เพราะ “เจ” คือกำลังสำคัญในหมากของ มาโน โพลกิง กับบทบาทมิดฟิลด์หมายเลข 10 ที่คอยสร้างสรรค์เกมหลังกองหน้า

แต่อย่างที่เคยบอกไว้หลังครั้ง เราไม่สามารถคาดเดา “อุบัติเหตุลูกหนัง” ล่วงหน้าได้ เมื่อมันเกิดขึ้น ก็ต้องหาทางแก้ไข

ซึ่งการเจ็บของ เจ มาพร้อมความน่าสนใจ

เมื่อ มาโน ไม่ลังเลใจที่จะเลือก เบน เดวิส มาทดแทนโดยทันที

คงไม่แปลกเพราะ เบน เป็นผู้เล่นที่ทำผลงานได้ดี หลังย้ายมาสวมยูนิฟอร์ม ชลบุรี เอฟซี ในฤดูกาลนี้ เขากลายเป็นตัวหลักในแผงแนวรุกยุคปัจจุบันของฉลามชลไปแล้ว ทั้งฟอร์มการเล่นส่วนตัว ความมั่นใจ การจะหนีบแข้งวัย 22 ปีเข้าทีม จึงไม่ใช่เรื่องแปลก

อีกทั้งเมื่อมองลึกลงไป เบน มีสไตล์การเล่นที่คล้ายกับ เจ ในระดับหนึ่ง แม้จะไม่เหมือนจนหมดจด มีจที่ต่างกันบ้าง แต่โดยรวมคือเป็นผู้เล่นประเภทที่มีความคล่องตัว เลี้ยงบอล ไปกับบอล และดวลกับคู่ต่อสู้ในสถานการณ์ 1-1 ได้ยอดเยี่ยม

ที่สำคัญ มาโน รู้ดีว่าตำแหน่งกองกลางหลังกองหน้า คือตำแหน่งที่ เบน ถนัดที่สุด และเขาต้องดึงศักยภาพ เบน ออกมาให้ได้เหมือนที่ มาโกโตะ เทงุระโมริ ทำที่ ชลบุรี  

นั่นคือเหตุผลว่าเหตุใด มาโน จึงเมินเฉยกองกลางรายอื่น ๆ ทั้งที่ผู้เล่นเหล่านั้นเป็นกำลังหลักทีมชาติในรายการที่ผ่านมา มีประสบการณ์มากกว่า

เพราะในมุมของ มาโน เมื่อขาดกองกลางหมายเลข 10 อย่าง ชนาธิป ก็ต้องทดแทนด้วยกองกลางหมายเลข 10 ที่มีความละม้ายคล้ายคลึง ชนาธิป ซึ่งหวยจึงมาออกที่ เบน

ทำให้เวที “คิงส์ คัพ” หนนี้คือการติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกของ เบน เดวิส

แน่นอนว่าเมื่อคุณเป็นหน้าใหม่ สิ่งที่คุณต้องทำคือเร่งปรับตัวเข้ากับเพื่อน และระบบทีม รวมไปถึงสร้างความประทับใจให้คนเป็นโค้ชส่งคุณลงสนามให้ได้

อย่าคิดว่าแม้ไม่มี ชนาธิป แล้ว เบน จะจองตำแหน่งตัวจริง ทีมชาติไทยไม่ได้ “หวานเจี๊ยบ” ขนาดนั้น ผู้เล่นอย่าง วรชิต กนิตศรีบําเพ็ญ หรือ ปกเกล้า อนันต์ ก็สามารถเล่นตำแหน่งนี้ได้ในสไตล์ของพวกเขาเอง

นอกจากนี้เวที “คิงส์ คัพ” เปรียบเสมือน “บทพิสูจน์” และวิชาการตัดเกรดลูกหนังเบื้องต้นชั้นดีว่า เบน ฝีตีนดีพอและพร้อมสำหรับทีมชาติไทยชุดใหญ่หรือยัง

อย่าลืมว่า “โอกาส” ไม่ได้เข้ามาหาเขาบ่อย ๆ   

ซึ่งไม่ใช่แค่ เบน คนเดียว แต่รวมถึงแข้งคนอื่น ๆ แม้กระทั่งตัวเฮดโค้ชอย่าง มาโน เองด้วย

คู่แข่งอย่าง เลบานอน อิรัก อินเดีย อาจไม่ใช่ “ข้อสอบ” ที่ง่าย แต่หากคุณจะก้าวไปในเลเวลที่สูงกว่า ชาติเหล่านี้คุณต้องผ่านไปให้ได้อย่างไม่มีข้อยกเว้น

หากสอบผ่าน ทำผลงานได้ดี รายการต่อไปอย่าง ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย รวมไปถึง เอเชียนคัพ ผู้เล่นที่ทำผลงานยอดเยี่ยม ก็อาจได้ไปต่อในสีเสื้อทีมชาติ

2 เกมจากนี้จึงไม่ต่างจาก “จุดเริ่มต้น” ของ เบน ในชุดช้างศึก

จะแค่ “พบเพียงผ่าน” เข้ามาติดทีมเพียงชั่วคราวแล้วจางหายไป หรือจะกลายเป็น “ขาประจำ” ในทีมชาติไทยต่อจากนี้

2 เท้าของเขา จะขีดชะตาชีวิตลูกหนังด้วยตัวเอง