:::     :::

อย่าตัดสินผมแค่ปีเดียว เคอร์ติส โจนส์ กับการพิสูจน์ตัวเองในแอนฟิลด์

วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม 2566 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
756
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ในช่วงหลัง ๆ มานี้ เวลาเดอะค็อปได้ยินชื่อของ เคอร์ติส โจนส์ เมื่อไหร่ หลายคนเอามือกุมหัวกันเป็น แถบ เพราะกองกลางรายนี้มักเล่นได้ไม่โดนใจจ๊อดเลย เสียบอลง่าย ติดเล่นยาก และฟอร์มดร็อปไปจากสมัยที่พุ่งขึ้นมาใหม่ ๆ ไปไกล

แต่กับสถานการณ์ปัจจุบัน เราต้องยอมรับว่า เคอร์ติส โจนส์ เรียนรู้และพัฒนาตัวเองขึ้นมาจากวันที่โดนด่าไปค่อนข้างเยอะเหมือนกัน


โจนส์ เป็นเด็กลูกหม้อของ ลิเวอร์พูล ทั้งตัวและหัวใจ เขารักที่จะเล่นกับหงส์แดงมากกว่าอะไรทั้งสิ้น "ผมโตมาท่ามกลางความบ้าฟุตบอลของคนที่นี่ ผมเป็นเด็กท้องถิ่นของเมืองนี้ ความทะเยอทะยานและความฝันของผมมีเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือการได้เล่นให้ ลิเวอร์พูล ผมอยากทำให้คนทั่วไปได้เห็นว่าเด็กท้องถิ่นอย่างเรามีดีมากแค่ไหน"


โจนส์ มาอยู่กับครอบครัวหงส์แดงตอนอายุ 9 ขวบ และเล่นในทีมเยาวชนได้ยอดเยี่ยม มาก ๆ จนแฟนบอลบอกว่านึกถึง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ขึ้นมากลาย ๆ เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการแย่งบอล ตัดบอล หรือการยิงประตู จนทำให้เขาเลื่อนชั้นไปเล่นกับเด็กโตกว่าอยู่เป็นประจำ ยิ่งในตอนที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เป็นโค้ชทีมเยาวชนอยู่ เขาคือนักเตะสุดโปรดของ สตีวี่ จี เลยล่ะครับ


"เด็กคนนี้มีพรสวรรค์ เขาคือสำคัญของทีม เขาสามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์ให้เกิดขึ้นจากจังหวะที่ไม่มีอะไรเลย"


ผลงานในทีมเยาวชน ยู-18 โจนส์ สามารถยิงได้มากถึง 15 ประตูจาก 29 นัด ขณะที่ในรายการ ยูฟ่า ยูธ ลีก เขาก็กลายเป็นตัวหลักเช่นเดียวกัน และยิงไป 13 ประตูจาก 18 นัด จน เจอร์เก้น คล็อปป์ เริ่มหาโอกาสส่งเขามาซ้อมในทีมชุดใหญ่อยู่บ่อย ๆ


ครั้งแรกที่ โจนส์ ได้รับโอกาสในการมีชื่อเป็นนักเตะชุดใหญ่ของ ลิเวอร์พูล ก็เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2018 ซึ่งเป็นเกม เมอร์ซี่ย์ ไซด์ กับ เอฟเวอร์ตัน


แม้จะไม่ได้ลงสนาม เป็นแค่สำรองที่ไม่ได้ใช้ แต่เกมวันนั้นคือประตูบานแรกที่แง้มออกมาแล้วสำหรับเด็กหนุ่มเลือดสเกาเซอร์ ซึ่งมีความฝันในการเล่นให้ทีมมาตั้งแต่เด็ก


"มันคือประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาก ผมไม่มีทางลืมวินาทีที่รู้ว่าจะมีชื่อในทีมวันนั้นเลย" 




หลังจบฤดูกาล 2017-18 ชีวิตของ โจนส์ ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ช่วงปรีซีซั่นของฤดูกาล 2018-19 โจนส์ ได้รับโอกาสให้ซ้อมกับทีมชุดใหญ่เต็มตัวและสามารถสร้างความประทับใจให้ คล็อปป์ เป็นอย่างมาก เขาเดบิวต์เกมแรกให้ ลิเวอร์พูล ในถ้วย เอฟเอ คัพ วันที่พ่าย วูลฟ์แฮมป์ตัน ช่วงเดือนมกราคม 2019 ก่อนจะได้รับการต่อสัญญาในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน 


ชื่อของ เคอร์ติส โจนส์ กลายเป็นชื่อที่เดอะ ค็อป เริ่มคุ้นหูมากขึ้น เขาได้รับเกียรติสูงสุดด้วยการสวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมในเกม เอฟเอ คัพ วันที่เอาชนะ ชรูวส์บิวรี่ ทาวน์ พร้อมกับทำสถิติเป็นกัปตันทีมที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ลิเวอร์พูล บนวัยเพียง 19 ปี กับอีก 5 วัน เท่านั้น


นอกจากนี้ โจนส์ ยังมายิงประตูชัยให้ลิเวอร์พูล ในเกมชนะ เอฟเวอร์ตัน บนศึกเอฟเอ คัพ รอบสาม กลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดต่อจาก ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ที่ยิงให้หงส์แดงได้ในเกม ดาร์บี้ นับตั้งแต่ปี 1994 เป็นต้นมา


หลังจากนั้น เขาก็ได้รับโอกาสในทีมชุดใหญ่เป็นปารถาวรพร้อมเสื้อเบอร์ 17 ซึ่งทำให้เขากลายเป็นนักเตะจากอะคาเดมี่หงส์แดงคนที่ 3 ในรอบ 20 ปีที่ได้เบอร์นี้ โดยคนก่อนหน้าเขาคือ สตีฟ แม็คมานามาน กับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด 


เรียกว่าเป็นเบอร์ของนักเตะระดับเทพทั้งนั้นเลย


แต่พอได้เบอร์นี้มา กลายเป็นว่า โจนส์ เริ่มเล่นยากมากขึ้น ม้วนบอลหวงบอลมากเกินไป และตัดสินใจในจังหวะสุดท้ายพลาดบ่อยมาก จนแฟน ๆ เริ่มส่ายหัว และหมดความหวังในตัวเขาอีกต่อไป


แต่ยังดีครับ ที่ โจนส์ เหมือนรู้ตัวเองจึงปรับเปลี่ยนทัศนคติและพยายามแก้ไขจุดบกพร่องของตัวเอง จนในช่วงปลายฤดูกาลที่แล้วเริ่มกลับมาเป็นนักเตะที่มีอนาคตอีกครั้ง มีเกมเด่น ๆ หลายเกม โดยสถิติของเขาในพรีเมียร์ลีกคือลงสนาม 18 นัด ยิงได้ 3 ประตู 1 แอสซิสต์ จ่ายบอลสำเร็จ 600 ครั้ง คิดเป็นเปอร์เซ็นต์คือ 91% และยังสร้างโอกาสให้ทีมอีกถึง 14 ครั้งด้วยกัน


คล็อปป์ บอกว่า "โจนส์ เป็นนักฟุตบอลที่ดี เราทุกคนรู้ว่าเขามีเรื่องต้องปรับปรุง เขาก็รู้เช่นกัน เขากำลังทำมันและในตอนนี้มันก็เปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นมาก ๆ"


ในช่วงปิดฤดูกาล เขาเป็นหนึ่งในขุนพลของอังกฤษชุดอายุต่ำกว่า 21 ปีไปลงทำศึกยูโร ยู-21 และก็พาทีมคว้าแชมป์มาครองได้อย่างสุดยอด โดยเขาได้รับ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ มากที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้ อีกทั้งยังทำประตูชัยให้ทีมเอาชนะสเปนในนัดชิงอีกต่างหาก


โจนส์ เพิ่งจะอายุ 22 ปี และเขาก็กำลังพยายามปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่ออนาคตในทีม ซึ่งสิ่งนี้เองจะทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ดีขึ้นแน่นอนในอนาคต


"เขาคงจะได้ดูเกมการแข่งขันมากขึ้นและมีความเข้าใจในเกมมากขึ้น พร้อมกับเอามันมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ผมคิดว่าสิ่งที่เขาพัฒนาขึ้นมากที่สุดก็คือการเล่นเกมเคาเตอร์-เพรสซิ่ง ซึ่งมันโดดเด่นมาก และสปีดในการเล่นที่เร็วขึ้น"


"เขาไม่เก็บบอลไว้กับตัวนานอีกแล้ว แต่ก็มีที่ต้องทำบ้างในบางจังหวะ ตอนนี้เขามีการตัดสินใจที่เร็วขึ้นและเล่นได้เร็วขึ้น นั่นคือสิ่งที่ผมพอใจและหวังว่าจะได้เห็นเขาพัฒนามากขึ้นอีกในฤดูกาลใหม่" คล็อปป์ ทิ้งท้าย



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด