กที่เล่นฟุตบอลตามท้องถนน จนถึงการเป็นนักเตะระดับโลก แน่นอนว่า มันแทรกเคล็ดลับการดูแลร่างกายไว้ด้วย
เขาไม่เหมือนกับนักฟุตบอลทั่วไป โดยไม่ใช่คนที่ชอบนั่งอยู่หน้าจอโทรทัศน์ หรือเล่นวิดิโอเกม เวลาว่างของเขาถูกมอบให้กับการอ่านหนังสือ โดยเฉพาะอัตชีวประวัติของนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จ
โดยเขาบอกถึงเรื่องนี้ว่า “ไมเคิ่ล จอร์แดน, ไทเกอร์ วู้ดส์ และยูเซน โบลท์ พวกเขาล้วนคือซูเปอร์สตาร์ ที่มีความเป็นเลิศในชนิดกีฬาของตัวเอง ผมต้องการดูว่า ผมสามารถเรียนรู้อะไรจากพวกเขาได้บ้าง” เลวานดอฟสกี้ ทิ้งท้าย
