มรดกนักเตะที่ทีมทุ่มซื้อมามูลค่ากว่า 600 ล้านปอนด์ บวกกับผู้เล่นที่มีอยู่ในทีมคือภารกิจของนายใหญ่ชาวอาร์เจนติน่า ว่าจะจัดการยังไง รวมถึงผู้เล่นเก่าที่มีอยู่ในทีมว่าใครจะอยู่หรือไป

แน่นอนว่านอกจาก โปเช็ตติโน่ ที่เป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดการ ทีมงานคือส่วนสำคัญในการบริหารงานของเขาด้วยเช่นกัน 

วันนี้ลองไปดูทีมงานเบื้องหลังว่าจะมีใครกันบ้างที่จะเป็นมือขวา-ซ้ายและคนที่คอยช่วยงานผู้จัดการทีมวัย 51 ปีรายนี้

เฆซุส เปเรซ - ผู้ช่วยผู้จัดการทีม

มือขวาคนสำคัญของ มาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่เจ้าตัวให้การยกย่องอย่างสูงและทำงานร่วมกับมาตั้งแต่สมัยอยู่ เซาธ์แฮมตัน และเป็นคนคอยช่วยเหลือด้านภาษาอังกฤษในเวลานั้นด้วย

แต่การทำงานร่วมกันครั้งแรกนับตั้งย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 สมัยที่อยู่ เอสปันญ่อล ซึ่งตอนนั้นทาง เปเรซ ถูกดึงมาทำงานแทน ราม่อน ปลาเนส ในตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬา โดยทำงานร่วมกับ 'พอช' โดยมีพื้นฐานจากการเป็นโค้ชคนเดียวในลา ลีกาที่รู้วิธีใช้ซอฟท์แวร์วิเคราะห์การแข่งขัน

เปเรซ เป็นคนที่เน้นในเรื่องของความฟิตของผู้เล่น ซึ่งเข้าได้รับการยกย่องว่าช่วยให้ทั้ง เซาธ์แฮมป์ตัน และ สเปอร์ส เป็นหนึ่งในทีมที่ฟิตที่สุดในประเทศ

เชื่อกันว่าแผนการซ้อมของเขาช่วยพัฒนาร่างการของ แฮร์รี่ เคน จนก้าวขึ้นมาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

มิเกล ดากอสติโน่ - ผู้ช่วยผู้จัดการทีม

รู้จักกับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มาตั้งแต่สมัยยังค้าแข้งกับ นีเวลล์ส โอลด์ บอยส์ โดยหลังจากที่แขวนสตั๊ดไป มิเกล ดากอสติโน่ ทำงานงานโค้ชกับ แบรสต์ และ ดูไบ ซีเอสซี

กระทั่งในปี 2009 ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทีมงานของ โปเช็ตติโน่ ที่ เอสปันญ่อล โดยมีหน้าที่ช่วยงานโค้ชและวิเคราะห์การซ้อมของนักเตะ

ถือเป็นคนที่ทำงานเข้าขากับกุนซือชาวอาร์เจนติน่าเป็นอย่างดีและทำงานร่วมกับมาทั้ง เซาธ์แฮมป์ตัน, สเปอร์ส และ ล่าสุดกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วย

โทนี่ ฆิเมเนซ - โค้ชผู้รักษาประตู

อีกคนที่ร่วมงานกับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มาตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะที่ เอสปันญ่อล หลังจากที่เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า

ด้วยฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดาทำให้เจ้าตัวอยู่ในชุดแชมป์โอลิมปิกกับ สเปน เมื่อปี 1992 ก่อนจะแขวนถุงมือไปในปี 2004 และก้าวขึ้นเป็นผู้อำนวยการสโมสร "นกแก้ว" จนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทีมงานของ โปเช็ตติโน่

นี่คือคนที่ อูโก้ โยริส นายทวารตัวเก๋าของ สเปอร์ส ให้การยกย่องหลังทำงานร่วมกันมาโดยกล่าวว่า "ตอนที่ผมได้พบกับ โทนี่ และ เมาริซิโอ ครั้งแรก ผมเริ่มใช่เวลามากขึ้นในโรงยิมและดูแลร่างกายของผม พัฒนากล้ามเนื้อมากขึ้น พัฒนาเทคนิคของผม"

"2-3 สัปดาห์แรก คุณสงสัยว่าสิ่งที่พวกเขาพยายามจะทำได้ผลหรือไม่ แต่หลังขากที่คุณเริ่มจับทางได้คุณจะรู้สึกได้ว่าสิ่งที่พวกเขาถูกอาจจะถูกก็ได้"

เซบาสเตียโน่ โปเช็ตติโน่ - นักวิทยาศาสตร์การกีฬาและโค้ชฟิตเนส

หนึ่งในทีมงานที่มีอีกหนึ่งศักดิ์นั่นคือเขาเป็นลูกชายของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ นั่นเอง แต่นั่นไม่ใช่สิทธิพิเศษในการได้เข้ามาทำงานนี้เพราะเขาเองก็มีฝีมือไม่ธรรมดาเช่นกัน

ลูกชายคนโตของ 'พอช' เริ่มทำงานร่วมกันที่ สเปอร์ส เมื่อปี 2016 ในตำแหน่งนักวิทยาศาสตร์การกีฬาและโค้ชฟิตเนส ซึ่งก่อนได้รับการแต่งตั้งเขาได้รับปริญญาเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจาก เซาธ์แฮมป์ตัน โซเลนต์ ยูนิเวอร์ซิตี้ ในสาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาประยุกต์

เซบาสเตียโน่ ย้ายตามพ่อไปที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง พร้อมกับจบปริญญาโทสาขา "ชีววิทยาบูรณาการของการดัดแปลงเพื่อการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและประสิทธิภาพ" จากมหาวิทยาลัยในปารีสด้วย

นอกจากนี้ เซบาสเตียโน่ พูดได้ทั้ง อังกฤษ, ฝรั่งเศส และ สเปน โดยเขามีความเชี่ยวชาญเรื่องการป้องกันอาการบาดเจ็บ ฝึกความแข็งแกร่งและการปรับสภาพร่างกาย

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 ทาง โปเช็ตติโน่ ปฏิเสธว่าดึงลูกชายมาทำงานด้วยเพราะว่าเป็น "ลูก" โดยยืนยันว่า เซบาสเตียโน่ สามารถไปทำงานกับผู้จัดการทีมคนอื่นได้

คารีน่า โปเช็ตติโน่ - ภรรยา

แน่นอนว่านี่คือคนที่ โปเช็ตติโน่ ไว้ใจมากที่สุด โดยทั้งคู่พบกันที่ แอร์โรว์ ไนท์คลับใน โรซาริโอ เมื่อปี 1991 และมันคือรักแรกพบด้วย

สามปีต่อมาทั้งคู่ก็เดินทางร่วมกันตอนที่ 'พอช' เริ่มต้นอาชีพกับ นีเวลล์ส โอลด์ บอยส์ ซึ่งเธอใช้ชีวิตส่วนตัวมากและไม่ค่อยเห็นในแวดวงฟุตบอลนัก

อย่างไรก็ตามว่ากันว่า คารีน่า วัย 49 ปี มีส่วนสำคัญในการจัดการเรื่องต่างๆของสามี เหมือนเมื่อครั้งที่ โปเช็ตติโน่ มีปัญหาเรื่องภาษสมัยเริ่มคุม เซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อปี 2013 แต่ คารีน่า ก้าวเข้ามาให้ความเชื่อมั่นกับสามี และที่เหลือก็คือประวัติศาสตร์