สกอร์ 3-1 ในตอนจบนับว่าหักมุมอยู่ไม่น้อยเพราะก่อนหน้าไม่กี่นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะ 2-1 กลับออกไปอยู่แล้ว 

อเลฮานโดร การ์นาโช่ ดาวรุ่งตัวสำรองผีแดงได้หลุดเดี่ยวล่อเป้า อาร่อน แรมส์เดล แต่วีเออาร์ชี้ว่า "ล้าหน้า" ก่อนที่ช่วงทดเจ็บเป็นปืนใหญ่พลิกยิง 2 ประตูจาก เดแคลน ไรซ์ ซัดแฉลบ และ กาเบรียล เชซุส โชว์ปิดท้ายทำให้เป็นฝ่ายเก็บชัยชนะได้อย่างดราม่าสุดๆ 

นี่คืออีกความ "คลาสสิก" ในการเจอกันของสองคู่ปรับสำคัญที่เคยยิ่งใหญ่สุดในยุค เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และ อาร์แซน เวนเกอร์

เจอกันที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในช่วงหลัง อาร์เซน่อล ทำได้ดีกว่าชนะ 4 นัด และเสมอ 1 นัดจาก 5 นัดหลังสุด และครั้งนี้ก็เป็นฝ่ายคอนโทรลเกมได้ตั้งแต่แรกเริ่ม ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด วางแท็กติกเน้นรัดกุมในแดนตัวเอง และหวังผลจากโอกาสโต้กลับเร็ว 

มิเกล อาร์เตต้า คาดเอาไว้อยู่แล้วว่ารูปเกมจะออกมาประมาณนี้ ขณะที่ เอริค เทน ฮาก ก็ต้องเลือกแท็กติกรับรอโต้เนื่องด้วยสภาพทีมไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์

อาร์เตต้า ปรับ 2 ตำแหน่งจากนัดเสมอ ฟูแล่ม สัปดาห์ก่อนด้วยการกลับมาใช้งานแบ็กโฟร์ชุดเก่งจากฤดูกาลที่แล้วอีกครั้งหลัง โธมัส ปาร์เตย์ ที่ถูกถอยมาเป็นแบ็กขวาบาดเจ็บขาหนีบต้องพักสักระยะ ขณะที่หน้าเป้า เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ทวงตัวจริงคืนได้

ส่วน เทน ฮาก มีปัญหาสำคัญในเกมรับเมื่อ ราฟาแอล วาราน เจ็บเพิ่มสมทบ ลุค ชอว์ ไปอีกราย วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ จึงได้ลงยืนเซนเตอร์ร่วมกับ ลิซานโดร มาร์ตีเนซ และให้ ดิโอโก้ ดาโลต์ เป็นแบ็กซ้ายอีกนักแม้เพิ่งดึง เซร์คิโอ เรกีลอน มาจาก สเปอร์ส

อาร์เซน่อล ได้ต่อบอลบุกเข้าใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างต่อเนื่อง เกมฝั่งซ้ายของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ บุกตะลุยได้ลุ้นหลายครั้ง และน่าจะนำก่อนตอนเปิดไปโดนกองหลังสกัดเข้าทาง ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้ส้มหล่นหน้าประตู ทว่าอดีตแข้ง เชลซี กลับซัดวืดโดนไม่เต็มทิ้งโอกาสทองไปแบบไม่น่าเชื่อ

และก็เป็นอย่างที่หลายคนคาดเมื่อเป็นทีมเยือนจากแมนเชสเตอร์ที่ขึ้นนำก่อนกับแผนการเล่นที่ได้ผล นั่นคือชิงจังหวะตัดบอลแล้วโต้กลับจบด้วยการยิงประตู

ฮาแวร์ตซ์ พลาดอีกครั้งจ่ายขวางหน้าเขตโทษไม่ละเอียดทำให้ คริสเตียน เอริคเซ่น ที่จ้องอยู่แล้วพุ่งเข้าตัดได้ก่อนพาบอลลุยแล้วแทงขึ้นหน้าเข้าช่องให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่โยกเข้าในหนี เบน ไวท์ กับ วิลเลี่ยม ซาลีบา ก่อนซัดติดปลายนิ้ว แรมส์เดล ชนเสาไกลเข้าประตูไป

อาร์เซน่อล เสียประตูในแบบเดิมๆ อีกครั้งจากสถานการณ์ที่บุกมากกว่า สร้างโอกาสได้ดีกว่า แต่พอโดนโต้ทีเดียวก็เสียประตูทันที และทำให้การลงเล่นในบ้านตลอด 3 นัดแรกฤดูกาลนี้ไม่สามารถเก็บคลีนชีตได้  

อย่างไรก็ตาม ทีมปืนใหญ่เอาคืนได้เร็วในอีกนาทีเศษจากการต่อบอลฝั่งซ้ายได้ยอดเยี่ยมก่อนเป็น มาร์ติเนลลี่ ไหลให้กัปตัน โอเดการ์ด บรรจงซัดเสียบเสาเด็ดขาด

ในครึ่งหลัง ทั้งสองทีมมีโอกาสได้จุดโทษทั้ง ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่เกือบแก้ตัวได้จากจังหวะปะทะกับ วาน-บิสซาก้า แต่ผู้ตัดสิน แอนโธนี่ เทย์เลอร์ เปลี่ยนใจหลังเช็กจอวีเออาร์ด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับโอกาสของทีมเยือนที่ ราสมุส ฮอยลุนด์ กองหน้าตัวใหม่เบียดกับ กาเบรียล มากัลเญส ในเขตโทษ 

การ์นาโช่ ถูกจับล้ำหน้า

ช่วงบีบหัวใจเริ่มต้นในนาที 88 ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดบอลในแดนตัวเองได้อีกครั้งและโต้กลับทันที การ์นาโช่ หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงตุงตาข่าย ทว่า วีเออาร์ ตีเส้น "ล้ำหน้า"

จังหวะนี้แฟนบอลเจ้าถิ่นต้องชม กาเบรียล มากัลเญส ที่โก่งตัวกลับหลังทำให้กลายเป็นว่าดาวรุ่งผีแดงอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้านิดเดียว

พอรอดตัวจากการเสียประตู อาร์เซน่อล เหมือนได้ใจและมีเวลามากพอในการทำประตูช่วงทดเจ็บที่มากถึง 8 นาที 

ตลอด 90 นาที เกมรับผีแดงปิดโอกาสของปืนใหญ่ได้หลายครั้ง แต่บทจะพลาดก็พลาดง่ายดายมากในการป้องกันลูกเตะมุม

บูคาโย่ ซาก้า เปิดโด่งถึงเสาไกลให้ เดแคลน ไรซ์ มีเวลาทั้งพักอกเอาบอลลงและรอบอลตกได้จังหวะก่อนยิงไปแฉลบ จอนนี่ อีแวนส์ และผ่านมือ โอนาน่า เข้าไป

กอหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดเสาแรกไว้มากเกินไป แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ ดิโอโก้ ดาโลต์ รวมถึง โอนาน่า แทบจะยืนแถวตอนเดียวกัน ไม่มีใครขยับออกขวามือตัวเองเพื่อปิดช่อง ขณะที่ อีแวนส์ ก็ยื้อยุดฉุดกระชากอยู่กับ มากัลเญส

เทน ฮาก โวยว่าจังหวะนี้ อีแวนส์ ถูกทำฟาวล์ก่อน แต่ลึกๆ ก็รู้ดีว่าลูกทีมตัวเองควรยืนตำแหน่งในเกมรับให้ดีกว่านี้ 

เป็นช่วงเวลาที่โชคร้ายสำหรับผีแดงด้วยเพราะนอกจากสองตัวหลักในเกมรับที่เจ็บไปก่อนแล้ว ในระหว่างเกมก็ต้องมาเสีย ลิซานโดร มาร์ตีเนซ และ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ไปเพิ่มอีก 

เกมรับผีแดงพลาดในช่วงทดเจ็บ

ท้ายที่สุดตอนจบเกม คู่เซนเตอร์กลายเป็นคู่ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้เห็นนั่นคือ แม็กไกวร์ กับ อีแวนส์ ซึ่งรายหลังแทบจะเรียกว่าหมดสภาพไปแล้วและเพิ่งได้สัญญาระยะสั้นในวันสุดท้ายของตลาดซัมเมอร์

แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามบุกเข้าใส่เพื่อเอาประตูคืน แต่กลายเป็นโดน อาร์เซน่อล เล่นงานในแท็กติกที่ผีแดงเล่นมาตลอดกับการโต้กลับซึ่งตัวสำรองของปืนใหญ่ประสานงานกันได้ดีมาก ฟาบิโอ วิเอร่า จ่ายบอลได้สุดยอดให้ กาเบรียล เชซุส หลุดเดี่ยวก่อนล็อกหนี ดาโลต์ แล้วเลือกมุมยิงอย่างเหนือชั้น

เป็นช่วงเวลา 13 นาทีนับจาก การ์นาโช่ ส่งบอลตุงตาข่ายจนถึงประตูปิดท้ายของ เชซุส ที่พลิกผันอย่างมาก แมนฯ ยูไนเต็ด มือเปล่ากลับบ้านอีกครั้ง ขณะที่ อาร์เซน่อล ได้เฮสุดเหวี่ยงทั้งนักเตะ สตาฟฟ์ และแน่นอนแฟนบอลทั้งในสนามและทั่วโลก

มีหลายเหตุการณ์ที่ เทน ฮาก คาใจกับการตัดสิน แต่สำหรับ อาร์เตต้า บอกว่า อาร์เซน่อล คู่ควรกับการเป็นผู้ชนะแล้วเพราะลุยเข้าใส่ต่อเนื่องจนสิ้นเสียงนกหวีดยาว มีความกระหายเต็มเปี่ยมที่จะเอาชนะให้ได้และก็ทำได้ในที่สุด

อาร์เซน่อล พลาดท่าปล่อยให้ ฟูแล่ม ตามตีเสมอในนัดก่อนทั้งที่ตัวผู้มากกว่าและน่าจะควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ แต่ชัยชนะเหนือผีแดงคือการแก้ตัวเพื่อแฟนบอลได้สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่ มิเกล อาร์เตต้า และลูกทีมจะทำได้

นี่ไม่ใช่เกมที่ดีสุดของ อาร์เซน่อล ซึ่งแม้ครองเกมได้มากกว่า แต่ก็มีจังหวะโดนตัดบอลง่ายและเสียประตูอีกครั้ง ขณะที่เกมรุกก็ควรต้องเด็ดขาดกว่านี้โดยเฉพาะโอกาสของ ฮาแวร์ตซ์ ในครึ่งแรก และ ซาก้า ในครึ่งหลัง

อาร์เตต้า พาทีมกลับมาชนะก่อนเบรกทีมชาติ

แต่สำคัญสุดคือ ยังคงเอาชนะได้และเป็นการชนะทีมใหญ่ด้วยกันซึ่งทำให้เกิดพลังบวกและความเชื่อมั่นอย่างมาก แถมเป็นการชนะก่อนเบรกเข้าสู่ทีมชาติอีกด้วย 

แชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ 4 นัดรวดไปแล้ว หาก อาร์เซน่อล ได้แค่เสมอจะทำให้ช่องว่างอยู่ที่ 4 คะแนนซึ่งถือว่าไม่น้อยกับช่วงต้นฤดูกาลแบบนี้ ดังนั้นการที่สามารถเกาะตามหลังแค่ 2 คะแนนได้เป็นสิ่งที่ดีมาก และทำให้บรรยากาศตลอดสองสัปดาห์ต่อจากนี้ยังคงมีชีวิตชีวา 

ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มีเรื่องให้ต้องปวดหัวเพียบทั้งผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่ม ผลงานในการมาเยือนลอนดอนที่ในยุค เทน ฮาก ชนะได้แค่นัดเดียว รวมไปถึงประเด็นร้อนล่าสุดของ เจดอน ซานโช่ ที่หลายคนกำลังจับตาว่าจะลงเอยแบบ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หรือไม่