:::     :::

ตรวจการบ้าน'ทรีไลออนส์'

วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม 2561 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
1,824
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หลังจากบุกชนะ ฮอลแลนด์ 1-0 ที่ อัมสเตอร์ดัม อารีน่า นอกจากจะเป็นชัยชนะนัดแรกของปี 2018 แล้ว ยังเป็นชัยชนะเกมอุ่นเครื่องนัดแรกในรอบ 6 นัดด้วย

ในแง่ระบบการเล่นและแท็กติก แกเร็ธ เซาธ์เกต ถือว่าประสบความสำเร็จเช่นกัน หลังจากก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะยังมองหาจุดยืนไม่เจอ ทั้งที่มีตัวเลือกในเรื่องนักเตะเยอะมาก

เกมอุ่นเครื่อง 2 นัดหลังสุด เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เซาธ์เกต เลือกระบบ 3-5-2 ในเกมเสมอ เยอรมนี 0-0 นอกจากเซนเตอร์ 3 แล้ว ยังอัดกองกลางตัวรับถึง 2 คือ เอริค ดายเออร์ กับ เจค ลิเวอร์มอร์ ส่วนอีกคนก็ไม่เชิงตัวรุกซะทีเดียว รูเบน ลอฟตัส-ชีค
ส่วนเกมที่เสมอ บราซิล แบบไม่มีสกอร์ก็เช่นกัน เซาธ์เกต ยึดระบบเดิม แดนกลางหน้าเดิม และผลการแข่งขันก็ลงเอย 0-0 เหมือนเดิมด้วย

เซาธ์เกต ยกนิ้วโป้งให้ตัวเอง

ระบบและแท็กติกดังกล่าวดูจะเสี่ยงและอันตรายเกินไป หากเอาไปใช้ในทัวร์นาเมนต์รอบสุดท้าย เพราะแม้จะมีเกมรับเหนียวแน่นแค่ไหน แต่หากโดนคู่แข่งเจาะเร็ว จะปรับกลับมาเล่นเกมรุกก็ลำบากแล้ว เพราะตัวผู้เล่นไม่เอื้ออำนวย
ดังนั้นสิ่งที่แตกต่างออกไปในเกมบุกชนะ ฮอลแลนด์ คือการเลือกตัวผู้เล่น แม้เรื่องระบบการเล่นและแท็กติกจะยังรูปแบบเดิมจากสองนัดก่อนก็ตาม
ในแผงหลัง จากเดิมที่เคยใช้สามเซนเตอร์แบ็กแท้ๆ เซาธ์เกต ตัดสินใจเลือกเอาฟูลแบ็กขยับมายืนตำแหน่งสต็อปเปอร์ โดยให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ กับ โจ โกเมซ ยืนขนาบข้าง จอห์น สโตนส์ ขณะที่มี คีแรน ทริปเปียร์ กับ แดนนี่ โรส เป็นวิงแบ็กสองฝั่ง

วอล์คเกอร์ กับบทบาทใหม่ 1 ใน 3 แนวรับ

นี่คือแท็กติกที่มีประสิทธิภาพสูง แต่สำคัญที่สุดคือคุณต้องมีนักเตะที่ตอบสนองความต้องการได้ ซึ่งจะมีประโยชน์ในจังหวะเล่นเกมรุกมากกว่าเกมรับ เพราะในช่วงเวลาที่ ทริปเปียร์ กับ โรส จะขยับขึ้นไปเป็นปีกเต็มตัว วอล์คเกอร์ กับ โกเมซ ก็จะขยับมายืนคล้ายๆ ฟูลแบ็กเต็มตัวเช่นกัน
ส่วนเกมรับ ทริปเปียร์ กับ โรส ก็จะหุบมายืนเป็นฟูลแบ็ก รองรับสามกองหลังที่เข้าไปปักหลักในเขตโทษ น่าเสียดายที่ เซาธ์เกต ไม่อาจทดสอบแท็กติกนี้เต็มตัว เพราะ โกเมซ บาดเจ็บตั้งแต่ต้นเกม คนที่ลงมาแทนอย่าง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ยังตอบโจทย์ที่วางเอาไว้ได้ไม่เต็มที่

โกเมซ โชคร้ายบาดเจ็บตั้งแต่ต้นเกม

ขยับขึ้นมาดูแดนกลาง จากเดิมที่เห็น ดายเออร์ กับ ลิเวอร์มอร์ สองกลางรับลงยืนร่วมกัน ทำให้เหมือนเสียโควต้าในการสนับสนุนเกมรุกไปหนึ่งคน มาเกมนี้ เซาธ์เกต เลือก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ยืนปักหลักคนเดียว แล้วใช้ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน กับ เจสซี่ ลินการ์ด คอยสนับสนุนเกมรุกทั้งคู่
ถามว่า พอไหมกับการใช้กองกลางตัวรับเพียงแค่คนเดียว คำตอบคือ 'พอ' สำหรับระบบการเล่นปราการหลัง 3 คน 
ด้วยการวางแท็กติกให้ กองหลัง วิงแบ็ก แดนกลาง ยืนตำแหน่งกันแบบนี้ ทำให้สองแนวรุกที่เกมนี้เลือก ราฮีม สเตอร์ลิง กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด มีอิสระในการเล่นอย่างเต็มที่ ทุกคนพร้อมทำเกมรุกหรือรอโต้กลับอย่างเดียว ไม่ต้องลงมาช่วยเกมรับ เหมือนแท็กติกก่อนหน้านี้

แรชฟอร์ด น่าจะเรียกจุดโทษได้ในครึ่งหลัง

ทีนี้มาดูคะแนนความสามารถในเกมที่ อัมสเตอร์ดัม อารีน่า กันหน่อย ว่าใครได้คะแนนเท่าไหร่กันบ้าง จากการให้คะแนนของสื่ออังกฤษเจ้าดัง เดลี่ เมล
ผู้รักษาประตู จอร์แดน พิคฟอร์ด ได้ไป 6 คะแนน เหตุผลคือ ฮอลแลนด์ แทบไม่ได้มีจังหวะยิงสวยๆ ให้ต้องออกแรงเซฟเลย แต่สิ่งที่แสดงออกอย่างเห็นได้ชัดของนายประตู เอฟเวอร์ตัน คือความมั่นใจและการสั่งการแนวรับได้เป็นอย่างดี

พิคฟอร์ด ลงเฝ้าเสาด้วยความมั่นใจสุดๆ

กองหลัง จอห์น สโตนส์ กลายเป็นหัวใจสำคัญของชุดนี้ สั่งการเกม ยืนตำแหน่ง และบล็อคลูกยิงคู่แข่งได้ตลอด จึงได้ไป 7 คะแนน ไคล์ วอล์คเกอร์ ก็ทำได้ตามแผนกับบทบาทใหม่ ได้ไป 6.5 คะแนน ส่วน โจ โกเมซ น่าเสียดายที่เจ็บตั้งแต่ต้นเกม ได้ไป 5 คะแนน และคนที่ลงมาแทน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ยังมีจุดผิดพลาดให้เห็นเล็กน้อย ได้ไป 6 คะแนน
วิงแบ็กสองฝั่งเติมเกมรุกได้ตลอดเวลาทั้ง ทริปเปียร์ และ โรส ได้ 6.5 คะแนนเท่ากัน

ซ้ายผ่านตลอด โรส เติมกระจาย เปิดกระจาย

แดนกลาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ปักหลักบัญชาเกมแดนกลางได้อย่างเนียนตา ได้ไป 6.5 คะแนน และทีเด็ดของแท็กติกนี้อยู่ที่ตัวละครลับอย่าง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน กับ เจสซี่ ลินการ์ด ที่ดูเหมือนจะคุมเกมกับ เฮนโด้ ธรรมดาๆ แต่ที่ไหนได้ ทั้งคู่ลากเลื้อยทำเกมรุกไม่หยุดหย่อยอยู่ตลอดเวลา อ็อกซ์เลด จึงได้ไป 7 คะแนน และ ลินการ์ด ผู้ซัลโวประตูชัย 7.5 คะแนน

ลินการ์ด ซัลโวประตูชัย ซึ่งเป็นลูกแรกในนามทีมชาติ

สุดท้ายคือแนวรุก ราฮีม สเตอร์ลิง รับ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ 8 คะแนน สำหรับบทบาทหน้าต่ำ ที่เอาเข้าจริงแล้ว สลับตำแหน่งกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด อยู่ตลอดเวลา และสามารถโยกไปเล่นได้ทุกตำแหน่งในเกมรุก จนทำให้คู่แข่งยากที่จะตามประกบ ส่วน แรชฟอร์ด ได้ไป 7 คะแนน

สเตอร์ลิง ตัวอันตรายที่พร้อมเจาะทะลวงใจกลางแนวรับคู่แข่ง

แม้ เซาธ์เกต สอบผ่านทั้งผลการแข่งขัน ระบบการเล่น และแท็กติก แต่นี่เป็นเพียงเกมอุ่นเครื่องเท่านั้น ต้องรอดูว่าพอถึง ฟุตบอลโลก ที่ รัสเซีย แล้ว กุนซือผู้อ่อนประสบการณ์จะยังยึดระบบการเล่นแบบนี้หรือไม่
แต่ก่อนอื่น เซาธ์เกต จะเจอบททดสอบที่ดีในเกมอุ่นเครื่องอีกนัดกับ อิตาลี วันอังคารนี้ สิงโตคำราม จะมาไม้ไหน เพราะเจอ อัซซูรี่ ทีไร มีอันต้องแพ้แทบทุกที

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด