มันคือวันที่แสนสุขของประชาชนชาวสเปนทุกคน ยิ่งในฐานะหัวเรือใหญ่อย่างประธานสหพันธ์ฯด้วยแล้ว นี่คือผลงานชิ้นโบว์แดงเลยทีเดียวทว่า หลุยส์ รูเบียเลส กลับทำให้มันมัวหมอง  

จะด้วยอารามดีใจแค่ไหน มันก็มีวิธีการแสดงออกที่เหมาะสม การขาดสติยั้งคิดก็นำมาซึ่งช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต ทั้งๆที่ทั่วประเทศกำลังอยู่ในห้วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง 

หลุยส์ รูเบียเลส ทำตัวเองให้ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากอย่างน่าเขกกระโหลก เมื่อจู่ๆเขาก็ดึงศรีษะของ เยนนี่ เอร์โมโซ่ มิดฟิลด์ตัวเก่งของทีมเข้ามาประกบริมฝีปาก หลังจากมอบเหรียญแชมป์โลกให้กับนักเตะสาว 

ชั่วเวลาเพียงไม่กี่วินาที แต่ชอตนั้นกลายเป็นกระแสสังคมในชั่วข้ามคืน ไม่เฉพาะแค่ที่สเปนเท่านั้น แต่ทั่วทั้งโลกก็กำลังตั้งคำถามกับ รูเบียเลส ถึงความเหมาะสม 

เราคนไทย เราไม่มีวัฒนธรรมนี้อยู่แล้ว ส่วนคนสเปนวัฒนธรรมการจูบ หากไม่ใช่คู่รัก คนในครอบครัว หรือเพื่อนสนิทจริงๆ ส่วนใหญ่ก็จะประทับรอยจูบกันที่แก้มทั้งสองข้างเท่านั้น 

มีบ้างที่ใช้ริมฝีปากแตะกัน แต่ถึงจะเป็นชาติตะวันตก คนสเปนก็จะมีลิมิตของตัวเองอยู่ ข้อยกเว้นที่อย่างว่าไว้ข้างต้นนั่นแหละครับ

ถึงอย่างนั้น การจุมพิตในที่สาธารณะเช่นนี้ ด้วยฐานะหน้าที่การงาน ในพิธีการสำคัญอย่างการมอบเหรียญรางวัลและถ้วยแชมป์โลกซึ่งมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกนั้น จะอย่างไร การจุมพิตที่ริมฝีปากของนักเตะหญิง คนสเปนส่วนใหญ่ก็มองว่าเป็นการกระทำที่ไม่ควรอย่างยิ่ง 

กับเหตุการณ์นี้ รูเบียเลส ได้ออกมาขอโทษต่อสาธารณชนแล้วโดยยอมรับว่าเขาได้ทำผิดพลาดไป 

“มีการกระทำที่ผมรู้สึกเสียใจ คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับนักเตะหญิง ด้วยความสัมพันธ์ที่งดงามของเราทั้งคู่ รวมถึงนักเตะคนอื่นๆด้วย ซึ่งแน่นอนว่าผมได้ทำผิดไป ผมต้องยอมรับเพราะว่ามันเป็นช่วงเวลาแห่งความพลุ่งพล่านโดยที่ไม่มีเจตนาร้าย ปราศจากความตั้งใจที่ไม่ดี มันเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ” 

อย่างไรก็ตาม คำขอโทษและการยอมรับผิด ของ รูเบียเลส ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น สังคมสเปนยังคงกดดันเขา เห็นควรว่าต้องลาออกจากตำแหน่ง

มิเกล กาลัน ประธานศูนย์อบรมโค้ชฟุตบอลแห่งชาติสเปน (CENAFE) เป็นคนแรกๆที่ออกมาเคลื่อนไหวอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการบอกว่าคำขอโทษของ รูเบียเลส นั้นไม่เพียงพอ สำหรับเขาแล้วนี่คือการล่วงละเมิดทางเพศอย่างเต็มตัว 

กาลัน ตัดสินใจยื่นฟ้องต่อศาลกีฬา (CSD) และมีความตั้งใจที่จะยื่นฟ้องไปถึงศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา (TAD) 

จุมพิตของ รูเบียเลส ไม่ได้สร้างความไม่พอใจให้กับคนในวงการฟุตบอลเท่านั้น หากคณะรัฐบาลสเปนเองก็ไม่เแฮปปี้เอามากๆ มิเกล อีเซต้า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและกีฬาก็มอง รูเบียเลส กระทำการไม่สมควร และต้องออกมาอธิบาย 

รวมถึง เปโดร ซานเชซ หัวหน้าคณะรัฐบาลก็ออกแถลงการณ์ว่า “คำขอโทษของ รูเบียเลส นั้นไม่เพียงพอ” 

“ผมคิดว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ คำขอโทษของ รูเบียเลส นั้นไม่เพียงพอ คุณต้องดำเนินการต่อไปเพื่อชี้แจงให้เราเห็น” 

ประเด็นดราม่านี้ยังคงไม่จบง่ายๆ และลุกลามขึ้น เมื่อมีการรายงานจากสื่อดัง Revelo ว่า รูเบียเลส ได้ขอร้องให้ เจนนี่ เอร์โมโซ่ ออกมาปกป้องเขาด้วยการออกแถลงการณ์ร่วมกัน ทว่าตัวมิดฟิลด์สาวตอบปฏิเสธ ข่าวดังกล่าวทำให้มั่นใจได้ว่าแถลงการณ์ที่ออกโดย สหพันธ์ฯ ในช่วงบ่ายวันอาทิตย์หลังจากคว้าแชมป์โลก ที่อ้างว่ามาจากคำพูดของ เยนนี่ เอร์โมโซ่ นั้น ไม่น่าจะเป็นความจริง 

ข้อความดังกล่าวที่เผยแพร่จากสหพันธ์ฯ มีใจความว่า “มันเป็นการแสดงท่าทางร่วมกันโดยธรรมชาติ เนื่องจากความยินดีอันยิ่งใหญ่ที่การคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกนำมาซึ่งประธานและฉัน เรามีความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยม พฤติกรรมของเขากับพวกเราทุกคนยอดเยี่ยมที่สุด” 

“เป็นการแสดงความรักและความซาบซึ้งโดยธรรมชาติ คุณไม่สามารถมองข้ามท่าทางแห่งมิตรภาพและความซาบซึ้งได้ เราได้แชมป์ฟุตบอลโลก และเราจะไม่เบี่ยงเบนไปจากสิ่งสำคัญ”

        ข้อความนี้ยังเป็นที่สงสัยว่าเป็นของ เยนนี่ เอร์โมโซ่ จริงหรือไม่ เพราะในตอนแรกที่เธอโดน รูเบียเบส จูบ เธอได้พูดออกมาเองในช่วงไลฟ์สดภายในห้องแต่งตัวว่า "NO ME HA GUSTADO" ซึ่งแปลว่า "ฉันไม่ชอบมันเลย" 

ณ เวลานี้ รูเบียเลส ถึงแม้ว่าจะโดนกดดันหนัก เรียกร้องให้ลาออก แต่เจ้าตัวก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะทำเช่นนั้น เขายังคงนิ่งกับสถานการณ์อยู่ กระนั้นเราต้องตามกันต่อว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร 

กับกระแสเรียกร้องให้ เยนนี่ ออกมาชี้แจ้งเพื่อให้ทุกอย่างกระจ่างชัด ส่วนตัวมองว่าเป็นสิทธิ์ของเธอ เราไม่สามารถบีบบังคับได้ 

หากสมัครใจก็น่าจะเป็นเรื่องดีที่ทุกอย่างจะคลี่คลายลงไม่ทางใดก็ทางนึง แต่หากเจ้าตัวไม่สะดวกใจก็คงต้องปล่อยไป และให้ รูเบียเลส เผชิญกับสิ่งที่ตัวเองก่อไว้ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ดี แต่สังคมแต่ละสังคมก็มีบรรทัดฐานของตัวเอง รวมถึงมีกฏหมาย ที่เป็นข้อบังคับ ควบคุมความประพฤติของบุคคลในสังคม 

หากทำผิด ก็ต้องรับโทษตามที่กำหนดไว้ แต่กว่าที่เรื่องจะเดินไปถึงกระบวนการยุติธรรม แฟนๆสเปนคงเซ็งกันไม่น้อย เพราะวันที่แสนสุขของคนทั้งประเทศที่ทีมหญิงสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์โลกได้เหมือนทีมชาย แต่กลับกลายเป็นประเด็นดราม่าเพียงเพราะความไม่ยั้งคิดของคนที่ได้ชื่อว่าประธานสหพันธ์ฟุตบอลของตัวเอง

เจมส์ ลา ลีกา