หลังย้ายมาร่วมทีม ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ค่าตัว 60 ล้านปอนด์ ส่งผลให้เขานั้น กลายมาเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุด เป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ของทัพ “หงส์แดง”
โซบอสไล ถือเป็นนักเตะที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ พร้อมกับมีความสามารถที่เปี่ยมล้น นี่คือสิ่งที่ลิเวอร์พูล คาดหวังจากตัวเขาได้ โดยเฉพาะการสร้างสรรค์เกม และการสอดขึ้นมายิงประตู ในวัยแค่ 22 ปี โซบอสไล คือคนที่วงการฟุตบอลฮังการี มอบความหวังว่านี่คือซูเปอร์สตาร์ ที่รอวันฉายแสง
ความสำเร็จ ในการเติบโตเป็นนักฟุตบอลอาชีพ และเล่นกับทีมระดับโลก โซบอสไล มีปัจจัยบางอย่าง ที่หล่อหลอมมาตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก ปัจจัยที่ว่า นั่นคือเรื่องของ “การฝึกซ้อม" และเป็นการฝึกซ้อมที่ไม่เหมือนกับเด็กทั่วไป ในอะคาเดมี่ที่สอนอย่างเป็นระบบ
โซบอสไล ถูกปลูกฝังจากคุณพ่อ สำหรับการฝึกซ้อมแบบสุดแปลก ทั้งการเลี้ยงบอลผ่านขวดน้ำ และการถือลูกกอล์ฟ นี่คือความทรงจำที่เขาไม่เคยลืมเลือน เราลองไปย้อนความทรงจำเหล่านั้นกันเลย
โซบอสไล เกิด และเติบโตที่ “แซแกซแฟเฮร์วาร์” เมืองแห่งหนึ่งในประเทศฮังการี ตั้งอยู่ห่างจากเมืองหลวงอย่างบูดาเปสต์ ประมาณ 45 นาที คุณพ่อของเขา นามว่า “โซลต์ โซบอสไล” เป็นคนที่ปลูกฝังการเล่นฟุตบอล พร้อมกับวางรากฐาน และเบสิคขั้นพื้นฐานให้
อย่างไรก็ตาม เบสิคที่คุณพ่อพยายามปลูกฝังให้กับโซบอสไล ค่อนข้างจะมีแนวทาง และวิธีที่แตกต่างออกไปเสียหน่อย จากการที่บ้านของครอบครัว ไม่มีพื้นที่ที่เป็นสวน ดังนั้น พวกเขาจึงต้องใช้พื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัด เพื่อสอนวิชาลูกหนัง
บทสรุปคือ คุณพ่อของเขาต้องปรับมาใช้พื้นที่ว่าง ภายในห้องที่บ้านของตัวเอง เพื่อเป็นสนามชั่วคราว คอยเอาไว้เพาะบ่มฝีเท้าของลูกชายคนนี้ ด้วยการใช้กฎเหล็กข้อสำคัญคือ คุณพ่อจะวางขวดน้ำเอาไว้ ตามส่วนต่างๆของห้อง และโซบอสไล ต้องเลี้ยงบอลผ่านไป
หากโซบอสไล เลี้ยงบอลแล้วไปชนขวดเหล่านั้น แม้แต่เพียงขวดเดียว เขาต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด !!! ในรูปแบบดังกล่าว ช่วยเพิ่มความกดดันให้กับโซบอสไล ที่ต้องพยายามเลี้ยงบอลผ่านขวดน้ำ ที่ตั้งกระจายอยู่ทั่วห้อง
เพราะไม่เช่นนั้น เขาต้องทำแบบนั้นแบบซ้ำไปซ้ำมา จนกว่าการเลี้ยงบอลในแต่ละครั้ง จะออกมาสำเร็จ ราวกับว่า นี่คือด่านยากในวิดีโอเกมส์ โซบอสไล ซ้อมแบบนั้น อย่างเอาเป็นเอาตาย ความผิดพลาดทำให้เขาต้องกลับมาเลี้ยงบอลใหม่ ครั้งแล้วครั้งเล่า
ผลสุดท้าย เขาไม่เคยคิดที่จะยอมแพ้เลย และจากแบบทดสอบสุดหินของคุณพ่อ จนอุปสรรคเหล่านั้น ช่วยให้เขาเกิดความเคยชิน และกลายมาเป็นพรแสวง
โซบอสไล ย้อนความทรงจำวัยเด็กว่า โจทย์ที่คุณพ่อมอบให้ ถือว่าเป็นอะไรที่โหดมาก แต่นี่คือรากฐานสำคัญ ช่วยให้เขาก้าวมาเป็นนักเตะอาชีพ เขากล่าวว่า “บ้านของเราไม่มีพื้นที่เป็นสวน ดังนั้น ผมจึงต้องมาฝึกการเลี้ยงบอล ภายในบ้านของตัวเอง”
“สำหรับผม หากขวดน้ำมีน้ำบรรจุอยู่ การเลี้ยงบอลผ่านพวกมันไปนั้น ก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายมากกว่าเดิม แต่หากขวดน้ำ ไม่มีน้ำบรรจุอยู่แล้วล่ะก็ ความยากก็จะมากขึ้นเป็นทวีคูณ แน่นอนว่า คุณพ่อเทน้ำออกทุกครั้ง เพื่อให้ผมเจอความยาก”
สิ่งที่โซบอสไล พยายามสื่อถึงคือ หากขวดน้ำไม่มีน้ำหนักจากน้ำที่บรรจุ การที่เลี้ยงลูกบอลผ่านไป อาจทำให้เกิดแรงกระทบ จนล้มง่ายขึ้นกว่าเดิม โซบอสไล กล่าวว่า “หากผมเลี้ยงบอลไปโดนขวดน้ำ และมันล้มลงไป ผมต้องกลับไปเลี้ยงบอลใหม่ จนกว่าจะไม่มีขวดน้ำล้มเลย”
“ผมต้องเลี้ยงบอลผ่านขวดน้ำ จนออกมาด้วยความสมบูรณ์แบบมากที่สุด จากนั้น ผมถึงจะไปทำอะไรอย่างอื่นได้ “ผมเริ่มเตะลูกบอล ตั้งแต่ผมจำความได้เลย ผมเดินทางไปสนามฟุตบอลเป็นครั้งแรก พร้อมกับคุณพ่อ ด้วยวัยเพียง 3 ขวบเท่านั้น”
นี่คือการฝึกฝนในแบบฉบับของคุณพ่อ ที่โซบอสไล ยังคงไม่เคยลืมเลือน ทุกครั้งที่เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งในสนาม เขาจะนึกถึงขวดน้ำของคุณพ่อเสมอ จุดเริ่มต้นเล็กๆ ภายในบ้านของตัวเอง ต่อยอดมาสู่สังเวียนจริง แน่นอนว่า เขานำเทคนิคการเลี้ยงบอลที่ได้ นำมาประยุกต์ใช้อย่างเด่นชัด
“โซลต์ โซบอสไล” เคยเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ผ่านการเล่นลีกสูงสุดของฮังการี เขาจึงอยากหล่อหลอมให้ลูกชาย เดินทางในถนนสายเดียวกัน ชีวิตหลังจากเลิกเล่น คุณพ่อของโซบอสไล ผันตัวเองมารับหน้าที่เป็นโค้ช และเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งอะคาเดมี่ ที่ชื่อว่า “โฟนิกซ์ โกลด์”
สถาบันลูกหนังดังกล่าว ตั้งอยู่ห่างจากบ้านของพวกเขา ออกไปแถวย่านชานเมืองเสียหน่อย นี่คือสถานที่ที่โซบอสไล ฝึกฝนฝีเท้าอย่างจริงตั้ง ตั้งแต่อายุเพียงแค่ 6 ขวบ หรือคิดง่ายๆก็ประมาณเด็กประถม 1
อะคาเดมี่ “โฟนิกซ์ โกลด์” เน้นไปที่การพัฒนาความสามารถด้านเทคนิค - โซบอสไล ต้องเจอกับการฝึกฝนแบบสุดแปลกอีกครั้ง โซบอสไล ต้องผ่านการฝึกฝน ด้วยการถือ “ลูกกอล์ฟ” อยู่ในมือทั้ง 2 ข้าง เพื่อให้แน่ใจว่า เขาเรียนรู้วิธีแย่งบอล โดยไม่จำเป็นต้องทำฟาวล์คู่แข่ง
โซบอสไล ออกมากล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ตามปกติแล้ว หากมีคู่แข่งเลี้ยงบอลผ่านคุณ คุณก็มักจะอยากดึงเสื้อเขาเอาไว้ สำหรับคุณพ่อ ท่านไม่อยากให้ผมทำแบบนั้น เพราะมันจะเป็นจังหวะการเสียฟาวล์ให้กับคู่แข่ง”
“คุณพ่ออยากมั่นใจว่า ผมจะเติบโตมา โดยที่ไม่มีนิสัยแบบนั้น เขาเลยให้นักเตะแต่ละคน ทำการถือลูกกอล์ฟเอาไว้ การฝึกแบบนั้น คุณจะไม่สามารถดึงใครได้ คุณพ่อทำเรื่องบ้าๆหลายอย่าง แต่ผมบอกทั้งหมดไม่ได้หรอกว่า มันมีอะไรบ้าง”
แนวทางของ “โซลต์ โซบอสไล” อาจดูแปลกประหลาด แต่มันก็เป็นเหมือนใบเบิกทางที่ช่วยลูกชายให้เติบโตมาเป็นนักเตะระดับโลก
