สำหรับ เควิน เดอ บรอยน์ ที่พาแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถือเป็นการปิดฤดูกาล 2022-23 อย่างสมบูรณ์แบบ
อย่างไรก็ตาม ช่วงโค้งสุดท้าย เขาต้องเจอกับอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างต่อเนื่อง หลักฐานสำคัญคือ การถูกเปลี่ยนตัวออก ในเกมยุโรป นัดชิงชนะเลิศ ที่เอาชนะอินเตอร์ มิลาน 1-0
ช่วงนี้ เราพาไปดูมุมมองของเขากันหน่อย เกี่ยวกับแผนการในชีวิต หลังจากที่เลิกเล่นฟุตบอลไปแล้ว บอกเลยว่า มันเต็มไปด้วยระบบ และแบบแผน ชนิดที่เปิดเผยให้เห็นถึงมันสมองที่แสนชาญฉลาด เหมือนกับตอนที่เขาเล่นในสนามเลยทีเดียว
“อาชีพนักฟุตบอลแสนสั้น ... คุณต้องวางแผนอาชีพเสริม”
เควิน เดอ บรอยน์ กล่าวถึงแนวทางการใช้ชีวิต การเป็นนักเตะระดับโลกของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มาพร้อมกับค่าเหนื่อยมหาศาล ไม่อาจการันตีได้ว่า ฐานะทางการเงินจะมั่นคงตลอดไป
นอกจากการเล่นฟุตบอลในสนามแล้ว มันสมองของเขายังถูกนำมาใช้กับการวางแผน โดยเฉพาะเชิงการทำธุรกิจ เขาวางแผนกับชีวิตหลังแขวนสตั๊ดเอาไว้อย่างเป็นขั้นตอน
“ตอนที่ผมย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผมอายุประมาณ 23-24 ปี ช่วงเวลานั้น คุณยังไม่ต้องทำอะไรมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป ทุกอย่างจะเริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ คุณต้องทำกายภาพบำบัด และดูแลเรื่องอาหารมากขึ้น” เขากล่าวต่อ
“ร่างกายของคุณต้องทำงานหนัก เปรียบกับรถยนต์ที่ขับด้วยระยะทางที่มากขึ้น ดังนั้น ผมต้องทำทุกทาง เพื่อยืดระยะมันออกไป”
หนึ่งในบริษัทที่เขาเลือกลงทุนคือ ธุรกิจที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ มุ่งเน้นไปที่เครื่องมือกายภาพแบบพกพา รวมถึงบริษัทผู้ผลิตหญ้าเทียม เพื่อใช้ในสนามกีฬาที่เบลเยี่ยม
“หากคุณเป็นคนโชคดี คุณจะเล่นฟุตบอลได้ถึงอายุ 35-36 ปี จากนั้น เงินที่ได้จากการเล่นฟุตบอลก็จะหายไป ผมเคยได้ยินเรื่องราวของนักเตะหลายคน ที่สถานะทางการเงินล้มเหลวในระยะเวลาเพียง 5 ปี มันแสดงให้เห็นว่า เงินสามารถหายไปได้อย่างรวดเร็ว”
เควิน เดอ บรอยน์ กล่าวต่อว่า “ผมคิดว่าประมาณ 99 เปอร์เซ็นต์ของนักฟุตบอล และนักกีฬา พวกเขาเริ่มต้นเล่นตั้งแต่อายุยังน้อย พวกเขายังไม่เข้าใจว่า เงินทำงานอย่างไร มันไหลไปทางไหน และมันหายไปเร็วแค่ไหน เมื่อเงินหายไป มันหายไปชั่วพริบตา”
“คุณจะได้เรียนรู้ความสำคัญของเรื่องนี้ ตอนอายุ 27-28 ปี ช่วงเวลานั้น ผมค้าแข้งมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ผมตัดสินใจซื้อบ้านในเมืองแมนเชสเตอร์ และอพาร์ทเมนต์ในเบลเยี่ยม”
“เมื่อคุณเริ่มเล่นฟุตบอล คุณไม่ค่อยคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง ธุรกิจของผมคือการเป็นนักฟุตบอล นั่นยังคงเป็นธุรกิจหลัก อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ผมมีครอบครัว และมีคนต้องดูแล ผมมีบ้านหลายหลัง”
เควิน เดอ บรอยน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ดังนั้น ผมจึงเห็นบิลค่าใช้จ่ายมากมาย คุณจะเริ่มมีความคิดที่ว่า มันจะเกิดอะไรขึ้น หากคุณเลิกเล่นฟุตบอลแล้ว และคุณไม่ได้รับเงินค่าจ้างอีกต่อไป ? ในช่วงเวลานั้นเอง บิลค่าใช้จ่ายยังคงดำเนินต่อไป คุณจึงต้องหารายได้เสริมอีกหนึ่งทาง”
“การลงทุนเรื่องเครื่องมือกายภาพ ถือว่ามีความสมเหตุสมผล เพราะการพักฟื้นร่างกาย ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเล่นกีฬา”
“ผมชอบลงทุนในสิ่งที่ผมสนใจเท่านั้น ผมจะไม่ทำในสิ่งที่ผมไม่อยากทำ แม้มันจะได้รับผลตอบแทนดีแค่ไหนก็ตาม ผมต้องรู้สึกเชื่อมโยงกับสิ่งที่ตัวเองทำ ซึ่งการลงทุนแบบนี้ จะดีกับผมในท้ายที่สุด”
