:::     :::

เบอร์ 9 ของ ดาร์วิน นูนเญซ กับการพิสูจน์ตัวเองที่ต้องจับตามอง

วันอังคารที่ 18 กรกฎาคม 2566 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
716
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
แม้ว่า ดาร์วิน นูนเญซ จะถูกมองว่าล้มเหลวในฤดูกาลแรกบนสีเสื้อของ ลิเวอร์พูล แต่หากให้ความเป็นธรรมกับเขาอีกสักหน่อย จะพบว่าตัวเลข 15 ประตู 4 แอสซิสต์จาก 42 นัดในทุกรายการก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น

หากเรามองสถิติจากตอนเขาเล่นกับ เบนฟิก้า จะเห็นภาพในอีกมุมมองชัดเจนขึ้นนะครับ ว่าดาวเตะรายนี้เป็นประเภทที่ต้องใช้เวลาในการปรับตัวกับทีมใหม่พอสมควรเลย อย่างช่วงที่อยู่กับเหยี่ยวลิสบอนปีแรกเขาเป็นแค่สำรองของ แฮริส เซฟาโนวิช และตัวเขาก็ยังถูกขยับถอยไปเล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวต่ำกับสลับไปยืนปีกซ้าย เหมือนที่ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลที่ผ่านมาเลยล่ะ


นูนเญซ ตอนอยู่ เบนฟิก้า เคยมีช่วงเวลาตีนบอดยิงประตูไม่ได้นานถึง 4 เดือนด้วย ก่อนจะมาเร่งเครื่องในช่วงท้ายฤดูกาลและจบปีแรกด้วยยอดรวม 14 ประตูจาก 44 นัด ยิงได้น้อยกว่าอยู่ ลิเวอร์พูล ฤดูกาลที่แล้วอีกต่างหาก แต่มาระเบิดฟอร์มยิงได้ 34 ประตู ในฤดูกาลที่สอง โดยที่ 2 จาก 34 ลูกคือการยิง ลิเวอร์พูล ได้ทั้งเหย้าและเยือน จนเข้าตา คล็อปป์ และทุ่มเงินซื้อตัวมาร่วมทีมในที่สุด


กับ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลก่อน นูนเญซ มีฟอร์มที่ค่อนข้างดีในช่วงท้าย ๆ ฤดูกาล โดยเฉพาะตั้งแต่วันที่ 18 กุมพาพันธ์เป็นต้นมา เขาทำประตูให้ทีมได้ 4 ลูกจาก 13 นัด โดยเป็นการยิง นิวคาสเซิ่ล กับ เรอัล มาดริด ได้สองนัดติดต่อกัน และยังเหมาอีกสองในเกมชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 7-0 ก่อนจะมาปิดจ็อบลูกสุดท้ายในฤดูกาลวันที่ชนะ ลีดส์ ไป 6-1 จากการลงเล่นเป็นตัวสำรอง ซึ่งช่วงนั้นเขาเล่นตัวรุกด้านซ้ายด้วยซ้ำ




เขากลับมายืนเป็นกองหน้าตัวกลางอีกครั้งใน 2 นัดสุดท้าย ซึ่งในช่วงนั้น คล็อปป์ เองก็เริ่มผุดไอเดียในการใช้ระบบใหม่ ๆ และทดลองอะไรหลายอย่างทั้งการนำ เทรนต์ มาเล่นกลาง หรือลองสลับดีเทลของเกมรุกหลายรูปแบบ จนสื่อเมืองนอกวิเคราะห์ว่ามีความเป็นไปได้ว่าในฤดูกาลใหม่นี้ นูนเญซ อาจจะกลับมายึดตำแหน่งกองหน้าตัวกลางเต็มตัว ส่วน กัคโป อาจถอนมายืนกลางรุกหรือไม่ก็ขยับไปยืนด้านซ้ายก็เป็นไปได้หลายออปชั่น 


ยิ่งมีตัวเลือกในแดนกลางใหม่ ๆ อย่าง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กับ โดมินิค โซบอสไล ที่จะเข้ามาช่วยให้แดนกลางมีมิติมากขึ้นไปอีก น่าจะทำให้ นูนเญซ มีผลงานที่ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะจุดเด่นของ นูนเญซ คือการวิ่งเอาชนะไลน์แนวรับ มีการอ่านเกมที่ดี วิ่งฉีกตัวประกบหรือทะลุผ่านกับดักล้ำหน้าเก่ง บวกกับ กฏใหม่ในเรื่องล้ำหน้าที่ค่อนข้างเอื้อประโยชน์ให้ตัวรุกด้วยแล้ว มีโอกาสในการที่จะทำประตูได้เยอะกว่าเดิมค่อนข้างสูง


ขณะที่ โซบอสไล เองก็มีตัวเลขในการจ่ายบอลสำเร็จสูงเป็นอันดับ 3 และมีคีย์พาสสูงเป็นอันดับ 4 จากกองกลางในบุนเดสลีกาฤดูกาลที่แล้วทั้งหมด เขาสร้างโอกาสได้ถึง 77 ครั้ง และจ่ายบอลในกรอบเขตโทษสำเร็จอีก 177 ครั้ง เมื่อเทียบกับกองกลางของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลที่แล้ว โซบอสไล ทำในจุดนี้ได้มากที่สุด ซึ่งอาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่อาจช่วยให้ นูนเญซ มีโอกาสจบสกอร์มากขึ้นก็เป็นได้


ในปีนี้ นูนเญซ เปลี่ยนหมายเลขเสื้อจากเบอร์ 27 มาเป็นเบอร์ 9 ซึ่งเป็นเบอร์ของกองหน้าตัวเป้าและมีตำนานหลายคนใส่มาก่อนทั้ง เอียน รัช, ร็อบบี้ ฟาวเลอร์, เฟร์นานโด ตอร์เรส และ บ๊อบบี้ ฟีร์มิโน่ โดยเขากล่าวว่า


"ผมมีความสุขและภาคภูมิใจมากที่ได้เสื้อเบอร์นี้ ผมรู้ว่าคนก่อนหน้านี้ที่ใส่มาก่อนผมล้วนแล้วแต่ทำได้ดีมาก ๆ ทั้งนั้น ตอนนี้ถึงตาผมบ้างแล้วที่จะสวมมัน  และหวังว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี"


"ผมหวังว่าจะทำได้ดีเหมือนตำนานอื่น ๆ และหวังว่าจะได้สวมเสื้อเบอร์นี้ไปอีกหลายปี รวมถึงนำความสุขมาให้แก่แฟน ๆ ได้มากขึ้นด้วย"


แน่นอนว่าเสื้อเบอร์นี้มันหนักอึ้ง มีความคาดหวังจากแฟนบอลและสื่อก็พร้อมถล่มเขาได้ทุกเมื่อ แต่อย่าลืมว่าในปีที่ผ่านมาเขาก็แบกรับเรื่องพวกนี้มาตลอด ทั้งในเรื่องค่าตัวและฟอร์มการเล่น แต่เขาก็แสดงให้เห็นว่ามีหัวใจที่แข็งแกร่ง หนักแน่นมากพอที่จะผ่านมันไปได้


ลิเวอร์พูล 2023-24 มีหลายสิ่งเปลี่ยนไป เป็นการถ่ายเลือดครั้งใหญ่อีกครั้งของทีม ซึ่งบางทีอาจเป็นปีที่ ดาร์วิน นูนเญซ เติบโตและก้าวผ่านจากดาวรุ่งไปเป็นแข้งระดับท็อปเต็มตัว เหมือนที่เคยทำสำเร็จมาแล้วเมื่อตอนอยู่กับ เบนฟิก้า ก็เป็นได้



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด