:::     :::

ถึงเวลา พัทยา ยูไนเต็ด

วันอาทิตย์ที่ 09 กรกฎาคม 2566 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
437
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เรียกว่าได้ส้มหล่นผลโตเข้าไปแบบเต็มๆ สำหรับสโมสรพัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับที่ 4 ในรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก ของศึกไทยลีก 3 เมื่อได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการจากบริษัทไทยลีก จำกัด ที่แจ้งว่าพวกเขานั้นได้รับสิทธิ์ในการเลื่อนชั้นสู่ลีกพระรองอย่างศึกไทยลีก 2 แบบ 100% ในฤดูกาล 2023-2024

สำหรับสาเหตุในการเลื่อนชั้นนั้น ก็มาจากการที่ทีมแชมป์อย่างเอ็มเอช นครศรี ซิตี้ ไม่ผ่านคลับ ไลเซนซิ่ง ในส่วนของไฟส่องสว่างในสนามแข่งขันนั่นเอง 

ซึ่งในอดีตก็เคยมีกรณีที่คล้ายกันนี้เกิดขึ้นมาแล้วในฤดูกาล 2020 ที่สโมสรอาร์มี่ ยูไนเต็ด ไม่ส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันต่อ สิทธิ์ในการเลื่อนชั้นจึงตกไปอยู่กับแกรนด์ อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด ทีมอันดับที่ 4 ของไทยลีก 3 ในเวลานั้นเช่นกัน ถึงแม้จะดูน่าเสียดายสำหรับแฟนๆ ของเอ็มเอชฯ อยู่บ้าง แต่นั่นคือความจริงที่ต้องยอมรับให้ได้ 


ในขณะที่อีกมุมกลับกัน ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับแฟนๆ พัทยาฯ ด้วยเช่นกัน ที่ทีมรักของพวกเขาขยับเข้าใกล้ลีกสูงสุดอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปตั้งแต่ฤดูกาล 2018

อันที่จริงเมืองพัทยาเองก็เคยมีทีมฟุตบอลอยู่แล้ว ในชื่อของพัทยา ยูไนเต็ด จนกระทั่งในฤดูกาล 2018 ที่ทีมผู้บริหารได้ตัดสินใจขายสโมสรและสิทธิ์การทำทีมให้กับกลุ่มทุนจาก จ.สมุทรปราการ พร้อมย้ายถิ่นฐานและรีแบรนด์เป็นสมุทรปราการ ซิตี้ ในปัจจุบัน 

ทำให้แฟนบอลของพัทยาฯ นั้น ห่างหายกับการเชียร์ทีมรักบนเวทีใหญ่ไปถึง 5 ปี เลยทีเดียว จนกระทั่งการเข้ามาของคุณโชคชัย เทศปาน หรือ "บอสโชค" นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของปั๊มน้ำมัน ที่เหมือนมาชุบชีวิตให้กับแฟนบอลในถิ่นหนองปรืออีกครั้ง


เพราะ "บอสโชค" ได้เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรพัทยา ดิสคอฟเวอร์รี่ ยูไนเต็ด และทำการเปลี่ยนชื่อทีมเป็นพัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด พร้อมอัดฉีดเม็ดเงินให้ทีมอย่างเต็มที่ 

จะเห็นได้จากการที่มีนักเตะดาวดังเข้ามาร่วมทีมมาอย่างมากมาย แม้จะลงเล่นอยู่ในลีกอาชีพระดับล่างสุด ทั้งชลทิตย์ จันทคาม, ธีระพงศ์ ดีหามแห, ทศพล ยอดจันทร์ หรือสุขสันต์ บุญตา ในช่วงแรกของการทำทีม 

และแม้จะไม่ประสบความสำเร็จในการเลื่อนชั้น แต่ "บอสโชค" ก็ยังทุ่มทุนสร้างต่อไป เราจึงได้เห็นนักเตะอย่างวรุตม์ วงศ์ดี, สุพจน์ วงษ์หอย, วันใหม่ เศรษฐนันท์, นิโคลัส เบเลซ เข้ามาสู่ทีมในฤดูกาลล่าสุด พร้อมกับได้ตัวเทิดศักดิ์ ใจมั่น มากุมบังเหียนในโปรเจคท์กลับสู่ลีกรอง

แม้จะทุ่มทุนเยอะเหมือนเดิม แต่ก็เป็นอย่างที่ทราบกันดีว่าพัทยาฯ ยังไม่สามารถเลื่อนชั้นได้อีกครั้ง เมื่อแพ้ให้กับดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี ในเกมชิงอันดับ 3 ที่แข่งจบไปในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องอยู่ในไทยลีก 3 ต่อไปในฤดูกาลหน้า และดูเหมือนว่าทีมจะลดขนาดลงด้วยซ้ำจากข่าวที่ออกมาในช่วงก่อนหน้านี้ 


เพราะทีมได้แยกทางกับ "โค้ชเทิด" เทิดศักดิ์ ใจมั่น พร้อมแต่งตั้งให้ "โค้ชลิง" วิมล จันทร์คำ เข้ามาเป็นเฮดโค้ชคนใหม่ รวมถึงปล่อยตัวดาวซัลโวคนสำคัญของทีมอย่างนิโคลัส เบเลซ ออกไปแล้ว

แต่ก็อีกนั่นแหละ เมื่อทีมแชมป์อย่างเอ็มเอช นครศรี ซิตี้ ไม่พร้อมในการเล่นไทยลีก 2 ทำให้สิทธิ์การเลื่อนชั้นได้ตกมาอยู่กับพัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ดทันที ตามที่ได้กล่าวไปในตอนต้น 

เชื่อเหลือเกินว่าในครั้งนี้ "บอสโชค" คงจะกลับมาทุ่มทุนอีกครั้งเป็นแน่ เพราะนับดูคร่าวๆ แล้ว ยังเหลือเวลาอีกเป็นเดือนกว่าจะถึงฤดูกาลใหม่ พูดง่ายๆ ก็คือ พวกเขายังมีเวลาเสริมตัวผู้เล่นอีกเพียบ


สำหรับอัพเดทล่าสุดนั้น สโมสรก็ได้ยื่นเรื่องขอเปลี่ยนชื่อและโลโก้สโมสรจากเดิมที่ใช้ พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด เปลี่ยนเป็น พัทยา ยูไนเต็ด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมถึงมีการเปิดตัวแบรนด์เสื้อแข่งใหม่ให้แฟนๆ ทราบแล้วเช่นกัน

เมรุ สเตเดี้ยม ที่เราคุ้นเคย รวมไปถึงพวกแฟนบอลต่างชาติสายฮาร์ดคอร์ ที่ต้องจิบน้ำเก็กฮวยดูบอลในสนาม เหล่านี้คือเอกลักษณ์ของพัทยา ยูไนเต็ด ที่ไม่ว่าใครก็ต้องจำได้ 

แม้จะเป็นการเลื่อนชั้นเพราะได้ส้มหล่น แต่พวกเขากำลังจะได้ขึ้นมาโลดแล่นบนลีกรองอีกครั้งในฤดูกาลใหม่นี้ หลังหายไปนานถึง 5 ปี 


ไม่ว่ายังไงก็ตาม ยินดีต้อนรับในการกลับมาอีกครั้ง

ถึงเวลาของพวกคุณแล้ว พัทยา ยูไนเต็ด !!!


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด