:::     :::

ผมไม่สามารเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลได้

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
แพท เนวิน อดีตแข้งของ เชลซี และ เอฟเวอร์ตัน ในฐานะคอลัมนิสต์ของเว็บไซด์ "สิงห์บลูส์" ออกมาเผยถึงงานที่ตัวเองไม่อาจจะทำได้ นั่นคือการเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล

ด้วยทักษะและความเร็วสมัยค้าแข้งในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์เจ้าตัวจึงกลายเป็นที่รักของแฟนบอลอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไรมากมายนัก

วันนี้เจ้าตัวมาพูดถึงการที่ไม่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นโค้ชฟุตบอล ทักษะที่เตะตาแต่ถูกขัดขวางในท้ายที่สุด และทำไมเขาถึงรู้สึกยินดีกับผู้เล่นคนหนึ่งแม้ว่าดาราคนนั้นจะไม่ได้ลงเล่นก็ตาม

"ผมทำงานมากมายในวงการฟุตบอล นักเตะเป็นผู้เล่น ติดทีมชาติ ไปจนถึงประธานสมาคมนักฟุตบอลอาชีพของอังกฤษ และจากนั้นก็เป็นซีอีโอของสโมสรฟุตบอลพรีเมียร์ชิพ สกอตแลนด์"

"ยังมีอีกหลายๆอย่างในเกมนี้ด้วยเช่นกันทั้งเป็นนักข่าวทีวีและกูรูทางวิทยุ แต่หนึ่งในงานที่โดดเด่นแต่ไม่อยู่ในประวัติของผมก็คือผู้จัดการทีมชุดใหญ่นั่นเอง"


"ผมมีโอกาส ข้อเสนอสองที่โดยที่ผมไม่ได้เรียกร้อง แต่ผมไม่สามารถรับงานนั้นได้ด้วยเหตุผลหลายอย่าง มันเป็นงานที่หนักอย่างไม่น่าเชื่อกับการเป็นผู้จัดการทีม มันเป็นช่วงเวลที่แปลกถ้าคุณจริงจังกับมัน หากคุณเป็นผู้จัดการทีม คุณจะรู้ว่ามันไม่เกี่ยวกับการเป็นโค้ชด้านเทคนิคที่ดีที่สุดเสมอไป คุณต้องการหลายๆอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเช่นเวลา การสนับสนุนจากสโมสร และอย่างน้อยก็ต้องมีโชคนิดหน่อยด้วย"

"ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เอฟเวอร์ตัน มีจังหวะเข้าทำประตู 3 ครั้ง และทำได้ 1 ประตู ผมคำนวณว่าเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านั้นที่เราเล่นฟุตบอลที่ดีในฤดูกาลนี้ สกอร์ 0-0 เมื่อจบครึ่งแรกเป็นสิ่งที่เลวร้ายอย่างมากสำหรับ แกรม พ็อตเตอร์ แต่ผมเดาว่าเขาค่อนข้างมีความสุขด้วยซ้ำเพราะเป็นการทำผลงานได้ดี"

"เราคุมเกมได้ อยู่ในตำแหน่งที่ดีและด้วยการเล่นของ ชูเอา เฟลิกซ์ เราได้รับทักษะระดับมาสเตอร์ที่เล่นงานแนวรับของ เอฟเวอร์ตัน เช่นเดียวกับพวกเราส่วนใหญ่"

มันบ้ามาก


"ตอนที่ ชูเอ าเฟลิกซ์ ทำประตู มันไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าความยุติธรรม มันคงเป็นอะไรที่เหมือนเดิมหากมันชนเสาอีกครั้งและบอลก็ออกไป ครั้งนี้มันตุงตาข่ายและสำหรับทั้งโลกมันดูเหมือนในที่สุดก็สำเร็จ เราจะได้อีกลูกโดยเร็วและตะลุยไปจนจบและคว้าสามคะแนนเข้ากระเป๋า"

"มันไม่ใช่สิ่งที่ เชลซี เป็นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ลองถาม สเปอร์ส ดูสิ มันเหมือนกับการนั่งรถไฟเหาะจนกระทั่งนาทีสุดท้ายของเกม"

"มันอาจจะเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงไม่เคยคิดอยากเป็นผู้จัดการทีม มันคือความรู้สึกที่คุณทำทุกอย่างที่เป็นได้ ทีมเล่นได้ดีและโชว์ผลงานได้ยอดเยี่ยม หนังสือพิมพ์ของวันถัดไปพร้อมลงช่าวว่าคุณเล่นได้ดีแค่ไหน และรายการไฮไลท์ฟุตบอลเตรียมพร้อมในการนำเสนอการกลับมาอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าแฟนๆก็จะโห่ร้องกึกก้อง"


"จากนั้นในวิธีที่เป็นวินาทีตาย จังหวะสุดท้ายได้เปลี่ยนวิธีที่ทุกคนมองมาตลอดทั้งวันอย่างสิ้นเชิง มันคงสะเทือนใจไม่น้อยที่เห็นงานทั้งสัปดาห์พลิกกลับตาลปัตรแบบนั้น ผมค้นพบว่ามันยากที่จะรับมือในฐานะแฟนบอล และในฐานะผู้จัดการทีมมันคงเป็นอะไรที่น่าผิดหวังสุดๆ"

"ถ้า ซิมม์ส ไม่ได้ทำประตูนั้น สถิติที่จะถูกนำมาพูดคือ 'เชลซี ชนะ 4 เกมติดต่อกัน' แทนที่จะเป็น 'เชลซี ชนะแค่เกมเดียวจาก 4 นัดหลังในบ้านเกมลีก' ผมไม่มีข้อตำหนิเกี่ยวกับการ 'พลิกกลับมา' เพราะนั่นคือชีวิตและฟุตบอล แม้ว่ามันจะน่าหงุดหงิดก็ตาม"

"เหนือสิ่งอื่นใด ยังมีความยากลำบากอีกประการคือผมค้นพบว่าหลังจากช่วงบ่าย/เย็นแบบนั้น ถ้าผมเป็นผู้จัดการทีมและทีมของผมเล่นได้ดี แม้ว่าจะไม่ใช่ตลอดทั้งเกมก็ตามแต่เป็นส่วนใหญ่ของเกม ผมไม่สามารถเซ็งได้นานเกินไป ฟังที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เวลาทีมของเขาแพ้เมื่อทีมเล่นได้ดี เขาดูและฟังว่ามันความสุขมาก เพราะพวกเขาเป็นทีมที่ดีกว่า พวกเขาสนุกและทำในสิ่งที่ถูกขอให้ทำ"

เดินหน้าลุยต่อ


"แม้ว่าพวกเขาจะแพ้ เขาก็ยังมีจังหวะที่ดี มันไม่ใช่เรื่องของการกระทำ เขามีทัศนคติที่ 'บริสุทธิ์' ต่อเกมจริงๆ โดยรู้ว่าในที่สุดแล้วผลงานเหล่านี้จะเริ่มตอบแทนด้วยการคว้าแต้มได้"

"นักฟุตบอลหลายคนเกลียดมุมมองนั้น สำหรับคนส่วนใหญ่ในช่วงเวลาหลังสิ้นเสียงนกหวีดสุดท้าย มันคือเรื่องของชัยชนะเหนือสิ่งอื่นใก อย่างไรก็ตามผมต้องการที่จะสนุกเสมอและแม้ว่าผมจะไม่ได้คว้าชัยชนะแต่ไม่นานหลังจากความผิดหวังครั้งแรกจางหายไป ผมอดไม่ได้ที่จะยิ้มหากผมสนุกกับอะไรที่พิเศษบางอย่าง"

"ดังนั้นบางทีเหนือสิ่งอื่นใดคือเหตุผมที่ผมรู้ว่าผมไม่สามารถเป็นผู้จัดการทีมระดับท็อปได้ ในตอนเช้าหลังเกมกับ เอฟเวอร์ตัน ผมยังดูภาพรีเพลย์แบบช้าๆจังหวะหมุนของ เอ็นโซ่ ในครึ่งแรกที่ทำให้ทีมได้ฟรีคิกนอกเขตโทษ, เอ็นโซ่ มีช่วงเวลาที่ดีมากมาย ยิ่งผมได้ดูมันก็ยิ่งซับซ้อนและน่าประทับใจจริงๆ"

"นอกจากนี้ก็ยังมีช่วงเวลาของ ชูเอา เฟลิกซ์ ที่ทำให้ผมยิ้มออกในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ประตูของเขายอดเยี่ยม ด้วยสายตาและทักษะในการจัดการพื้นที่ทั้งที่ไม่ควรจะมีเลย ผมคิดว่าเขาสร้างพื้นที่อย่างยอดเยี่ยม เขารู้วิธีรับบอลในพื้นที่และวิธีที่แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าสกัดเขาดยไม่เสียฟาวล์ในพื้นที่อันตราย"


"กับเกมส่วนใหญ่ของเขาจะเล่นตรงกลาง จากนั้นก็มาเป็นฟอลส์ ไนน์ มันเป็นตำแหน่งที่ซับซ้อน เขาเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในสนาม เขาเข้าใจบทบาทนี้เป็นอย่างดี"

"ขอดีอื่นคือการที่ ไค ทำประตูได้อีกครั้งและ รีซ เจมส์ แสดงให้เห็นถึงความสุดยอดในแบบที่เขาเป็นก่อนที่จะบาดเจ็บ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งหลัง การได้จุดโทษและ ไค ยิงเข้าไปเป็นตัวอย่างของสิ่งที่เราขาดหายไปทางขวา"

"ในเรื่องของผู้เล่นที่ไม่มีใครหยุดได้ มันน่ายินดีที่ได้เห็น เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กลับมามีชื่อเป็ตัวสำรองอีกครั้ง เขาไม่ได้ลงเล่น แต่การปรากฎตัวในฐานะตัวสำรองก็นำรอยยิ้มให้กับผู้คนนับไม่ถ้วน ผมคิดว่าผมสามารถพูดได้ไม่ใช่เฉพาะกับแฟนบอล เชลซี เท่านั้น แต่รวมถึงคนรักฟุตบอลทุกที่ด้วย เกมจะดีกว่าถ้ามี เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และรอยยิ้มของเขา"

"เราจะได้เบรกกันหน่อยจากโปรแกรมทีมชาติและเมื่อถึงเวลาเราจะกลับมาในเกมกับ แอสตัน วิลล่า, ติอาโก้ ซิลวา จะใกล้ฟิตมากขึ้น, เอ็นโกโล่ ก็เช่นกัน และ รีซ เจมส์ ก็จะเกือบมาสมบูรณ์เต็มที่อีกครั้ง"

"คงจะดีไม่น้อยเมื่อถึงรอบก่อนรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก, แกรม พ็อตเตอร์ จะมีทีมให้เลือกเต็มที่และเราก็ยังเป็นทีมรองบ่อนและไม่มีอะไรจะเสีย และด้วยเหตุนี้ความกดดันจะน้อยลง ถ้าผมเป็นผู้จัดการทีม ผมชอบที่จะอยู่ในสถานการณ์นั้น แต่แน่นอนว่าผมไม่ชอบมันเพราะผมไม่เคยต้องการที่จะเป็นผู้จัดการทีม"


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด