:::     :::

จุดเริ่มต้นของชายที่ชื่อ "ธิอาโก้ ซิลวา"

วันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคม 2566 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
587
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
แม้วัยล่วงเลยมาถึง 38 ปี

อย่างไรก็ตาม  ธิอาโก้ ซิลวา ยังคงลงเล่นเกมระดับสูง พร้อมกับเป็นนักเตะคนสำคัญของเชลซี โดยประสบการณ์ และความสามารถของเขา สามารถช่วยเหลือทีมได้พอสมควรเลยทีเดียว 


ธิอาโก้ ประสบความสำเร็จมาอย่างมากมาย ในเส้นทางลูกหนัง ทั้งกับทีมเอซี มิลาน, เปแอสเช และเชลซี จนได้รับการยอมรับว่า เป็นหนึ่งปราการหลังที่ยอดเยี่ยมในโลกของฟุตบอล


อย่างไรก็ตาม การที่เขาจะก้าวมายืนตรงจุดนี้ ต้องแลกมาด้วยอะไรหลานอย่างมาก โดยเฉพาะความเสียสละในวัยเด็ก ช่วงนี้ เราลองไปย้อนดูเรื่องราว และจุดเริ่มต้น ทำให้เขากลายมาเป็นกองหลังระดับโลกกัน 

ธิอาโก้ ซิลวา เกิด และเติบโตในย่านที่อันตรายของริโอ เดอ จาเนโร เมืองขนาดใหญ่ของประเทศบราซิล นอกจากการเอาตัวรอด จากบรรดาอันธพาล และยาเสพติดแล้ว ชีวิตของเขายากลำบากขึ้น เมื่อคุณพ่อ และคุณแม่ตัดสินใจแยกทางกัน 


“เราเล่นฟุตบอลกันตามท้องถนน เล่นแบบเท้าเปล่าเลย บนพื้นยางมะตอย สำหรับเด็กบราซิเลี่ยน นี่ถือเป็นเรื่องธรรมดา อย่างไรก็ตาม มันก็เจ็บเหมือนกัน นั่นเพราะเราไม่มีรองเท้า” ธิอาโก้ เริ่มเล่าถึงวิถีชีวิตของตัวเอง พร้อมกับบอกถึงเรื่องราวภายในครอบครัว


“ย้อนกลับไป ตอนที่ผมยังเป็นเด็ก ผมคิดถึงพ่อมากเลย พ่อและแม่ของผมแยกทางกัน ตั้งแต่ผมอายุยังน้อย ผมขาดการชี้นำแบบที่ควรจะเป็น ผมไม่เคยเห็นพ่อในภาพของหัวหน้าครอบครัว กระทั่ง 2-3 ปีต่อมา พ่อเลี้ยงก็เข้ามาในชีวิต” 


“พ่อเลี้ยงคือคนสำคัญ ที่คอยเคียงข้างผมเสมอมา หากว่าผมไม่มีท่าน ผมก็คงไม่มีทุกวันนี้ ท่านคอยช่วยเหลือผมแบบไม่มีเงื่อนไข แม้ว่าเราจะมีเงินทองอันแสนน้อยนิด แต่ท่านมักจะหาหนทาง เพื่อให้ผมลงเล่น และฝึกซ้อมฟุตบอลให้ได้” 


“พ่อเลี้ยงส่งผมเข้าไปโรงเรียนฟุตบอล ตั้งแต่ผมอายุประมาณ 7 ขวบ ผมเริ่มเล่นฟุตบอล และรู้สึกว่าหลงรักกีฬาชนิดนี้ ช่วงเวลาที่ผมไปทดสอบฝีเท้า และไม่มีที่ไหนรับตัวผมเข้าร่วมทีมเลย ก็เป็นท่านนี่แหล่ะ ที่สอนให้ผมรู้จักกับคำว่าพยายาม”

ธิอาโก้ บอกถึงชีวิตประจำวัน และความฝันในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ที่ต้องแลกมาด้วยอะไรมากมาย


โดยบอกว่า “โรงเรียนของผมอยู่ห่างจากบ้านราวครึ่งชั่วโมง หากว่าต้องโดยสารรถประจำทาง ผมต้องออกจากบ้านเช้ามาก และไปกินอาหารเช้าที่โรงเรียน”


“จากนั้น ผมเข้าเรียน และกินอาหารกลางวัน อาหารไม่ค่อยดีนัก แต่ผมจำเป็นต้องกิน เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงมากพอ เพื่อที่จะไปฝึกซ้อมฟุตบอลได้”


“ผมก็รู้สึกเสียใจเหมือนกัน เวลาที่มีกลุ่มเพื่อนมาชวนผมออกไปเที่ยวเล่นในช่วงเวลากลางคืน แต่ผมต้องบอกปฏิเสธไป”


“เพราะผมต้องรีบตื่นเช้า พร้อมกับไปโรงเรียน และฝึกซ้อมฟุตบอลในวันรุ่งขึ้น อย่างที่บอกไป เป็นเรื่องน่าเศร้าเหมือนกัน แต่ท้ายที่สุดแล้ว ผมรักฟุตบอลเหนือสิ่งอื่นใด”


“บางครั้ง .. ผมก็เนียนใส่ชุดนักเรียน เพื่อขึ้นรถประจำทางไปฝึกซ้อมฟุตบอล เพราะในการทำแบบนี้ ผมจะได้ไม่ต้องเสียค่าโดยสาร ทั้งหมดเป็นเพราะผมเป็นเด็กที่ยากจน คนขับรถเมล์มักจะพูดกับผมว่า -ขอโทษนะหนุ่มๆ รถคันนี้ไม่ผ่านโรงเรียนของพวกนาย- 

ธิอาโก้ ทิ้งท้ายว่า “ผมมักบอกความจริงกับคนขับรถประจำทางเสมอว่า -ผมไม่ได้ไปโรงเรียนหรอกครับ แต่ถ้าคุณช่วยให้ความฝันในการเป็นนักฟุตบอลของผมกลายเป็นความจริงได้ ผมจะขอบคุณ และไม่มีวันลืมเลย-"


"คุณเชื่อมั้ยว่า พวกคนขับรถเมล์ไม่เคยไล่ผมลงจากรถเลย พวกเขาปล่อยให้ผมนั่งต่อ เพื่อไปฝึกซ้อมฟุตบอล ดังนั้น ชีวิตผมต้องขอบคุณคนขับรถเมล์เหล่านั้นด้วย” 


ผลสุดท้าย จากความรักของพ่อเลี้ยง และความเอื้ออาทรของคนขับรถประจำทาง กลายเป็นหนึ่งส่วนสำคัญ ช่วยให้เกิดปราการหลังระดับโลก และนักเตะที่สามารถติดทีมชาติบราซิล เกินหลัก 100 เกม 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด