โดยปรากฏชื่อผู้เล่นที่โชว์ฟอร์มในลีกได้ดีปัจจุบัน รวมไปถึง “ขาประจำ” ในทีมชาติ ที่หากไม่เจ็บกาย ป่วยใจ วิ่งไม่ไหว ยังไงก็ต้องติด

มีเพียง นิโคลัส มิเกลสัน แบ็กขวาตัวเก่งพียงคนเดียว ที่ยังมีอาการบาดเจ็บ และต้นสังกัดอย่าง โอเดนเซ ในเดนมาร์กไม่ได้ปล่อยตัวมา

ที่เหลือเรียกว่าจัดเต็ม “ฟูลทีม”

อย่างไรก็ตามผู้เล่นชุดนี้ มาโน เรียกมาถึง 26 คน ซึ่งตามกฎแล้วจะส่งชื่อได้เพียง 23 คนเท่านั้นก่อนแข่ง

นั่นหมายความว่าจะมี 3 ผู้เล่นจาก 26 รายนี้ ถูกหั่นออกไป

ซึ่งเราจะมา “วิเคราะห์” และคาดเดากันว่า 3 ผู้เล่นที่ว่านั้นจะมีตำแหน่งไหนบ้าง

 

1. แบ็กขวา

อาจเป็นตำแหน่งที่เด่นชัดมากสุด เพราะ มาโน เรียกมาด้วยกันทั้งหมด 3 คน ประกอบด้วย นิติพงษ์ เสลานนท์ (แบงค็อกฯ), ทริสตอง โด (เมืองทองฯ), ศุภนันท์ บุรีรัตน์ (การท่าเรือ)

แน่นอนว่า 1 ใน 3 คนนี้จะต้องถูกตัด คำถามคือใครจะมีโอกาสมากสุด ที่จะถูกหั่นออก ?

ว่ากันในแง่ของฟอร์มการเล่น ทั้ง 3 คนต่างทำผลงานได้อย่างดีกับต้นสังกัด และอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม

มุมผู้เขียนเชื่อว่า หากไม่มี มิเกลสัน ชื่อ นิติพงษ์ อาจเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ในตำแหน่งนี้ ในแง่ของบาลานซ์เกมที่โดดเด่นทั้งเกมรุกและรับ เหมาะสำหรับการใช้งานในเกมเจอ จีน และ สิงคโปร์ มากที่สุด

ทำให้คนที่จะต้องมาแย่งโควตาสุดท้ายเห็นจะเป็น โด กับ ศุภนันท์ ซึ่งเป็นสไตล์แบ็กจอมบุกคล้ายกันอยู่แล้ว แม้ในแง่ประสบการณ์ โด จะมีมากกว่า แต่ช่วงหลังเอง ศุภนันท์ เองก็ผ่านเกมระดับสูงมามากพอเช่นกัน และอยู่ในช่วงฟอร์มที่กำลังพีก

คำตอบนี้อาจถูกโยนกลับไปให้ มาโน ตัดสินใจ ว่าจะเลือกใครในฉากสุดท้าย

 

2. เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ

ในตำแหน่งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 6 คนคือ พรรษา เหมวิบูลย์ (บุรีรัมย์ฯ), เฉลิมศักดิ์ อักขี (การท่าเรือ), มานูเอล ทอม เบียห์ร, สุพรรณ ทองสงค์ (แบงค็อกฯ), เอเลียส ดอเลาะ (บาหลี ยูไนเต็ด), กฤษดา กาแมน (ชลบุรี)

ในรายของ กฤษดา น่าจะเป็นตัวเลือกแรก ๆ ในตำแหน่งนี้ เพราะสามารถขยับไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ได้ เช่นเดียวกัน พรรษา, เอเลียส ที่เป็นบอลสไตล์อ่านเกม บวกกับประสบการณ์ รวมไปถึงความสูงระดับ 190 ซม. + ที่น่าจะช่วยป้องกันลูกกลางอากาศ ซึ่งเป็นจุดอ่อนทีมชาติไทยในช่วงหลังได้

คำถามจึงถูกโยนไปอยู่ที่ เฉลิมศักดิ์, มานูเอล ทอม และ สุพรรณ โดยเฉพาะ 2 แข้งจาก แบงค็อกฯ ที่เป็นแนวรับในสไตล์เดียวกันคือ “สายชน” เพราะกับต้นสังกัดเองพวกเขาก็สลับกันเป็นพาร์ตเนอร์กับแข้งต่างชาติอย่าง เอเวอร์ตัน

แม้ว่า มาโน อาจพลิกแพลงมาเล่นในระบบหลัง 3 คน แต่จากผู้เล่น 6 คนที่ติดมาก็ยังถือว่ามากอยู่ดี ฉะนั้นตำแหน่งนี้ต้องมีอย่างน้อย 1 คนที่ถูกหั่นออกไป

ซึ่งน่าจะอยู่ใน 3 คนชุดหลังที่กล่าวมา

 

3. ตัวริมเส้น

ตำแหน่งตัวริมเส้น ดูผิวเผินเหมือนว่าไม่น่าจะมีใครถูกตัดทิ้งไป เพราะมีแค่ 4 คนคือ สุภโชค สารชาติ (คอนซาโดเล ซัปโปโร), เอกนิษฐ์ ปัญญา (อุราวะ เรดส์), บดินทร์ ผาลา (การท่าเรือ) และ รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก (แบงค็อกฯ)

ปีกซ้าย บดินทร์ กับ สุภโชค ทั้งคู่เป็นสไตล์ถนัดเท้าขวาเลี้ยงตัดเข้าในตามฉบับที่ มาโน ชอบ ขณะที่ฝั่งขวา เอกนิษฐ์ ก็เล่นได้ทั้งเท้าซ้าย-ขวา อีกทั้งยังยืนตำแหน่งเบอร์ 10 ของ ชนาธิป ได้ ส่วน รุ่งรัฐ ก็เป็นอีซ้ายที่ตัดในเข้ามายิงให้เห็นบ่อยครั้ง อยู่ในช่วงฟอร์มที่โหดจัด

แต่ประเด็นคือดันมีชื่อของ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา เข้ามาด้วย

ศุภณัฏฐ์ อาจถูกแยกไว้ในหมวดหมู่ “กองหน้า” แต่ตำแหน่งปัจจุบันของเจ้าตัวในช่วงหลังทั้งกับ บุรีรัมย์ ปีก่อน และ โอเอซ ลูเวิน คือ ปีกขวา ซึ่งแบงค์ทำผลงานได้อย่างดี และเผลอ ๆ อาจเป็นตัวเลือกอันดับแรกด้วยซ้ำ

เมื่อ ศุภณัฏฐ์ เล่นปีกขวาได้ดี เอกนิษฐ์ สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่ง และ สุภโชค เองก็เป็นตัวจริงฝั่งซ้ายอยู่แล้ว หวยอาจมาตกกับ รุ่งรัฐ และ บดินทร์ ที่มีโอกาสสูงว่า 1 ใน 2 คนนี้จะถูกหั่นจากชุด 23 คน

อย่างไรก็ดี ทั้งคู่อาจได้ไปต่อใน 23 คนสุดท้ายแล้ว มาโน เลือกตัดผู้เล่นตำแหน่งอื่นที่ไม่สมบูรณ์แทน ก็ยังถือว่ามีเปอร์เซ็นต์ที่สูง

เพราะนี่คือการ “คาดเดา” ล้วน ๆ

สุดท้ายขึ้นอยู่ที่โค้ชว่าต้องการวัตถุดิบแบบไหน ไปใช้หน้างาน