:::     :::

ธงชัย สุขโกกี กับภารกิจเขียนประวัติศาสตร์ใหม่

วันศุกร์ที่ 07 กรกฎาคม 2566 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
870
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ฟุตบอลไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเต็มไปด้วยเรื่องราว "ดราม่า" ไม่ว่าจะเป็นประเด็นสมาคมฯ ถูก "บิ๊กป้อม" ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่สวมหมวกอีกใบเป็น ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ สั่งให้ พล.ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ ลาออกจากตำแหน่ง หลังทีมชาติไทยพลาดเหรียญทองซีเกมส์ และมีเรื่องชกต่อยกับอินโดนีเซีย ในรอบชิงชนะเลิศจนกลายเป็นข่าวฉาว ทาง "บิ๊กอ๊อด" ขานรับคำสั่งด้วยการขู่จะลาออก หาก "บิ๊กอ๊อด" ลาออกจริง ไทย อาจโดนฟีฟ่าแบนได้จากการแทรงแซงจากบุคคลที่ 3

อย่างไรก็ตามสภากรรมการมีมติเปิดไฟแดงไม่อนุมัติให้ “บิ๊กอ๊อด” ไขก็อกลาออกจากเก้าอี้ประมุขบอลไทย และจะดำรงตำแหน่งครบวาระในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ปีหน้าแน่นอน 

ส่วนที่ยังลูกผีลูกคนคือเจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดที่จะมารับสัมปทานยิงสดให้แฟนบอลทางบ้านได้ชมความสนุกของฟุตบอลไทย ตอนนี้ยังหาข้อสรุปไม่ได้ หวังว่าทุกอย่างจะคลีคลายโดยเร็ว เพื่อให้ฟุตบอลไทยเดินหน้าต่อไป โดยเฉพาะจำนวนเงินที่จะได้เท่าไหร่กันแน่


แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นตอนนี้บรรดาทีมต่างๆ เริ่มปรับโหมดเข้าสู่ช่วงปรีซีซั่นเต็มตัว เราจะเห็นการเปิดตัวนักเตะอย่างเป็นทางการและภาพการฝึกซ้อมออกมาเรื่อยๆ นักเตะใหม่และนักเตะดีกรีทีมชาติของสโมสรใหญ่ๆ ต่างตบเท้ากันมาฝึกซ้อมกันเกือบจะครบแล้ว 

ไม่ว่าจะเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า ที่เปิดตัว 2 แนวรับอย่าง คิม มิน-ฮย็อค ปราการหลังดีกรีทีมชาติเกาหลีใต้ ที่ย้ายมาจาก ซองนัม เอฟซี และ สุพร ปินะกาตาโพธิ์ แบ็คขวาที่ย้ายมาจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด โดย “เจ้าต้าร์” กลายเป็นนักเตะ “กิเลนผยอง” คนแรกในรอบ 13 ปี ที่ย้ายมาร่วมทีม “ปราสาทสายฟ้า” นับตั้งแต่ จักรพันธ์ แก้วพรม ในปี 2010


อีกทีมที่น่าสนใจคือ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่กระชาก “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ กองกลางกัปตันทีมชาติไทยวัย 29 ปี มาจาก คาวาซากิ ฟรอนตาเล ในเจลีก ญี่ปุ่น ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 70 ล้านบาท และเขาเปิดตัวและลงฝึกซ้อมกับทีมเรียบร้อยแล้ว

เมื่อทีมลงทุนเยอะแน่นอนว่าต้องได้รับการคาดหวังสูงจากแฟนบอล “เดอะ แรบบิท” แน่นอนว่าคนที่กดดันไม่น้อยนั่นคือ “โค้ชธง” ธงชัย สุขโกกี เฮดโค้ชที่จะได้คุมทีมเต็มๆ ในฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึง 

ขุมกำลังในมือของ “โค้ชธง” ตอนนี้น่าจะเป็นกลุ่มนักเตะที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เขาก้าวเข้าสู่การเป็นกุนซือ เพราะแต่ละตำแหน่งอัดแน่นไปด้วยขุมกำลังดีกรีทีมชาติไทยทั้งสิ้น เชื่อว่าในหัวของ “โค้ชธง” น่าจะมีแผนการเล่นและแท็คติคฟุตบอล “สมัยใหม่” อยู่แล้ว ส่วนระบบการเล่นที่คาดว่าจะใช้สู้น่าจะเป็นระบบ 4-2-3-1 หรือระบบ 4-3-3 


ที่น่าสนใจคือตำแหน่ง “กองกลาง” เพราะตำแหน่งนี้มีตัวเลือกเยอะเหลือเกินไม่ว่าจะเป็น สารัช อยู่เย็น ที่จองสัมปทานตัวจริงแน่นอน 

อีก 1 คนที่ยืนหนึ่งแน่ๆ นั่นคือ “ชนาธิป” ต้องมาดูว่า “โค้ชธง” จะใช้กองกลางร่างเล็กรายนี้เล่นตำแหน่งเบอร์ 10 เพลย์เมกเกอร์อยู่หลังกองหน้าในระบบ 4-2-3-1 หรือจะให้เล่นตำแหน่งหมายเลข 8 ในระบบ 4-3-3 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ยืนต่ำลงมาคอยเชื่อมเกมและพาบอลตะลุยไปข้างหน้าเหมือนตอนเล่นมาตลอดในการค้าแข้งกับ คาวาซากิ ฟรอนตาเล 

ส่วนอีกหนึ่งตำแหน่งต้องแย่งกันไม่ว่าจะเป็น พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, ฉัตรมงคล ทองคีรี และ เชาวัตน์ วีระชาติ แต่ละคนล้วนฝีเท้าดีแตกต่างกันออกไป


เป้าหมายของทีม “เดอะ แรบบิท” ปีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนนอกจากการเดินหน้ากระชากแชมป์ไทยลีก มาจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ให้ได้ 

ถามว่ามีโอกาสไหม? มีแน่ แต่จะได้ไหมอีกเรื่อง อย่าลืมว่าปีที่แล้วทีมก็เดินหน้าเสริมทัพด้วยผู้เล่นบิ๊กเนมสุดท้ายคว้าน้ำเหลวจบอันดับ 9 ของตาราง

หาก “โค้ชธง” สามารถพาทีม บีจี ปทุมฯ คว้าแชมป์ไทยลีก 1 จะกลายเป็นกุนซือประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ทุกระดับ เพราะก่อนหน้านี้ เขาเคยพา นครปฐม ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ไทยลีก 4 ในปี 2018 

ส่วนไทย 2 (เดิม) เปรียบเหมือนไทยลีก 3 ในปัจจุบัน เขาเคยพา อยุธยา เอฟซี และ พีที ประจวบ คว้าแชมป์มาแล้วในปี 2012 และ 2014 ล่าสุดแชมป์ ไทยลีก 2 หรือเอ็ม-150 แชมเปียนส์ชิพ กับ “เสือป่าราชา” เมื่อฤดูกาลที่แล้ว พร้อมเลื่อนชั้นมาเล่นในลีกสูงสุด


ภารกิจเขียนประวัติศาสตร์ให้ตัวเองถือว่าเป็นเป็นงานที่ท้าทายของ “โค้ชธง” เป็นอย่างมาก แต่ดีกรีความเป็นกุนซือนักสู้ของ “โค้ชธง”​ บอกได้คำเดียวทางเลือกไม่มี มีแต่ทางลุยเดินหน้าทำภารกิจให้สำเร็จ

ขอเป็นกำลังใจให้ เพราะถ้าทำได้นอกจากกุนซือหน้าเปื้อนหนวดได้เครดิตแล้ว ยังทำให้กุนซือไทยได้รับการยอมรับมากกว่าเดิมด้วย


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด