นักเตะดาวรุ่งของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในปีนี้ ได้ถูกปล่อยออกไปยืมตัวมากมายหลายลีก ทั้งในประเทศและนอกประเทศ ซึ่งเป็นผลดีต่อพัฒนาการนักเตะเหล่านี้ที่ได้ลงสนามในเกมจริง ยิ่งลงเล่นมากเท่าไหร่ยิ่งเก่งขึ้นไวเท่านั้น และนี่คือรายงานการยืมตัวของเหล่าลูกกรอกคะนองแต่ละคน ที่ย้ายไปลงเล่นในทีมต่างๆ เกิดบ้าง ดับบ้าง แล้วแต่วาระและโอกาส
ใครเป็นยังไงบ้างในช่วงนี้ ไปดูกัน
"ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น" ชาร์ลี ซาเวจ
ในช่วงที่พักเบรคทีมชาติกัน แต่นักเตะเยาวชนของเราที่ถูกปล่อยออกไปยืมตัวก็ไม่ได้หยุดตามทีมชาติไปด้วย ฤดูกาลของพวกเขายังดำเนินต่อไป โดยเฉพาะเด็กหนุ่มรายหนึ่งที่ถึงกับปฏิเสธทีมชาติชุดเล็ก เพื่อจะช่วยเหลือต้นสังกัดไม่ให้ตกชั้น
คนๆนั้นคือ Charlie Savage
เจ้าหนูชาร์ลีลูกพ่อร็อบ ปฏิเสธโอกาสจะได้ไปเล่นทีมชาติเวลส์ ชุด U-21s เพื่อจะอยู่ช่วยต้นสังกัดอย่างทีม Forest Green ในการหนีตกชั้นจากลีกวันอังกฤษ โดยเขาเป็นคนสำคัญในทีมของบิ๊กดังค์ ดันแคน เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมของ Forest Green Rovers F.C. พาทีมคว้าชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ต่อทีมที่มีลุ้นจะเลื่อนชั้นอย่างทีมนกเค้าแมว Sheffield Wednesday ด้วยสกอร์ 1-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ซาเวจลงเล่นเป็นตัวจริงของทีม และอยู่ในสนามตลอดทั้งเกมจนโดนเปลี่ยนตัวออกในช่วงทดเวลาเจ็บนาทีที่ 90+4 โดยเจ้าบ้านเฉือนเอาชนะจากประตูของ Jordon D’Andre Garrick ในนาทีที่ 35 ซึ่งลูกเดียวก็มีค่าเพียงพอแล้วที่จะกลายเป็นสามคะแนนอันล้ำค่าให้แก่เจ้าบ้าน ส่วนโอกาสลุ้นประตูของเจ้าหนูรายนี้ก็เกือบเป็นประตูแต่ถูก Cameron Dawson ของทีมนกเค้าแมวเซฟไปอย่างน่าเสียดาย
ตอนที่เจ้าตัวปัดโอกาสในการไปเล่นทีมชาติเวลส์ชุด U-21s ตอนนั้นเขาได้เปิดเผยถึงความต้องการที่จะช่วยทีมให้หนีจากการตกชั้นในปีนี้
"ผมสนุกกับช่วงเวลาที่อยู่ Forest Green มาก และอยากทุ่มเททุกอย่างเพื่อช่วยทีมในการสู้เพื่อเอาแต้มมาให้ได้ ผมอยากจะตอบแทนความเคารพ และแสดงความจงรักภักดีต่อสโมสรทั้งผู้เล่น โค้ช สตาฟฟ์ทุกคนที่พยายามอย่างหนักในทุกๆวันเพื่อสโมสรแห่งนี้"
ได้นักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของฟอเรสต์กรีนด้วย
และชาร์ลี ซาเวจ ก็ทำได้ตามที่พูดจริงๆจากการเสียสละเกมทีมชาติจนพาทีมคว้าสามแต้มสำเร็จ ทั้งเขาและฟอเรสต์กรีนต่างก็เชื่อว่าชัยชนะสำคัญต่อทีมระดับท็อปของตารางอย่างเว้นส์เดย์นนั้นจะเป็นตัวกระตุ้นที่สร้างโมเมนตัมสำคัญให้กับทีมในช่วงปิดซีซั่นอันวุ่นวายอย่างแน่นอน
ก่อนหน้านัดนี้ หนทางของชาร์ลี ซาเวจ กับฟอเรสต์กรีน ก็ค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ และเจ้าตัวยิงประตูแรกในฐานะนักเตะได้สำเร็จ แม้ทีมจะแพ้ Bristol Rovers ไป 1-3 แต่ประตูเดียวของเจ้าถิ่น ก็มาจากลูกยิงที่เจ้าตัวเติมมาจากแดนกลาง และแปด้วยหลังเท้าเข้าไปอย่างสวยงามจนคุณพ่อร็อบยิ้มแก้มปริกับประตูนี้
แววตาตอนที่ Robbie Savage เฮลั่นห้องส่งตอนที่เขาจัดรายการอยู่นี่คือแววตาแห่งความรักจากคุณพ่อที่เห็นลูกกำลังเติบโตอย่างแท้จริง
ในเวลาเดียวกัน ขณะที่ซาเวจช่วยทีมจนเอาชนะเว้นสเดย์ได้ และกำลังเตรียมพร้อมไปเยือนงานหนักอีกเกมในการเจอกับปอร์ทสมัธ นักเตะอีกคนที่ได้ลงสนามในช่วงสุดสัปดาห์ก็คือ "น้องโจ" Joe Hugill อีกหนึ่งคนที่ได้ลงเล่นเต็ม 90 นาทีให้กับทีม Altrincham เอาชนะทีม Southend United 1-0 ที่สนาม J. Davidson Stadium ในระดับ National League หรือ "ดิวิชั่น5" ของอังกฤษ (ต่อจากลีกทูซึ่งนับตามระบบลีกของอังกฤษคือเป็นดิวิชั่น4เดิม เนชั่นแนลลีกจึงเป็นดิวิชั่น5)
โดยผู้ทำประตูคือ Regan Linney ยิงจุดโทษท้ายเกมพาเจ้าถิ่นเป็นฝ่ายชนะ และขยับตำแหน่งขึ้นเป็นอันดับ 13 ในตารางของเนชั่นแนลลีก ก่อนที่คืนวันอังคารพวกเขาจะกลับไปเฝ้าบ้านอีกครั้งในการดวลกับ Notts County
โจ ฮิวกิลเองก็ยิงประตูเดบิวต์ไปแล้วเหมือนกัน จากการยิงในนาทีที่ 7 พาอัลตรินแชม บุกไปชนะ ยอร์คซิตี้ 1-2
ในบรรดานักเตะยืมตัวของยูไนเต็ด มีลูกกรอกคะนองตัวแสบอีกหนึ่งรายที่ทำประตูแรกในระดับซีเนียร์แล้วเช่นกัน นั่นคือเจ้าเด็กนรก Charlie McNeill ที่ยิงประตูที่สองให้กับทีม Newport County ในระดับลีกทู เอาชนะทีม Tranmere Rovers ด้วยสกอร์ 3-1
เป็นประตูแรกของเขานับตั้งแต่ย้ายมายืมตัวกับสโมสรในเดือนมกราคม ประตูแรกในชีวิตด้วยวัย 19 ปีและพาทีมเก็บสามแต้มด้วยลูกยิงซ้ำในระยะหกหลาเข้าประตูไปเต็มข้อ
ผู้จัดการทีมนิวพอร์ทอย่าง Graham Coughlan พูดถึงชาร์ลี แม็คนีลเอาไว้ดังนี้ว่า
"มันเป็นการได้ปลดปล่อยอย่างแท้จริงสำหรับเขา บางทีกองหน้าก็ไม่โอเคหรอกเวลาที่ตัวเองยิงประตูไม่ได้ บางครั้งพวกเขาไม่สามารถมองเห็นภาพรวมของทีม และชนะการแข่งขันได้"
"ชาร์ลีนั้นท่าทางออกเล็กน้อยว่าหงุดหงิดในการเล่นของตัวเขา แต่ผมดีใจมากที่เขายิงได้แล้ว เช่นเดียวกันกับคาลัม คาวานาจ ด้วยก็เช่นกัน หวังว่าพวกเขาจะพาสโมสรเดินหน้าต่อไป"
"แม่ทัพคาร์เธจ" อำมหิตอัจฉริยะ ฮันนิบาล เมจบรี
เจ้าหนูฮันนิบาลจอมดีเดือด ถูกส่งมาอยู่กับสโมสร Birmingham City ในระดับเดอะแชมเปี้ยนชิพเช่นกัน ซึ่งทีมนี้มีนักเตะที่แฟนผีรู้จักกันดีอย่างเจ้าฟูน้อย "Tahith Chong" ที่ถูกขายขาดมาให้กับเบอร์มิงแฮมอยู่เป็นตัวจริงของทีมที่นี่เช่นกัน และกองหน้าของทีม เป็นที่รู้จักสำหรับแฟนบอลอังกฤษเป็นอย่างดี เขาคือ ทรอย ดีนีย์
เจ้าหนูฮันนิบาลลงสนามเป็นตัวสำรองลงมาในครึ่งหลังในเกมที่เบอร์มิงแฮม เสมอกับวีแกน แอธเลติก ในเกมเยือนด้วยสกอร์ 1-1 โดยดาวเตะทีมชาติตูนีเซียรายนี้ลงมาแทนตาฮิธ ชองในนาทีที่ 69 และเก็บแต้มจากทีมที่มีแววจะตกชั้นอย่างวีแกนได้สำเร็จ
ก่อนที่อีกหลายนัดต่อมา ในเกมเจอ QPR ของอีธาน แลร์ด (ที่ไม่ได้ลงสนามเพราะมีอาการบาดเจ็บ) ทีมลูกโลกก็บุกไปยัดเยียดความปราชัยให้ถึงถิ่นด้วยสกอร์ 1-0 จากประตูต้นเกมของตาฮิธ ชอง ซึ่งฮันนิบาลก็เป็นสำรองในเกมนี้เช่นกัน
ต้องบอกว่า สถานการณ์ของฮันนิบาล เมจบรี ในการยืมตัวกับ Birmingham City นั้น ก็จะได้ลงเป็นตัวจริงซะส่วนใหญ่มากกว่า มีสลับเป็นตัวสำรองบ้างแล้วแต่แทคติกของทีม แต่ในการยืมตัวกับเบอร์มิงแฮม ฮันนิบาลได้ลงเล่นหลากหลายตำแหน่งมาก ไม่ว่าจะเป็นกองหน้าตัวต่ำ เล่นมิดฟิลด์ตัวกลาง กลางรุก ถึงสามตำแหน่ง โดยเล่น CM ไป 15 เกม, กลางรุกAM 7เกม และกองหน้าตัวกลางอีก 1 เกม
ตำแหน่งกองกลางเขามักจะได้ลงในระบบ 3-5-2 / กลางรุกจะเล่นในระบบ 4-4-2 Diamond และกองหน้า 1เกมที่เป็นหน้าคู่ระบบ 4-4-2 classic
ปีนี้ฮันนิบาล เมจบรี ลงสนามไปทั้งสิ้น 33 เกม ทำประตูไป 1 ลูก กับอีก 6 แอสซิสต์ให้ทีมลูกโลกฤดูกาลนี้
ฝีเท้าและประสบการณ์ของ ฮันนิบาล เมจบรี ถือว่าดูแล้วน่าพอใจอย่างมาก และนอกจาก Amad Diallo ที่ดูว่าพร้อมแล้วที่จะกลับไปช่วยทีมเราในปีหน้านั้น "ฮันนิบาล" คือดาวรุ่งอีกคนที่ดีพอจะกลับไปเติมขุมกำลังเชิงลึกของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในแผงมิดฟิลด์แล้วเช่นกัน
ด้วยความกล้าเล่นกล้าเลี้ยง ความมั่นใจ จังหวะการเล่นที่ไหลลื่นเป็นธรรมชาติเข้ากับฟุตบอลอังกฤษได้อย่างดี กับร่างกายที่แข็งแกร่งมากขึ้น แต่ยังคงเต็มไปด้วยความเร็วความคล่องตัวอยู่
ฮันนิบาลที่สวมเสื้อเบอร์6ของเบอร์มิงแฮม จะสามารถกลับไปเล่นเป็น CMตัวขับเคลื่อนเกมในฐานะ "เบอร์8 Mezzala" กลางกึ่งปีกตัวขับเคลื่อนเกมในแดนกลางได้สบายๆ
รวมถึงในตำแหน่งกลางรุกตัวบน ฮันนิบาลสามารถเล่น "เบอร์10 Advance Playmaker" แบบบรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้สบายๆในตำแหน่งเดียวกันเป๊ะ การออกบอลที่แน่นอนและแม่นยำยังคงเป็นจุดเด่นอยู่ และการกระชากไปกับบอลที่สปีดฝีเท้า รวมถึงสกิลการเล่น เด่นพอๆกับ Winger แท้ๆหนึ่งคน
ผู้เขียนเห็นฟอร์มของเขาแล้ว เชื่อว่า ถ้าหากว่าเอริค เทน ฮาก ต้องการ เขาก็ดีพอที่จะกลับมาเป็นตัวแบ็คอัพสำหรับขุมกำลังในแดนกลางของทีมได้แล้ว
นอกจากอามัด เดียโล่ แล้ว ฮันนิบาล เมจบรี คืออีกหนึ่งคนที่ประสบความสำเร็จในการยืมตัวลงเล่นเกมระดับเดอะแชมเปี้ยนชิพในปีนี้
และอีกหนึ่งคนก็คือรายต่อไป..
"แบ็คซ้ายเลือดกระทิง" อัลบาโร่ เฟอร์นันเดซ
Alvaro Fernandez ลงเล่นไปทั้งหมด 86 นาทีให้กับต้นสังกัดอย่าง Preston North End แห่งแคว้นแลงคาเชียร์ ที่บุกไปพ่ายแพ้ทีมอย่าง "Middlesbrough" ไปด้วยสกอร์ถึง 4-0
แน่นอนว่าผู้จัดการทีมสุดโหดคนนั้นไม่ใช่ใคร อดีตนักเตะสายเลือดปีศาจแดง Michael Carrick นั่นเอง!!
ผู้จัดการทีมเปรสตันอย่าง Ryan Lown ยกย่องดาวเตะสแปนิชจิ๋วรายนี้ถึงเรื่องที่เขาปรับตัวเข้ากับการลงเล่นในระดับเดอะแชมเปี้ยนชิพได้ดีเอาไว้ดังนี้
"เขาพัฒนามากๆ เขาดีขึ้นเรื่อยๆอย่างชัดเจนในทุกๆเกม ในการฝึกซ้อมแต่ละเซสชั่น เขากำลังเรียนรู้อยู่"
"เขาเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องการ เขาต้องการรับฟังสิ่งต่างๆเพื่อให้แน่ใจว่าเขาสามารถลงเล่นต่อไปได้เรื่อยๆ"
"เขาชิงตำแหน่งจากตัวระดับทีมชาติอย่าง Robbie Brady ได้ และเขาจะต้องรักษามาตรฐานการเล่นระดับสูงนี้ไว้ต่อไป ระดับการเล่นของเขายอดเยี่ยมมาก และอาจจะต่อเนื่องยาวๆไปอีกนาน"
นอกจากนี้อัลบาโร่ เฟอร์นันเดซ ยังได้รับคำชื่นชมจาก Bambo Diaby เพื่อนร่วมทีมในตำแหน่งกองหลังของเปรสตัน หลังจากที่เจ้าหนูวัย 19 ปีรายนี้สร้างความประทับใจอย่างต่อเนื่องที่รังเหย้าสนาม Deepdale ของทีม
ในตำแหน่งแบ็คซ้าย เจ้าตัวได้ลงเล่นเต็ม 90 นาทีหลายต่อหลายนัด โดยช่วงแรกอาจจะยังยึดตัวจริงไม่ได้ แถมมีอาการบาดเจ็บข้อเท้า
แต่หลังจากเกมที่ 12 ในเดอะแชมเปี้ยนชิพเป็นต้นมา อัลบาโร่ยึดตำแหน่งตัวจริงของทีมเป็นหลักมาจนถึงตอนนี้ในตำแหน่งแบ็ค, วิงแบ็คซ้าย ในระบบ 3-5-2 ของทีม ซึ่งแบมโบ้ ดิยาบี้ ก็มีสายสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นกับอัลบาโร่เป็นอย่างดี เพราะเนื่องจากทั้งคู่เติบโตมาจากระบบเยาวชนที่ประเทศสเปนเหมือนกัน
นี่อัลบาโร่หรือหลุยส์ สก็อตต์
"เขาเป็นคนที่พิเศษมากๆ เขาเหมือนน้องชายของผม คุณจะต้องคอยดูแลเขาในทุกๆสิ่งที่ทำ แต่เขาเป็นคนที่น่ารักมากๆ ผมอยู่กับเขาบ่อยๆเพราะว่ามันง่ายมากที่เราจะสื่อสารกันได้เข้าใจ เพราะเราทั้งคู่เป็นสแปนิชเหมือนกัน"
"เวลาที่อยู่ในสนาม ผมคิดว่าเราเล่นฟุตบอลคล้ายกันมากเพราะเรามาจากอะคาเดมี่ที่สเปน เพราะงั้นเราถึงเข้าใจกันดี"
34 นัดกับเปรสตัน นอร์ธ เอนด์ อัลบาโร่ทำไปทั้งหมด 4 แอสซิสต์ให้ทีม และยึดตำแหน่งวิงแบ็คซ้ายตัวจริงมาครอง พาเปรสตันรั้งอันดับ 12 ในเดอะแชมเปี้ยนชิพ คะแนนเท่ากันกับซันเดอร์แลนด์ของ "อามัด เดียโล่"
และทั้งซันเดอร์แลนด์กับเปรสตัน ยังมีลุ้นเรื่องพื้นที่เพลย์ออฟอันดับ6ในตารางอยู่ เพราะคะแนนห่างแค่ 7 แต้มเท่านั้น อะไรยังเกิดขึ้นได้ในปีนี้
ลูกกรอกคะนองคนอื่นๆของแมนยูไนเต็ด ถูกส่งกระจายไปยืมตัวยังสโมสรอีกหลายๆคน เช่นในระดับเดอะแชมเปี้ยนชิพ Axel Tuanzebe เก็บคลีนชีทให้กับสโมสร Stoke City เสมอ Norwich ไป 0-0 รั้งอันดับ 13 ของตาราง
ขณะเดียวกัน Ethan Laird ที่ไปอยู่กับทีมทหารเสือราชินี Queens Park Rangers ก็แพ้ Birmingham City ของฮันนิบาลไป 1-0 น่าเสียดายที่ไม่ได้เจอกัน เพราะแลร์ดเจ็บยาวมาตั้งแต่วันวาเลนไทน์ปีนี้ จนมาถึงปัจจุบันก็ยังไม่ได้กลับเข้าสู่ทีม
ขอให้หายไวๆนะ เจ้าหนูอีธาน
และอีกอีธานหนึ่ง Ethan Galbraith ที่เล่นกับสโมสร Salford ในระดับลีกทู ก็เป็นตัวจริงของทีมที่อยู่ในอันดับ6ของตาราง ซึ่งก็ได้ดวลกันกับ Charlie McNeill กันไปแล้วในระดับลีกทู ซึ่งซัลฟอร์ดของกัลเบรธ ชนะทีมของแม็คนีลไป 3-1 ลงสนามเป็นตัวจริงกันทั้งคู่
Will Fish เซ็นเตอร์แบ็ควัย 20 ปี ไปยืมตัวอยู่กับสโมสร Hibernian และแพ้ทีมแชมป์ลีกอย่าง Celtic ไปด้วยสกอร์ 3-1 ในระบบที่ใช้หลังห้าของทีม วิล ฟิช ลงเล่นกับฮิเบอร์เนียนและพาทีมอยู่ในอันดับ5ของสกอตติชพรีเมียร์ลีก
Maximilian Oyedele คืออีกหนึ่งคนที่ยืมตัวคู่กับ Joe Hugill อยู่ที่สโมสร Altrincham ในเนชั่นแนลลีก และสตาร์ทเป็นตัวจริงคู่กันกับน้องโจ แพ้ Eastleigh ไปด้วยสกอร์ 3-2 อย่างฉิวเฉียด
Di'Shon Bernard อยู่บนม้านั่งสำรองไม่ได้ลงสนามในเกมที่ Portsmouth เอาชนะ Bristol Rovers ไป 2-0 และคู่แข่งรายต่อไปของดิฌอน แบร์นาร์ด คือ Forest Green ของ Charlie Savage ที่จะได้ทำศึกสายเลือด(ตัวยืม)ในนัดต่อไป โดยปอร์ทสมัธ อดีตทีมที่อยู่ลีกสูงสุดของอังกฤษ ตอนนี้อยู่อันดับ 9 ในสังเวียนลีกวัน และมีเด็กเก่าปีศาจแดงอยู่ที่นี่หนึ่งคน อดีตเพื่อนซี้ของ ปอล ป็อกบา และ เจสซี่ ลินการ์ด ที่คว้าแชมป์ FA Youth Cup ในปี 2011
ไอ้รถถัง Ryan Tunnicliffe อยู่กับ Portsmouth ในวัย 30 ปี
Shola Shoretire ตัวรุกหน้าต่ำวัย 19 ปี ขณะนี้อยู่กับ Bolton Wanderer และลงเล่นในเกมเสมอกับ Morecambe 0-0 ลงเล่นไป 65 นาทีในเกมนี้ และถูกเปลี่ยนตัวออกโดย Elias Kachunga ในครึ่งหลัง โดยชอล่าถูกใช้แบบสารพัดประโยชน์ในแนวรุกที่เล่นทั้ง Centre-Forward ลงสนามไป 7 เกม, เล่น AM และ LW ไปอีกอย่างละ 6 เกมให้กับโบลตันฤดูกาลนี้
ในระดับทวีป ตัวยืมอีกหนึ่งคนอย่าง Eric Bailly ลงเล่นในครึ่งหลังเกมที่มาร์กเซย์ บุกไปชนะ แร็งส์ 2-1 ส่วน Alex Telles ที่กำลังไปได้ดีกับ Sevilla (แม้ทีมจะยวบยาบ) ก็ลงเล่นให้ต้นสังกัดในเกมที่แพ้ Getafe ไป 2-0 ส่วนนักเตะยืมตัวที่ค้าแข้งต่างถิ่นอีกคนคือผู้รักษาประตูอย่าง Matej Kovar เก็บคลีนชีทให้ Sparta Praque ชนะเกมเยือนถึงถิ่นของ Hradec Kralove ไป 2-0
และทั้งหมดนี้คือรายงานการยืมตัวของเหล่านักเตะของปีศาจแดง ที่ถึงแม้ว่าเราพูดกันตามตรง อาจจะมีนักเตะเพียงไม่กี่คนจริงๆที่เก่งพอจะสามารถไปต่อกับ Manchester United ได้ นักเตะที่จะฝ่าขึ้นมาได้จะต้องเจ๋งจริง และพิเศษแบบสุดๆเท่านั้น
ถึงแม้ว่านักเตะพวกนี้จะไม่สามารถขึ้นมาเป็นนักเตะในทีมชุดใหญ่ของแมนยูไนเต็ดได้ก็ตาม แต่พวกเขาก็คือ "เลือดเนื้อเชื้อไข" จากอะคาเดมี่ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด จะเก่งมากเก่งน้อยก็แล้วแต่ พวกเขาก็ถือเป็นผลิตผลของอะคาเดมี่ทีม ที่อาจจะเติบโตไปเป็นนักฟุตบอลคุณภาพดี อยู่ที่ทีมใดทีมหนึ่งก็ได้ในอนาคต
การส่งออกเด็กไปเป็นตัวจริงในทีมอื่นๆได้ มันก็นับว่าเป็น "ความสำเร็จของอะคาเดมี่แมนยู" เช่นกัน ใช่ว่าพอต้องเก็บของออกจากแมนยูแล้วถือว่านักเตะคนนั้นล้มเหลวไปเลย มันไม่ใช่
ถ้าแฟนบอลเข้าใจตรงนี้ก็จะสนุกกับการดูพัฒนาการเด็กเหล่านี้ และรอลุ้นว่า ตัวไหนที่จะสามารถทะลุการคุมกำเนิดของอุปสรรคในโลกฟุตบอล ขึ้นมาเป็นปีศาจขนานแท้ที่โอลด์แทรฟฟอร์ดได้ เชื่อว่าในนี้มันต้องมีสักคนบ้างแน่ๆที่เขาจะเป็นกำลังสำคัญอีกคนของทีม อยู่เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในอนาคตของแมนยูไนเต็ดภายใต้ยุคของเอริค เทน ฮาก ต้องมีแน่ๆ
เชียร์เด็กๆเหล่านี้กันต่อไป อย่าเพิ่งทิ้งน้องกันครับ
#BELIEVE
-ศาลาผี-
References
https://www.transfermarkt.com/alvaro-fernandez/profil/spieler/811778
https://www.transfermarkt.com/hannibal/profil/spieler/607224
