ทีแรก ปิศาจแดง เกือบจะตีตั๋วไป แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างเป็นทางการเพราะ ลิเวอร์พูล ตามหลัง แอสตัน วิลล่า ก่อนจะตามตีเสมอท้ายเกมทำให้ หงส์แดง ยังเหลือโอกาสแม้จะน้อยนิดก็ตาม

ถึงตรงนี้ทุกอย่างอยู่ในมือ ยูไนเต็ด ที่เป็นฝ่ายกำหนดชะตาตนเองและขอเพียงแต้มเดียวจากสองเกมที่เหลือ โดยนัดต่อไปคือการเปิดสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด รับมือ เชลซี ช่วงดึกวันพฤหัสบดีนี้

เมื่อทุกอย่างเข้าทางเกือบทั้งหมด ตอนนี้เลยขึ้นอยู่กับ เอริก เทน ฮาก และลูกทีมต้อง 'ปิดจ๊อบ' ให้สำเร็จในเกมต่อไป ซึ่งหากลุล่วงจะทำให้เกมสุดท้ายลงเล่นแบบไร้แรงกดดันแถมยังสามารถสลับหมุนเวียนทีมก่อนรอบชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ช่วงต้นเดือนมิถุนายน

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าทุกอย่างกำลังเทมาทาง ปิศาจแดง หลังจากก่อนหน้านี้ต้องเจอช่วงฟอร์มหลุดจนสถานการณ์ไม่มั่นคง แต่ชัยชนะสองเกมหลังสุดและการพลาดท่าของ ลิเวอร์พูล ในนัดที่ผ่านมนทำให้ความได้เปรียบอยู่ในมือ เทน ฮาก 

หนึ่งคะแนนจากสองเกมที่เหลือคือโจทย์ที่จะทำให้งานสำเร็จลุล่วง กระนั้นในมุม เทน ฮาก คงต้องการชัยชนะแบบไม่มีเงื่อนไขและนั่นคือความคาดหวังที่เขาอยากให้นักเตะทำได้ในเกมต่อไป

สิ่งสำคัญคือการรักษาความต่อเนื่องเพราะช่วงที่ผ่านมาทีมมีปัญหาจุดนี้ ซึ่งทาง 'อีทีเอช' ทราบดีและอยากให้ลูกทีมรักษาความต่อเนื่องให้ดีกว่าเดิม

การคว้าชัยจึงถือเป็นเป้าหมายสำคัญลำดับแรก เพราะมันจะช่วยในทุกๆ ด้านทั้งกำลังใจหรือการมอบความสุขให้แฟนบอล และที่สำคัญไปกว่านั้นคือ 'ตั๋ว' ใบสำคัญที่ทีมต้องการ

ชัดเจนว่าเป็นงานไม่ง่ายอย่างแน่นอน แม้ เชลซี อยู่ในช่วงผีเข้าผีออกกับผลงานที่ไม่มั่นคง แต่ขึ้นชื่อว่า สิงโตน้ำเงินคราม ก็มักจะเป็นงานหนักเสมอของ ปิศาจแดง ไม่ว่าจะลงเล่นที่ไหนก็ตาม

เกมวันพฤหัสบดีนี้จึงน่าสนใจว่าเมื่อถึงเวลาชี้เป็นชี้ตายหรือช่วงเวลาสำคัญแล้ว พลพรรคปิศาจแดงจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายหรือไม่ ซึ่งลึกๆ หวังว่านักเตะคงไม่สั่นหรือเสียสมาธิจนต้องไปเหนื่อยในนัดสุดท้าย

แต่โอกาสที่ว่ายังมีความเป็นไปได้ เพราะนั่นคือสิ่งที่ เทน ฮาก ตระหนักดีเป็นที่สุด เขาทราบถึงจุดอ่อนสำคัญในมีอยู่ทีมที่บทจะพลาดก็พลาดกันง่ายๆ ซึ่งแสดงออกมาให้เห็นตั้งแต่ได้แชมป์คาราบาว คัพ มีหลายนัดหลังจากรอบชิงฯ ที่ไม่เป็นไปตามต้องการหรือหลายนัดที่ทำผลงานน่าผิดหวังลากยาวมาจนถึงช่วงต้นเดือนนี้

อีกหนึ่งจุดสำคัญคงหนีไม่พ้นการแก้เกมของ เทน ฮาก เพราะช่วงที่ผ่านมาโดนวิจารณ์อยู่ไม่น้อยแถมยังโดนแซวด้วยว่าบางนัดดันไปแก้เกมให้คู่แข่งเสียเอง ยกตัวอย่างสำคัญคือนัดเสมอ เซบีย่า 2-2 

ทุกอย่างที่ผ่านมาคือบทเรียน หากทุกคนในทีมนำความผิดพลาดมาปรับปรุงแก้ไขก็เชื่อว่าจะผ่านช่วงเวลาสำคัญนี้ไปได้ กระนั้นทุกอย่างที่กล่าวมาต้องลงไปพิสูจน์กันในสนาม

ด้วยภารกิจในลีกที่กำลังจะถึงเส้นชัยบวกกับความได้เปรียบที่มีเหนือคู่แข่งแบบสุดกู่ หวังว่า ปิศาจแดง จะปิดงานในเกมได้สำเร็จหน้า เพื่อจะสามารถผ่อนแรงในนัดสุดท้ายก่อนเตรียมเดินทางไปลอนดอน

แต่จะสำเร็จอย่างที่ต้องการหรือไม่ และจะจบลงแบบไหน เช้าวันศุกร์นี้คงได้ทราบกัน