:::     :::

โอเดการ์ด จากดาวที่เกือบดับสู่กัปตันปืนโต

วันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม 2566 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
1,015
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
นี่คือนักเตะคีย์แมนจากนอร์เวย์ที่มีโอกาสสูงในการพา อาร์เซน่อล ชูถ้วยแชมป์ลีกในฐานะกัปตันทีม ทั้งที่อายุอานามเพิ่งจะแค่ 24 ปีเท่านั้นเอง

อดีตแข้ง เรอัล มาดริด รายนี้มีดีอะไร? สำคัญต่อปืนโตมากแค่ไหน และจากดาวที่เกือบดับเขาพลิกชีวิตมาเป็นกัปตัน อาร์เซน่อล ได้อย่างไร? คำตอบอยู่ที่บรรทัดด้านล่างนี้ครับ


เราได้ยินชื่อของ มาร์ติน โอเดการ์ด ในวงการลูกหนังโลกมานานมากแล้ว นั่นก็เพราะในตอนที่เขาอายุ 15 ปี เด็กคนนี้ถูกขนานนามว่าเป็น 'วันเดอร์คิด' ที่เก่งที่สุดคนนึงของยุโรปเลยทีเดียว เนื่องจากเขาเดบิวต์ชุดใหญ่ให้ทีม สตอร์ม ก็อด เซ็ต ซึ่งอยู่ในลีกสูงสุดของนอร์เวย์ด้วยวัยเพียงแค่ 15 ปี 118 วัน เท่านั้นเอง


แม้จะอายุ 15 แต่ โอเดการ์ด ก็กลายเป็นตัวหลักให้ทีม สตอร์ม ก็อด เซ็ต ด้วยการลงสนามในลีกไปมากถึง 25 นัด ยิงได้ 5 ประตูแถมทำไปอีก 7 แอสซิสต์ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ไม่ธรรมดาเลยสำหรับเด็กวัยแค่ 15 ปีกับการเล่นในลีกสูงสุดปีแรก


โอเดการ์ด ได้รับการจับตามองจากทีมดัง ๆ ทั่วยุโรปทันทีหลังจบฤดูกาลนั้น ก่อนที่สุดท้ายแล้วจะเป็น เรอัล มาดริด ที่ชิงตัวไปร่วมทีมได้สำเร็จ พร้อมกับประเคนค่าเหนื่อยให้มากถึง 80,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ในเดือนมกราคมปี 2015


เมื่อย้ายมาอยู่กับราชันชุดขาว โอเดการ์ด ซึ่งตอนนั้นอายุ 16 ปี ถูกส่งไปเล่นในทีมกาสตีย่า หรือทีมสำรองของ เรอัล มาดริด นั่นเอง แต่เจ้าตัวไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก เพราะเขาอยากที่จะลงเล่นในชุดใหญ่มากกว่าเล่นในทีมสำรอง สุดท้ายจึงถูกปล่อยยืมไปอยู่ในฮอลแลนด์กับ  ฮีเรวีน, วิเทสส์ อาร์เน่ม และกลับมาสเปนที่สโมสร เรอัล โซเซียดาด


หลังจากรู้สึกว่าฝีเท้าสุกงอมได้ที่แล้ว ฤดูกาล 2020-21 โอเดการ์ด ถูกดึงตัวกลับมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ของ เรอัล มาดริด ตามที่เขาต้องการ แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่สามารถเบียดเป็นตัวจริงได้สักที 


เขาได้ลงสนามไปแค่ 9 นัด โดยส่วนใหญ่คือการลงสำรอง และหากลงตัวจริงก็อยู่ไม่ครบ 90 นาที สุดท้าย โอเดการ์ด จึงได้ขอขึ้นบัญชีย้ายทีมตอนเดือนมกราคม


ทีมใหญ่ ๆ ที่เคยจับตามอง โอเดการ์ด ในช่วงวัยรุ่นเริ่มไม่มีทีมไหนสนใจในตัวเขาอีกแล้ว เพราะคิดว่าเด็กคนนี้อาจไม่ได้เก่งจริง หลังล้มเหลวในการเล่นให้ เรอัล มาดริด


แต่ อาร์เซน่อล ไม่ได้คิดแบบนั้น




มิเกล อาร์เตต้า กับ เอดู ได้ปรึกษากันก่อนลงความเห็นว่า โอเดการ์ด เป็นดีลที่น่าเสี่ยง เพราะในเวลานั้น เรอัล มาดริด ยื่นข้อเสนอให้ปืนใหญ่ยืมตัวไปใช้งานจนจบฤดูกาลโดยไม่มีออปชั่นซื้อขาด เพียงแต่จ่ายค่ายืมมา 2.5 ล้านปอนด์เท่านั้นพอ


โอเดการ์ด ย้ายมาอยู่ อาร์เซน่อล ในเดือนมกราคมปี 2021 ด้วยสัญญายืมตัว ซึ่งบทสัมภาษณ์แรกของเขาที่ลอนดอน ดาวเตะชาวนอร์เวย์ยอมรับว่า เขาแค่อยากพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนได้เห็นว่าสามารถเล่นในลีกสูงสุดได้


"ผมเคยมาทดสอบฝีเท้ากับ อาร์เซน่อล ตอนอายุ 15 ผมยังคงมีความรู้สึกดีกับที่นี่เหมือนเดิม แม้ในตอนนั้นนผมจะเลือกไป เรอัล มาดริด แต่ผมก็มีความทรงจำดี ๆ ตอนมาทดสอบฝีเท้าอยู่เหมือนกัน" 


"การได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง อาจเป็นเรื่องของโชคชะตาที่ลิขิตไว้แล้ว ตอนนี้ผมโฟกัสแค่ฟุตบอลอย่างเดียว เพราะผมมีสิ่งที่ต้องพิสูจน์รออยู่"


โอเดการ์ด ทำผลงานค่อนข้างดี เขาได้ลงสนามไป 20 นัด ยิงได้ 2 แอสซิสต์ 2 โดยหนึ่งในสองประตูที่ยิงได้คือการยิงตีเสมอ สเปอร์ส ในศึกลอนดอน ดาร์บี้แมตช์อีกด้วย


หลังจบสัญญายืมตัว ปราการว่า อาร์เซน่อล พอใจฟอร์มของ โอเดการ์ด เป็นอย่างมาก ด้วยอายุที่ยังน้อยแต่เซนส์บอลกับประสิทธิภาพในการปั้นเกมรุกให้ทีม ถือว่าช่วยให้ฟุตบอลของ อาร์เซน่อล ไหลลื่นและเกิดสมดุลค่อนข้างเยอะ 


สุดท้ายไอ้ปืนใหญ่จึงขอซื้อตัว โอเดการ์ด มาร่วมทีมเป็นการถาวร โดยมีค่าตัว 30 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าไม่ได้แพงมากสำหรับชื่อเสียงของตัวนักเตะ


ไม่ใช่แค่การซื้อขาดเท่านั้น แต่ก่อนที่ฟุตบอลลีกจะเริ่ม มิเกล อาร์เตต้า ยังประกาศแต่งตั้งดาวเตะชาวนอร์เวย์เป็นกัปตันทีมคนใหม่อีกด้วย


กุนซือชาวสแปนิชเคยหย่อนถึงเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนยืมตัว โอเดการ์ด มาแรก ๆ แล้วว่า เด็กคนนี้มีคุณสมบัติในการเป็นกัปตันทีมปืนใหญ่ได้แน่นอน ข้อแรก เขาเป็นกัปตันทีมชาตินอร์เวย์อยู่แล้ว และข้อสอง อาร์เตต้า มองว่า โอเดการ์ด มีความเป็นผู้นำอยู่ในตัวสูงมาก อาจเป็นเพราะเขามีชีวิตโลดโผนมาตั้งแต่ยังเด็ก รับมือกับความกดดันในฐานะวันเดอร์คิดมาตลอด แบกรับความคาดหวังมาตั้งแต่อายุน้อย ๆ สิ่งเหล่านี้ได้หล่อหลอมให้เขากลายเป็นคนที่เข้มแข็งขึ้นมา และทำให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ความกดดันต่าง ๆ ได้ดี ซึ่งนั่นช่วยให้โอเดการ์ด โดดเด่นขึ้นกว่าเดิมไปอีกหลายเท่าตัว


ด้วยคุณสมบัติดังกล่าว อาร์เตต้า มองว่านั่นคือเรื่องที่เหมาะสมแล้วสำหรับการมอบตำแหน่งผู้นำทีมให้กับ โอเดการ์ด ในการดูแลแข้งวัยรุ่นชุดนี้ของปืนโต


สถิติส่วนตัวของ โอเดการ์ด ในฤดูกาลนี้ยอดเยี่ยมสมราคาครับ สนามให้ทีมไปแล้ว 35 นัด ยิงได้ 10 ประตูกับ 7 แอสซิสต์จากทุกรายการ 


หากมองแค่ตัวเลขอาจยังไม่รู้สึกว่ามากมายอะไรก็จริง แต่ในเนื้องานที่ โอเดการ์ด มีส่วนร่วมต่อทีมนั้น จริง ๆ ถือว่าสำคัญมาก ๆ เลยทีเดียว


หากนับแค่ในพรีเมียร์ลีก โอเดการ์ด อยู่ในอันดับที่ 5 ของท็อป แอสซิสต์ลีก, อยู่ในอันดับที่ 8 ของชาร์ตดาวซัลโว, สร้างโอกาสทำประตูไปมากถึง 62 ครัั้ง สูงที่สุดในลีกเป็นอันดับ 4 และมากที่สุดในทีมปืนโตอีกต่างหสก


เว็บไซต์ สกาย สปอร์ต เคยเจาะลึกถึงการเล่นของ โอเดการ์ด เพื่มเติมอีกว่า นี่คือผู้เล่นในแนวรุกของทีมที่วิ่งเพรสซิ่ง ครอบคลุมพื้นที่ช่วยเกมรับได้มากที่สุดในทีมชุดนี้


หลาย ๆ นัด โอเดการ์ด ยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางเพื่อปั้นเกมจากแนวลึกขึ้นมา ซึ่งในเรื่องนี้ พอล เมอร์สัน กูรูของ สกาย สปอร์ตส์ บอกว่าวิสัยทัศน์ของกัปตันปืนโตรายนี้เฉียบคม เหมือนกับมีตารอบตัว และทุกการจ่ายบอลของเขานั้นสร้างประโยชน์ให้ทีมมาก ๆ 


เมอร์สัน เปรียบเทียบว่า "สำหรับนักเตะทั่วไปสายตาของเขาจะมองเห็นแค่รอบ ๆ ตัวไม่กี่หลา คนที่เก่งขึ้นมาหน่อยก็จะมีสายตากว้างไกลเหมือนนั่งมองบนอัฒจันทร์ แต่สำหรับ มาร์ติน แล้ว เขามองไกลกว่านั้น เหมือนกำลังมองเห็นภาพรวมทั้งหมดจากที่สูง เหมือนนั่งอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ยังไงยังงั้น"


"เรื่องนี้เป็นสิ่งที่สอนกันไม่ได้ แต่เขาทำได้ดี สายตาของเขาและสปีดเกมของเขาทำให้มองทุกอย่างได้กว้างมากขึ้น เขาคือเพลย์เมคเกอร์ที่ครบเครื่องจริง ๆ"


โอเดการ์ด ในวัย 24 ปี กำลังไปได้สวย เขาเป็นกัปตันทีม กำลังสนุกกับฟุตบอล มีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม 


และมันคงสวยงามกว่านี้แน่นอน หากตอนจบสามารถพาทีมคว้าแชมป์ลีกที่แฟนปืนรอคอยมานานได้เสียที


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด