การไม่ชนะในเกมพรีเมียร์ลีก 3 เกมติดต่อกัน ซ้ำยังเป็นการแพ้ในบ้านถึง 2 เกมแถมยิงประตูไม่ได้ สร้างความห่อเหี่ยวและความไม่พอใจเป็นอย่างมากสำหรับสาวกสิงโตน้ำเงิน
อย่างที่รู้กันว่าเมื่อ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เข้ามาคุมทีม ทำให้ "สิงห์บลูส์๑ มีความหวังเรืองรองอีกครั้งหลังเจอกับความล้มเหลวอย่างหนักในฤดูกาล 2022/23
แม้ทีมจะมีการเสริมทัมด้วยเม็ดเงินที่มากกว่าใครในพรีเมียร์ลีกช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่เอาจริงๆ นักเตะที่เข้ามานั้นไม่ได้สร้างความประทับใจนัก เพราะแต่ละไม่ได้เป็นแข้งระดับเกรดเอที่จะเข้ามายกระดับสโมสรได้ในทันที
นี่ยังไม่รวมถึงปัญหาภายในอีกมามายที่สื่อพยายามขุดคุ้ย แม้นายใหญ่ชาวอาร์เจนติน่าจะมีฝีมือแต่ไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนได้ในชั่วข้ามคืน
แผนงานการดึงแข้งอายุน้อยเข้ามาเพื่อเป็นกำลังหลักในระยะยาวพิสจูน์ให้เห็นแล้วว่าล้มเหลว เพราะฤดูกาลที่แล้วมีการเปลี่ยนกุนซือเป็นว่าเล่น ถ้ายังยึดผู้จัดการทีมคนเดิมยาวๆ ก็ว่าไปอย่าง พอเปลี่ยนใหม่ที อะไรก็เปลี่ยนแปลงที
นั่นทำผลที่ออกมานั้นฟอร์มในซีซั่นนี้ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นกว่าเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา
จากชัยชนะในเกมล่าสุดมันพอช่วยให้ได้มีรอยยิ้มกันบ้าง อย่างน้อยก็ยังได้ไปต่อในการลุ้นแชมป์ในรายการที่ดูว่าน่าจะมีความเป็นไปได้มากที่สุด
เสียงชื่นชมถูกส่งให้ โคล พาลเมอร์ ที่ลงเล่นตัวจริงเต็มตัวครั้งแรกที่เป็นคนแอสซิสต์ให้ นิโกล่าส์ แจ็คสัน ยิงประตูเดียวของเกมให้ทีมคว้าชัยชนะไปครอง
กองหน้าป้ายแดงถูกตำหนิจากผู้เป็นเจ้านายเรื่องโดนใบเหลืองที่สะสมครบ 5 ใบจากการลงเล่นเพียง 6 เกมในพรีเมียร์ลีก ประตูในเกมนี้ถือเป็นลูกที่สองของเจ้าตัวกับสโมสรในเกมอย่างเป็นทางการเท่านั้น เรียกได้ว่าโดนใบเหลืองมากกว่าทำประตูซะอีก
"เมื่อกองหน้าทำประตูได้ มันเป็นสิ่งสำคัญและผมก็พอใจกับเขา" เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ พูดถึง แจ็คสัน
"ผมใจมากกับผลงานของทีมอีกครั้งและตอนนี้ผมแฮปปี้กับชัยชนะ มันสำคัญที่จะผ่านเข้ารอบต่อไปและสร้างความเชื่อมั่นรวมถึงเรียกโมเมนตัวกลับมา ผมหวังว่าเราจะรักษาโมเมนนี้เอาไว้ให้ได้ต่อไป"
สิ่งที่ได้เห็นกันอย่างชัดเจนในเกมนี้หนีไม่พ้นการที่แฟนบอลของ ไบรท์ตัน สนุกสนานกันอย่างมากกับการล้อเลียน มาร์ก กูกูเรน่า อดีตแข้งเก่าที่ย้ายมาอยู่กับ เชลซี เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว พร้อมกับเสียงวิจารณ์อย่างหนักทั้งเรื่อวงของค่าตัวตั้งแต่เริ่มต้น แถมพอได้ลงสนามฟอร์มการเล่นก็ย่ำแย่อีก
ไหนจะมี มอยเซส ไกเซโด้ และ โรเบิร์ต ซานเชซ ที่ตามกันมาอีกในฤดูกาลนี้ แน่นอนว่ามันทำให้สาวก "นกนางนวล" หงุดหงิดเป็นธรรมดา และมีความสุขกันอย่างมากที่ "สิงห์บลูส์" ผลงานย่ำแย่
ซานเชซ เกือบจะบอลของขวัญให้กับทีมเก่าหลังเตะบอลไปให้ ชูเอา เปโดร ดื้อๆ ในจังหวะโดนบีบที่หน้าเขตโทษ แต่ดีที่กองหน้าทีมเยือนยิงข้ามคาน ไม่อย่างนั้นคงดูไม่จืดและยิ่งทำลายกำลังใจลงไปอีก
ไหนจะจังหวะผ่านบอลให้ มอยเซส ไกเซโด้ หน้าเขตโทษทั้งที่โดน คาร์ลอส บาเลด้า ตามติดอยู่จนเสียบอล ยังดีที่จังหวะยิงของ อันซู ฟาตี เจ้าตัวยังมาแก้ตัวช่วยเซฟไว้ได้
ไบรท์ตัน ออกสตาร์ทครั้งหลังอย่างสดใส แต่เป็น เชลซี ที่อาศัยการบีบเกมสูงจนเอาบอลมาได้สุดท้ายเป็น โคล พาลเมอร์ ไหลบอลให้ นิโกล่าส์ แจ็คสันยิงเข้าไป
แม้ว่า โรแบร์โต้ เ แซร์บี้ จะตั้งคำถามถึงจังหวะนี้ว่า แจ็คสัน ล้ำหน้ารึเปล่า แต่ผู้ตัดสิน โธมัส บรามอลล์ ให้ประตูโดยที่ไม่มีการเช็กวีเออาร์เพราะมั่นใจในการตัดสินใจนี้
เชลซี ส่งบอลสู่ก้นตาข่ายได้เป็นหนที่สองด้วยจาก นิโกล่าส์ แจ็คสัน เจ้าเก่า แต่คราวนี้เป็นลูกล้ำหน้าไป
ไบรท์ตัน เองก็มีโอกาสตีเสมอเช่นกันจากลูกโหม่งเต็มหัวของ ซอลลี่ มาร์ช ที่ไปตรง โรเบิร์ต ซานเชซ ทุบออกมาได้ รวมถึงจังหวะ วอลเล่ย์จากบอลที่เคลียร์ไม่ขาดของ ชูเอา เปโดร ที่ข้ามคานไป
สิ้นเสียงนกหวีดสุดท้าย แฟนบอล เชลซี ได้เฮกันสุดเสียงหลังจากที่ห่อเหี่ยวมาตั้งแต่ก่อนเบรกทีมชาติ
โปรแกรมอีกสองนัดต่อจากนี้กับการไปเยือน ฟูแล่ม ต่อด้วยเยือน เบิร์นลี่ย์ ไม่มีอะไรจะแก้ตัวอีกนอกจาก 3 คะแนนเต็มเท่านั้น เพราะจากนั้นทีมจะเบรกทีมชาติอีกครั้งก่อนจะทำศึกหนักกับ อาร์เซน่อล
หากผลงานแย่อีกสภาพจิตใจมันคงจะแย่มากๆ เลย กับทีมรองบ่อนที่ทีมจำเป็นต้องชนะเพื่อเรียกความมั่นใจก่อนเกมสำคัญ
บางคนอาจจะมองว่าถึงฟอร์มไม่ดีก็จะได้พักช่วงนั้น ถ้าชนะแล้วเบรกมันจะเป็นการเสียโอกาส
แต่เชื่อเถอะหากไม่ดีในสองเกมนั้น มันจะตามหลอนคุณไปในช่วงพักหรือกับนักเตะที่ติดทีมชาติ มันไม่ได้หายไปหรอก
