:::     :::

'ดีแคลน ไรซ์' จิ๊กซอว์ร้อยล้านปอนด์ของปืนใหญ่ (2)

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ในตอน 2 ของ ดีแคลน ไรซ์ จะเจาะลึกในเรื่องการมีส่วนร่วมในเกมรุกซึ่งพัฒนาขึ้นมากในช่วงหลัง รวมถึงความเป็นผู้นำที่มีโอกาสได้ทำหน้าที่กัปตันทีม อาร์เซน่อล ในอนาคต

ไรซ์ อายุเพียง 24 ปี และเป็นนักเตะ เวสต์แฮม ที่ไม่ใช่ทีมหัวแถวของลีก ทว่ามีประสบการณ์เพียบ และผ่านเกมสำคัญมามากมาย เช่นเดียวกับการแสดงให้เห็นถึงความเป็น "ผู้นำ"  

นี่คืออีกคุณสมบัติเด่นของกองกลางทีมชาติอังกฤษรายนี้เพราะทำหน้าที่ผู้นำทีมมาตั้งแต่ระดับเยาวชน และเคยเป็นกัปตันทีมชุดยู-23 ของ เวสต์แฮม ที่พาทีมเลื่อนชั้นในปี 2017 

ไรซ์ ทำหน้าที่กัปตันทีมชุดใหญ่ของ เวสต์แฮม ครั้งแรกในเกมพบ เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2019 ขณะอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น ก่อนกลายเป็นกัปตันคนใหม่อย่างเป็นทางการต่อจาก มาร์ค โนเบิ้ล ที่แขวนสตั๊ดหลังจบฤดูกาล 2021/22 

ความเป็นผู้นำของ ไรซ์ ไม่ใช่แค่การสวมปลอกแขนกัปตันทีม แต่เขาปฏิบัติให้เห็นด้วยกับการเรียกประชุมทีมสองครั้งหลังเกมพ่าย ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 0-2 ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยที่ เดวิด มอยส์ กับสตาฟฟ์โค้ชไม่รู้เรื่องเลย และนัดต่อไป เวสต์แฮม ก็คืนฟอร์มเก่งทันควันเอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 4-0

วลาดิเมียร์ ชูฟาล กล่าวถึง ไรซ์ ว่า "เขาคือผู้นำหลักของเราในฤดูกาลนี้ และเขารับผิดชอบทุกอย่างเลย"

"เขายังหนุ่มแน่น แต่ช่วยเราเอาตัวรอดในฤดูกาลได้ด้วยการเล่นในสนาม เมื่อเขาเล่นแบบนั้น คนอื่่นๆ ก็รู้สึกมั่นใจมากขึ้น"

"คุณเห็นได้ในทุกวันกับการซ้อมไม่ว่าจะเป็นการจ่ายบอล การเลี้ยง หรือสปีดเพราะเท้าของเขาเร็วมากๆ เขามีครบทุกอย่างและผมก็เคยพูดไปหลายครั้งว่า เขากำลังอยู่บนเส้นทางการเป็นหนึ่งในโฮลดิ้งมิดฟิลด์ที่เก่งที่สุดในโลก"


ขณะที่ เอ็มมานูเอล เปอตีต์ อดีตกองกลาง อาร์เซน่อล ที่เล่นในตำแหน่งเดียวกัน กล่าวถึงดาวเตะรุ่นน้องว่า "คุณก็คงเห็นแล้วกับคุณภาพที่เขามีด้วยอายุเพียงแค่นี้ เขามีคุณภาพความเป็นผู้นำด้วย รวมถึงแนวคิดของผู้ชนะ" 

"ความเป็นผู้นำคือสิ่งที่ขาดหายไปในหลายปีที่ อาร์เซน่อล แต่สำหรับ ดีแคลน ไรซ์ ผมคิดว่าเขาคือกัปตันทีมทั้งในและนอกสนาม"

"แนวทางที่ ดีแคลน ต้องการเล่น และแนวทางที่ อาร์เตต้า ต้องการให้ทีมเล่น ผมคิดว่าน่าจะเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบเลย" 

มาเจาะกันที่การเล่นเกมรุกซึ่ง ไรซ์ น่าจะถูกคาดหวังไม่น้อยไปกว่าเกมรับด้วยการที่ อาร์เซน่อล เล่นเกมรุกมากกว่า เวสต์แฮม 

ฤดูกาลที่แล้ว ไรซ์ ยิงไป 4 ประตูในพรีเมียร์ลีก เป็นสถิติมากสุดต่อฤดูกาลนับตั้งแต่เริ่มค้าแข้ง และยังมีประตูแห่งความทรงจำในถ้วยยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศที่พาบอลเลี้ยงตะลุยจากแดนตัวเองเข้าไปยิงประตู เกนท์ อย่างสุดยอด

กองกลางป้ายแดงของปืนโตกล่าวถึงประตูนี้ของตัวเองว่า "ตอนผมได้บอลในตำแหน่งนั้น และมีพื้นที่ว่างให้ลุยขึ้นข้างหน้า ผมรู้สึกโอเคเลย ตอนเลี้ยงผ่านกองหลังได้และพาบอลไปในพื่นที่ว่าง นั่นคือช่วงที่ผมรู้สึกว่าผมทำได้ดีที่สุด" 

ในทีมขุนค้อนฤดูกาลที่แล้ว ไรซ์ เป็นนักเตะที่มีส่วนในการต่อบอลทำเกมรุกจากจังหวะโอเพ่นเพลย์ (attacking sequences) มากสุดในทีมที่จำนวน 138 ครั้ง เหนือกว่า จาร์ร็อด โบเว่น (135) และ ซาอิด เบนห์ราม่า (134) ที่เป็นสองผู้เล่นเกมรุกโดยธรรมชาติ

สถิติ 138 ครั้ง เป็นการลุ้นยิงประตู 32 ครั้ง, สร้างโอกาส 30 ครั้ง และอีก 76 ครั้งเป็นการบิลด์อัพเกมนำไปสู่การยิงประตู 


จากกราฟิค สีแดง : ยิงเอง, สีม่วง : สร้างโอกาสให้เพื่อน และสีขาว : บิลด์อัพก่อนจบที่การยิงประตู  

หากนับเฉพาะการสร้างโอกาสจากจังหวะโอเพ่นเพลย์ก็มีเพียง เบนราห์ม่า (47) และ โบเว่น (35) ที่ทำได้มากกว่า ไรซ์ ทั้งที่การเล่นเกมรุกไม่ใช่หน้าที่หลักด้วยซ้ำ 

ฤดูกาลที่แล้ว เวสต์แฮม มีสถิติครองบอลเฉลี่ยเพียง 41.4 เปอร์เซ็นต์ น้อยสุดอันดับ 3 ของลีกรองจาก น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และ บอร์นมัธ ทว่าสถิติการจ่ายบอลของ ไรซ์ กลับอยู่อันดับต้นๆ ของลีก

ปกติทีมที่ครองบอลน้อย ผู้เล่นในทีมแต่ละทีมก็จะได้เล่นบอลและจ่ายบอลน้อยตามไปด้วย แต่ไม่ใช่สำหรับ ไรซ์ ที่มีการจ่ายบอลมากถึง 2,083 ครั้งในฤดูกาลที่แล้ว มากกว่าเพื่อนร่วมทีมคนอื่นเกือบสองเท่า

หากเทียบกับบรรดากองกลางในพรีเมียร์ลีกด้วยกันก็มีเพียง โรดรี้, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ก และ ไกเซโด้ ที่จ่ายบอลมากกว่า

เห็นได้ชัดเลยว่า ไรซ์ เป็นหัวใจสำคัญในการต่อบอลของ เวสต์แฮม จริงๆ เพื่อนร่วมทีมให้ความไว้เนื้อเชื่อใจอย่างเต็มร้อยและมองหาตลอดเพื่อจ่ายบอลให้

การจ่ายบอลจำนวนมากของ ไรซ์ มีจุดที่ถูกด้อยค่าได้คือเน้นการจ่ายแบบ "เพลย์เซฟ" ออกด้านข้างไม่ว่าจะเป็นซ้ายหรือขวา ไม่ได้กล้าเสี่ยงจ่ายยัดขึ้นหน้ามากนักดังกราฟฟิคที่แสดงด้านล้าง


ทิศทางและความถี่ในการจ่ายบอลของ ไรซ์

อย่างไรก็ตาม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบทบาทการเล่นที่ได้รับมอบหมายจากผู้จัดการทีม และเวสต์แฮมก็เป็นทีมที่เน้นถ่ายบอลด้านข้างไปมาเป็นหลัก

การจ่ายบอลซ้าย-ขวาสามารถโจมตีคู่แข่งได้มีประสิทธิภาพเช่นกันหากทำได้แม่นยำและรวดเร็ว เช่นในเกมกับ ลิเวอร์พูล ที่ ไรซ์ แย่งบอล ดิโอโก้ โชต้า ได้บริเวณฝั่งขวาของกลางสนามก่อนเล่นเร็วโยนข้ามฟากยาวไปให้ ซาอิด เบนห์ราม่า ที่พื้นที่ว่างทางซ้าย

ตรงนี้น่าสนใจทันทีกับการย้ายร่วมทีม อาร์เซน่อล ที่เน้นถ่ายบอลออกด้านข้างให้ บูคาโย่ ซาก้า และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ โดยเฉพาะในเวลาขึงเกมรุกเข้าใส่คู่แข่ง 

ไรซ์ สวิตซ์บอลเปลี่ยนฝั่งได้ดีอยู่แล้ว แต่อาจต้องให้เร็วขึ้นเพื่อถ่างเกมรับคู่แข่งให้แตกขยายยิ่งกว่าเดิมเพราะหลายทีมที่เจออาร์เซน่อล มักตั้งรับลึกและใช้ผู้เล่นหลายคนช่วยกันเล่นเกมรับ 

ในฤดูกาล 2021/22 ไรซ์ เคยกล่าวถึงการเล่นของตัวเองว่าต้องการมีอิสระในการสนับสนุนเกมรุกมากขึ้น และพาบอลขึ้นหน้ามากกว่าเดิม 

"ผมไม่ได้เป็นเพียงโฮลดิ้งมิดฟิลด์อีกต่อไปแล้ว ผมเคยถูกมองว่าเป็นผู้เล่นที่ปักหลักอยู่หน้าแผงแบ็กโฟร์อย่างเดียวตลอด" ไรซ์ กล่าว

"ตอนนี้ ผมต้องการเห็นตัวเองในแบบผู้เล่นบ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ ที่สามารถขึ้นและลงสามารถสร้างสรรค์โอกาส แต่ขณะเดียวกันก็พร้อมกลับคืนตำแหน่งเพื่อช่วยเกมรับ"

นอกจากประตูลุยเดี่ยวในเกมคอนเฟอเรนซ์ลีกแล้ว เราได้เห็นกันบ่อยครั้งในฤดูกาลล่าสุดที่ ไรซ์ พาบอลขึ้นหน้าไปเอง 

ในบรรดากองกลางด้วยกัน นักเตะที่พาบอลขึ้นหน้า (progressive carries - อย่างน้อย 5 เมตร หรือเป็นระยะทาง 25 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปจากจุดเริ่มต้นจนถึงเส้นประตูของคู่แข่ง) มากสุดคือ โจ วิลล็อค ที่จำนวน 63 ครั้ง ตามด้วย มาร์ติน โอเดการ์ด 57 ครั้ง, โรดรี้ 55 ครั้ง ขณะที่ ไรซ์ รั้งอันดับ 4 ที่ 51 ครั้ง 

สถิติตรงนี้สะท้อนถึงไอเดียการเล่นของ ไรซ์ ที่เคยกล่าวเอาไว้ว่าอยากมีส่วนในการเล่นเกมรุก และพัฒนาบทบาทในแบบ "โฮลดิ้งมิดฟิลด์" ให้มีความเป็น "บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์" มากขึ้น 


ไรซ์ พาบอลลุยขึ้นข้างหน้าไปเองในเกมพบ นิวคาสเซิ่ล

อีกสถิติที่เห็นได้ถึงการมีส่วนในเกมรุกคือ ไรซ์ สัมผัสบอลในพื้นที่สุดท้ายเฉลี่ย 12.4 ครั้งต่อ 90 นาที เป็นค่าเฉลี่ยมากกว่าทุกฤดูกาลที่ผ่านมา 

หลังจบเกมที่ยิงหนึ่งประตูพาทีมเปิดบ้านชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 3-1 ไรซ์ พูดถึงการเล่นของตัวเองว่า "ผมคิดว่าผมวิ่งเข้าเขตโทษเยอะมากในวันนี้ น่าจะมากสุดที่เคยวิ่งในช่วงหลังเลย ผมจะพยายามรักษาการเล่นของผมเองให้ได้แบบนี้ต่อไป"

ดังนั้นพอจะสรุปได้ว่า ดีแคลน ไรซ์ น่าจะปรับตัวเข้ากับการเล่นของ อาร์เซน่อล ที่มีประสิทธิภาพและเน้นเกมรุกมากกว่า เวสต์แฮม ได้ไม่ยากเพราะเป็นอีกสิ่งที่อยากแสดงศักยภาพให้ทุกคนเห็นอยู่แล้ว

หรือหาก มิเกล อาร์เตต้า ต้องการให้ปักหลักเป็นหมายเลข 6 ยืนต่ำสุดในแดนกลางก็ไมใช่ปัญหาเนื่องจากเล่นประจำอยู่แล้วทั้งระดับสโมสรและทีมชาติ 

ไม่ว่าจะบทบาทใด ดีแคลน ไรซ์ พร้อมเสมอสำหรับการเป็นหัวใจสำคัญในแดนกลางให้ อาร์เซน่อล 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด