เขาเกิด และเติบโตในครอบครัวที่แสนธรรมดา คุณพ่อของเขาทำงานในโรงงานธัญพืช ส่วนคุณแม่เป็นคุณครูสอนเด็กอนุบาล โดยครอบครัวมีอิทธิพลอย่างมาก ในการสนับสนุนลูกชายกับการเล่นฟุตบอล
เขาปักหมุดเส้นทางลูกหนังกับทีมท้องถิ่นอย่างแอตเลติโก้ คาลชิน โดยมีชายนามว่าราฟาเอล วาราส เป็นโค้ชฟุตบอลคนแรก
สำหรับวาราส ทำงานประจำเป็นคนขับรถส่งของ ส่วนในตอนเย็น เขาถึงมารับหน้าที่เป็นโค้ชสอนฟุตบอล โดยมีเด็กหลายคนที่อยู่ในความดูแล
วาราส ย้อนความทรงจำถึงเด็กคนดังกล่าว ที่มีพรสวรรค์ไม่เหมือนใครว่า “เขาเป็นเด็กที่มีลูกฟุตบอลอยู่ข้างกายเสมอ เขายังคงเป็นเด็กคนเดิม จวบจนถึงปัจจุบัน”
“เขาเป็นเด็กเงียบขรึม และมีความรับผิดชอบ เขามีสมาธิ พร้อมกับเล่นฟุตบอลได้อย่างเป็นธรรมชาติ”
“ย้อนเวลากลับไป ตอนที่เขาอายุ 8-9 ขวบ เขากระชากบอลผ่านคู่แข่ง 4-5 คน ก่อนจะจบสกอร์ด้วยการยิงไขว้แบบราโบน่า ผมรู้ทันทีเลยว่า ผมมีเด็กที่แตกต่างจากคนทั่วไป ที่จะก้าวมาเป็นซูเปอร์สตาร์ลูกหนังในอนาคต”
“ผมรู้สึกว่า ผมไม่ใช่ครูของเขาหรอก คุณจะสอนนักเตะแบบเขาได้อย่างไร คุณทำได้เพียงแค่แนะนำเท่านั้นเอง”
ในวัย 15 ปี อัลวาเรซ ออกเดินทางจากบ้านเกิดที่คาลชิน มุ่งหน้าไปทางตะวันออก 400 ไมล์ เพื่อเข้าระบบเยาวชนของริเวอร์เพลท นั่นคือจุดเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังของเขา ก่อนก้าวสู่ทีมชุดใหญ่ ในอีก 3 ปีต่อมา
วาราส กล่าวต่อว่า “เขาเป็นแฟนบอลริเวอร์เพลท และบาร์เซโลน่า เขาต้องการเล่นฟุตบอลอาชีพมาตลอด เขาอยากเล่นให้ริเวอร์เพลท และอยากเล่นกับลิโอเนล เมสซี่”
“เขาดีกว่าเพื่อนร่วมทีมคนอื่น และคู่แข่งเสมอ ไม่ใช่แค่ในแง่ของฝีเท้า ยังรวมถึงเรื่องการฝึกฝนตัวเอง และพฤติกรรม เขามีความอ่อนน้อมถ่อมตน นั่นคือความแตกต่าง”
“เขาเป็นเด็กที่ถ่อมตัว ไม่ชอบการไปมีเรื่องกับฝ่ายตรงข้าม มีหลายเกมที่โดนคู่แข่งดึงเสื้อ, ไล่ผลัก หรือทำฟาวล์แรงๆ แต่เขาไม่ชอบลุกขึ้นมาตอบโต้ เขาไม่เคยถามว่า คู่แข่งไล่อัดเขาทำไม ? เขาไม่ชอบเถียงกับกรรมการ ไม่ชอบเถียงฝ่ายตรงข้าม และไม่ชอบเถียงกับอะไรเลย”
“ดังนั้น เพื่อนร่วมทีม และคู่แข่งถึงเคารพเขา พร้อมกับแสดงความยินดีกับเขา เมื่อเขายิงประตู, เลี้ยงบอล หรือยิงไกล ทุกคนจะปรบมือ และพูดถึงแมงมุมตัวน้อยแห่งคาลชิน”
แม้ว่าวาราส จะกล่าวถึงลูกศิษย์คนนี้ ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน อย่างไรก็ตาม เด็กที่เขาเฝ้าดูแล กลับไม่เคยลืมอาจารย์คนนี้เลย แม้กระทั่งในวันที่ก้าวไปอยู่อะคาเดมี่ของทีมดังอย่างริเวอร์เพลท
ฤดูใบไม้ผลิ ในปี 2020 วาราส ได้รับของขวัญแสนพิเศษจากลูกศิษย์ของเขา ที่เวลานั้นก้าวมาเล่นทีมชุดใหญ่ของริเวอร์เพลท เป็นที่เรียบร้อย
สำหรับของขวัญชิ้นนั้น คือรถตู้ส่งของคันใหม่ วาราส ออกมายอมรับว่า เขาถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เมื่อเห็นรถตู้แล่นมาจอดหน้าบ้าน พร้อมกับกุญแจรถ
โดยตัวรถยังมีการแปะสติ๊กเกอร์คำว่า “ขอบคุณนะครับ” ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นตัวแทนของความกตัญญู
วันนี้ .... วาราส คงภาคภูมิใจอยู่ที่ไหนสักแห่ง เมื่อเห็นลูกศิษย์สร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกกับทีมชาติอาร์เจนติน่า
รวมถึงคว้า 3 แชมป์รายการสำคัญกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทั้งพรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
