แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ในวันที่ไม่มีใครต้องการ
ในแถลงการณ์ของสโมสรมีถ้อยคำเพียง 29 คำเท่านั้น ถือเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเมื่อมองว่าเขาเป็นกำลังหลักของทีมตลอดฤดูกาลที่แล้ว
ชไมเคิ่ล ลงเล่น 46 เกมทุกรายการ 2022/23 แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูกาลนี้การมาของ ฟรานเชสโก้ ฟาริโอลี่ เทรนเนอร์คนใหม่ที่ดึง มาร์ซิน บุลก้า มาจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง และมอบตำแหน่งมือหนึ่งให้
สุดท้ายทั้งสองฝั่งแยกทางกันไปด้วยความยินพร้อมพร้อมใจ
กับความยอดเยี่ยมเมื่อครั้งค้าแข้งกับ เลสเตอร์ ซิตี้ นาน 11 ปี กับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อย่างแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในปี 2015/16 และ เอฟเอ คัพ ในปี 2020/21, ชไมเคิ่ล ยังถูก "สุนัขจิ้งจอก" ปล่อยออกจากทีมในปี 2022 ทั้งที่ยังมีสัญญาอีก 1 ปี
ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการตัดสินใจจากธุรกิจเมื่อ ชไมเคิ่ล รับค่าเหนื่อยระดับ 130,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของสโมสรเป็นรองแค่ เจมี่ วาร์ดี้ คนเดียว
อย่างไรก็ตามทาง เดอะ ซัน เผยว่าผู้รักษาประตูคนดังไม่ได้นับความนิยมในสโมสรและทำให้เขารู้สึกว่าควรจะออกจากทีม โดยรับเงินเพียง 1 ล้านปอนด์จาก นีซ
"ผมมาที่ เลสเตอร์ ตอนนี้เป็นเด็กหนุ่มที่ต้องการบ้าน, ผมต้องการความรักบ้าง, ผมเคยไปหลายสโมสรและผมต้องการที่ไหนสักแห่งที่ผมเรียกว่าบ้าน" ชไมเคิ่ล กล่าว
"ที่นี่เป็นมากกว่าสโมสรสำหรับผม มันคือสถานที่ที่ผมได้รู้จักกับเพื่อนและความทรงจำตลอดชีวิต - มันคือบ้านของผม ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนที่ไม่เคยเปลี่ยน - พวกคุณทำให้สโมสรแห่งนี้พิเศษมาก"
"นี่ไม่ใช่การบอกลา, มันคือการบอกลา, แล้วเจอกัน ผมมั่นใจว่าเราจะได้เจอกันอีกครั้ง แต่อีกครั้งนะ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ทุกคนทำให้กับผม"
ไม่เพียงแค่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะเสียผู้รักษาประตูระดับท็อปไปของพรีเมียร์ลีกไป แต่เขายยังเสียแข้งมากประสบการณ์ในห้องแต่งตัวซึ่งขาดความเป็นผู้นำอีกด้วย"
แดนนี่ วอร์ด ขึ้นมารับตำแหน่งมือหนึ่งในขณะที่เจอกับอาการบาดเจ็บรบกวน, จอนนี่ อีแวนส์ ก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีมและสุดท้ายทีมลงเอยด้วยการตกชั้น
ในขณะที่ เลสเตอร์ ผลงานย่ำแย่ทางฝั่งของ ชไมเคิ่ล ก็เริ่มมีสัญญาณที่ไม่ดีเท่าไร เนื่องจากน้ำหนักตัวที่มากขึ้นและเริ่มมีเสียงวิจารณ์ตามมา
ที่แย่กว่านั้นคือ ชไมเคิ่ล ทำตัวมีปัญหาที่ทำให้เพื่อนร่วมทีมใหม่ไม่พอใจทั้งละเมิดกฎของสโมสร, มาประชุมทีมสาย และทำลายผู้จัดการทีมอย่าง ลูเซียง ฟาฟร์
แม้ว่าจะลงเล่นในลีกถึง 36 เกม แต่ในบอลยุโรปอย่าง ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก เขาเป็นสำรอง 3 เกม - ในเดือนตุลาคม เข้าเริ่มโดนแฟนบอลตัวเองโห่ใส่ และรายงานว่าอาจจะโดนปล่อยตัวในเดือนมกราคม เนื่องจาก "ทัศนคติ" ที่ไม่ดี
ชไมเคิ่ล อาจจะได้ลงเล่นมากมาย แต่เขาก็ล้มเหลวในการเอาชนะใจบอร์ดบริหารและแฟนบอล ทำให้ตลอดช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมามีข่าวย้ายทีมต่อเนื่องแม้จะเหลือสัญญา 2 ปี ก็ตาม
ถึงจะมีข่าวกับหลายสโมสรทั้ง เชลซี, บาเยิร์น มิวนิค และ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครติดต่อเข้ามา กระทั่งสโมสรยอมตัดใจยกเลิกสัญญาไป
"นีซ และ เค.ชไมเคิ่ล ตัดสินใจด้วยความยินยอมพร้อมใจทั้งสองฝ่ายที่จะยกเลิกสัญญากับแข้งทีมชาติเดนมาร์ก, สโมสรขออวยพรให้เขาโชคดีกับเส้นทางอาชีพที่เหลือ" นีซ แถลง
มีข่าวลือเรื่องกลับไปร่วมงานกับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส อีกครั้งที่ เซลติก แต่หากมันไม่เกิดขึ้นอาชีพของ ชไมเคิ่ล ก็อยู่ในความเสี่ยงที่จะจบลงอย่างน่าเศร้าในฐานะแช้งไร้สังกัดที่ไม่มีใครต้องการ
มีคำถามมากมายเกี่ยวกับเรื่องแคแร็กเตอร์, แนวคิด และ สภาพร่างกาย แม้ว่าเมื่อสองปีที่แล้วจะเพิ่งชูภ้วยแชมป์เอฟเอ คัพร่วมกับ เลสเตอร์ ซิตี้ อย่างยิ่งใหญ่
อีกสองเดือน ชไมเคิ่ล จะอายุ 37 ปี เต็ม บางทีถึงตอนนั้นเจ้าตัวอาจจะไม่ได้เป็นนักเตะอาชีพแล้วก็ได้