ฮาแลนด์ ทำประตูที่ 35 ฤดูกาลนี้ในเกมที่ แมนฯ ซิตี้ เปิดรังไล่อัด เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-0 พร้อมทวงตำแหน่งจ่าฝูงคืนกลับมาจาก อาร์เซน่อล 

35 ประตูของ ฮาแลนด์ เป็นสถิติใหม่แซงหน้า แอนดี้ โคล และ อลัน เชียเรอร์ ที่เคยยิงได้ 34 ประตูในยุคแรกๆ ของพรีเมียร์ลีก 

ก่อนหน้านี้ ดาวยิงมหาประลัยวัย 22 ปี ไล่ทุบสถิติเป็นว่าเล่นทั้งในประเทศและเวทียุโรป จนเหมือนกับว่าไม่มีสิ่งใดขัดขวางเขาได้เลย แค่รอเวลา "ช้า" หรือ "เร็ว" เท่านั้น 

ยังมีสถิติอะไรอีกบ้างที่ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ มีโอกาสบดขยี้ให้แหลกคาเท้าในฤดูกาลนี้ ไปติดตามได้เลย 

1. มีส่วนร่วมได้ประตูมากสุดต่อฤดูกาล 

นอกจากขึ้นแท่นดาวซัลโวฤดูกาลเดียวมากสุดของพรีเมียร์ลีกที่ 35 ประตูแล้ว เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ยังสามารทำแอสซิสต์ได้อีก 7 ครั้งด้วยกัน ทำให้มีส่วนร่วม 42 ประตูในฤดูกาลนี้

สถิติมีส่วนร่วมได้ประตูมากสุดคือ 47 ประตูที่ทำเอาไว้โดย อลัน เชียเรอร์ กับ แอนดี้ โคล อีกแล้ว โดยทั้งคู่ยิงได้เท่ากัน 34 ประตู และอีก 13 แอสซิสต์ 

สถิติของ เชียเรอร์ กับ โคล ทำเอาไว้ตอนที่พรีเมียร์ลีกมี 42 นัดต่อฤดูกาล แต่หากเฉพาะฤดูกาลที่แข่ง 38 นัดเหมือนปัจจุบัน เจ้าของสถิติคือ เธียร์รี่ อองรี อดีตหัวหอกตัวเก่งของ อาร์เซน่อล ที่ยิงได้ 24 ประตูกับอีก 20 แอสซิสต์ รวมเป็น 42 ประตูในฤดูกาล 2002/03 

แมนฯ ซิตี้ เหลือโปรแกรมในลีกฤดูกาลอีก 5 นัดที่จะพบกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด (เหย้า) , เอฟเวอร์ตัน (เยือน) , เชลซี (เหย้า) , ไบรท์ตัน (เยือน) และ เบรนท์ฟอร์ด (เยือน)

ประตูประวัติศาสตร์ของ ฮาแลนด์

2. ยิงมากสุดต่อหนึ่งนัด

ในอดีตที่ผ่านมา มีนักเตะถึง 5 คนที่ทำสถิติเท่ากันในการยิงได้มากสุดในนัดเดียวคือ 5 ประตู

แอนดี้ โคล (แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ อิปสวิช 9-0 ฤดูกาล 1994/95)

อลัน เชียเรอร์ (นิวคาสเซิ่ล ชนะ เชฟฯ เว้นส์เดย์ 8-0 ฤดูกาล 1999/00)

เจอร์เมน เดโฟ (สเปอร์ส ชนะ วีแกน 9-1 ฤดูกาล2009/10)

ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ (แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ แบล็คเบิร์น 7-1ฤดูกาล 2010/11)

และ เซร์คิโอ อเกวโร่ (แมนฯ ซิตี้ ชนะ นิวคาสเซิ่ล 6-1 ฤดูกาล 2015/16)

ฤดูกาลนี้ ฮาแลนด์ ยังไม่เคยยิงเกิน 3 ประตูต่อนัด นั่นทำให้สถิติ 5 ประตูในนัดเดียวเป็นโจทย์ที่ท้ายเจ้าตัวไม่น้อยกับโปรแกรมที่เหลืออีก 5 นัดในฤดูกาลนี้

3.  แฮตทริกมากสุดต่อฤดูกาล

เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ สามารถทำแฮตทริกในฤดูกาลนี้ไปแล้ว 4 ครั้งในเกมพบ คริสตัล พาเลซ , ฟอเรสต์ , แมนฯ ยูไนเต็ด และ วูล์ฟส์ 

ส่วนสถิติทำแฮตทริกมากสุดในฤดูกาลเดียวของพรีเมียร์ลีกอยู่ที่ 5 ครั้ง จากฝีเท้าของ อลัน เชียเรอร์ ในเกมพบ โคเวนทรี , ฟอเรสต์ , เวสต์แฮม , โบลตัน และ สเปอร์ส ซึ่งเกิดขึ้นในฤดูกาล 1995/96) 

ขณะที่สถิติแฮตทริกมากสุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีกเป็น เซร์คิโอ อเกวโร่ อดีตดาวยิง แมนฯ ซิตี้ ทำเอาไว้ทั้งหมด 12 ครั้ง 

4. ยิงจำนวนนัดมากสุด 

35 ประตูของ ฮาแลนด์ จนถึงตอนนี้มาจากการยิงใน 22 นัด และมี 9 นัดที่ยิงประตูไม่ได้

สถิติยิงจำนวนนัดมากสุดของพรีเมียร์ลีกมีสองสถิติ ถ้าเป็นยุคที่เล่น 42 นัด แอนดี้ โคล เคยยิงได้ 26 นัด แต่หากเป็นยุคที่เล่น 38 นัด เจ้าของสถิติคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 24 นัด

เหลืออีก 5 นัดในฤดูกาลนี้ ฮาแลนด์ มีลุ้นทำลายสถิติของทั้ง ซาลาห์ และ โคล ได้เลย 

5. ยิงมากสุดในการเล่นลีกสูงสุดฤดูกาลแรก

ความสุดยอดของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ไม่เพียงทำลายสถิติมากมายเท่านั้น แต่เขายังทำได้ในฤดูกาลแรกที่ค้าแข้งในอังกฤษอีกด้วย เรียกได้ว่ามาปุ๊บก็ระเบิดภูเขาเผากระท่อมทันที ไม่ต้องเสียเวลาปรับตัวใดๆ

ก่อนหน้านี้ เควิน ฟิลลิปส์ เคยยิงได้ 30 ประตูในการเล่นพรีเมียร์ลีกครั้งแรกในฤดูกาล 1999/2000 หลังเลื่อนชั้นขึ้นมากับ ซันเดอร์แลนด์ กลายเป็นสถิติหน้าใหม่ยิงมากสุดก่อนถูก ฮาแลนด์ แซงในฤดูกาลนี้ 

แต่หากย้อนไปถึงยุคก่อนพรีเมียร์ลีก นักเตะที่เล่นลีกสูงสุดฤดูกาลแรกและยิงได้มากสุดคือ เดฟ ฮัลลิเดย์ ที่เคยยิงได้ถึง 38 ประตูตอนเล่นให้ ซันเดอร์แลนด์ ฤดูกาล 1925/26 หลังย้ายมาจากลีกสกอตแลนด์

...

ทั้งหมดนี้คือสถิติที่ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ มีโอกาสทำได้ก่อนจบฤดูกาลนี้ และหากว่ากันไปถึงเวทียุโรปด้วย ดาวยิงทีมชาตินอร์เวย์ก็มีลุ้นทำอีกสถิติคือยิงมากสุดต่อฤดูกาลในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ฮาแลนด์ ยิงไปแล้ว 12 ประตูให้ แมนฯ ซิตี้ ในแชมเปี้ยนส์ ลีก ขณะที่สถิติมากสุดคือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่เคยยิงได้ถึง 17 ประตูตอนเล่นให้ เรอัล มาดริด ในฤดูกาล 2013/14

แมนฯ ซิตี้ จะมีโปรแกรม 2 นัดแน่นอนในรอบตัดเชือกกัล เรอัล มาดริด และหากเข้าชิงฯ ได้ก็จะเป็นนัดที่ 3 ซึ่งทั้งหมดจะเป็นโอกาสสำหรับ ฮาแลนด์ ในการไล่แซงสถิติของ โรนัลโด้

และท้ายที่สุด สถิติที่เป็นสุดยอดของสุดยอดก็คือสถิติตลอดกาลของ ดิ๊กซี่ ดีน อดีตกองหน้า เอฟเวอร์ตัน ที่ยิงในลีกสูงสุดได้มากสุดต่อฤดูกาลที่ 60 ประตู ในฤดูกาล 1927–28

โจทย์นี้ยากมากสำหรับ ฮาแลนด์ ในฤดูกาลนี้ 

  แต่ฤดูกาลหน้าที่ได้ปรับตัวเข้ากับทีมมากขึ้น สถิติอันคงกระพันมาเกินกว่าร้อยปีก็อาจกลายเป็นอดีตได้เช่นกัน