:::     :::

สิ่งดีๆหลายอย่างในเกมชนะลูตัน

วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤศจิกายน 2566 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
1,815
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
บ่นเรื่องข้อบกพร่องและความไม่สมบูรณ์กันมาเยอะแล้ว จริงๆในเกมที่แมนยูชนะลูตัน มีเรื่องดีๆที่เกิดขึ้นในเกมนี้หลายอย่างมากถ้าพยายามสังเกต เรามาดูกันว่ามีอะไรที่น่าชื่นใจในเกมนี้กันบ้าง เขียนไปเขียนมาก็หลายข้อเหมือนกัน!!

จากแมตช์ล่าสุดของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เกมพรีเมียร์ลีกวีคที่12 ในนัดสุดท้ายก่อนที่จะพักเบรคทีมชาติ ปีศาจแดงเปิดบ้านเอาชนะลูตันทาวน์ไปได้ 1-0 จากประตูของ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ในนาทีที่ 59 ในจังหวะที่เกมรับของลูตันสกัดบอลไม่ขาด กลับมาเข้าทาง เมสัน เมาท์ ก่อนจะไหลให้มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้ลองยิงยัดเข้าไป และบอลกระดอนกลับมาหาลินเดอเลิฟที่สลัดตัวประกบหาพื้นที่ว่างได้ดี และยิงเข้าไปอย่างเฉียบขาด กลายเป็นประตูโทนที่มอบสามแต้มอันล้ำค่าให้กับแมนยูไนเต็ดในนัดนี้

บทความนี้จั่วหัวมาเพื่อที่จะหา "เรื่องราวดีๆ" ของชัยชนะในเกมนี้ เพราะว่าภาพรวมของชัยชนะที่เห็นมันยังมีข้อบกพร่องค่อนข้างเยอะมาก และพวกเราก็ได้อ่านจากที่ต่างๆกันมามากมายแล้วถึงจุดบกพร่องที่มีอยู่(รวมถึงบนหน้าเพจของผู้เขียนคอลัมน์นี้ด้วย) บทความนี้จึงอยากจะนำเสนอในแง่มุมแตกต่างอื่นๆบ้างว่า จริงๆไอ้ที่เห็นว่าแย่น่ะ เรื่องดีๆก็มีอยู่ ถ้ากลับไปสังเกตดูจุดดีๆของมัน

ไม่ใช่เกมที่แย่ของแมนยูไนเต็ดแน่ๆ เรื่องนี้สามารถยืนยันได้จากการดูซ้ำฟูลแมตช์อีกรอบแล้ว แค่ว่าสิ่งที่ดีมันดีไม่สุดแค่นั้นเอง แต่ไม่ได้แย่แน่ๆล่ะ

พูดถึงเรื่องที่ไม่ดีก่อนให้จบๆไป

ถ้าเราพูดถึงเรื่องผลลัพธ์การแข่งขัน แน่นอนว่ามันเป็นผลการแข่งขันที่ดีมากพอแล้ว แค่ชนะเก็บสามแต้มได้แถมยังเป็นคลีนชีท จริงๆก็ถือว่าโอเค แต่ในเรื่องรายละเอียดของการแข่งขัน คุณภาพการเล่นของทีม มีหลายจุดมากที่ยังไม่ดีพอ แฟนๆที่นั่งชมกันอยู่ในวันนั้นน่าจะเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของ "ความเฉียบคมในการจบสกอร์" ที่แนวรุกของเราทำผลงานกันได้ไม่ดี ปล่อยโอกาสทองออกไปหลายครั้ง

โดยเฉพาะสามจังหวะยิงของฟร้อนท์ทรีคนละช็อต ที่สามครั้งนั้นควรจะเปลี่ยนเป็นประตูให้ได้อย่างน้อยสักลูกนึงก็ยังดี กลับทำไม่สำเร็จ ทั้งการ์นาโช่ และ แรชฟอร์ด ที่หลุดเดี่ยวทั้งคู่ ส่วนฮอยลุนด์คือลูกชาร์จในระยะเผาขนที่ยังไปตรงตัวผู้รักษาประตูลูตันอย่าง Karminski ทำให้แมนยูไนเต็ดมีประตูในเกมนี้แค่ลูกเดียวจากลินเดอเลิฟอย่างที่เห็น ซึ่งในความเป็นจริงทีมควรยิงกันได้ด้วยสกอร์ 2-0 ขึ้นไป อย่างที่ค่า xG คำนวณเอาไว้ว่าราวๆ 2.2 ในเกมนี้

สิ่งที่มันแย่ไม่ใช่เพราะว่า "ทีมชนะน้อย เลยไม่ดีใจ อยากให้ยิงชนะเยอะๆ" << ไม่ใช่เพราะเหตุนี้ เราไม่สนใจหรอกว่าจะชนะด้วยสกอร์เท่าไหร่ ขอแค่ชนะก็ถือว่าแมตช์นั้นประสบความสำเร็จแล้ว เพียงแค่ว่า ในความเป็นจริงทีมทำเกมครองบอลได้เหนือกว่าคู่แข่งมาก และสร้างโอกาสสำคัญ(big chances)ได้เรื่อยๆ มันก็ควรจะทำให้ได้เยอะกว่านี้

ลองคิดง่ายๆว่า ด้วยสกอร์ที่ยิงได้แค่ลูกเดียว แล้วเกิดว่าท้ายเกมมีอุบัติเหตุทางฟุตบอล จับพลัดจับผลูลูตันตีเสมอแมนยูไนเต็ดขึ้นมาได้ จะเกิดอะไรขึ้น? คนที่จะเละก่อนใครเพื่อนคือเอริค เทน ฮาก แน่นอนงานนี้ เพราะงั้นแล้วทีมควรจะยิงได้มากกว่านี้เพื่อเมคชัวร์ 3 คะแนน มากกว่าที่จะต้องให้ลุ้นกันจนถึงท้ายเกม ที่ยังโชคดีว่าทีมเราเอาอยู่ ถึงเก็บสามแต้มได้

ดังนั้น เรื่องของ "ปัญหาการจบสกอร์" คือประเด็นใหญ่เรื่องเดียวที่เราอยากจะนำมาเกริ่นพูดในบทความนี้ให้เห็นว่า จริงๆเกมดังกล่าวมันมีจุดบกพร่องที่ต้องปรับปรุงคุณภาพการเล่นอีกเยอะ เช่น ความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ(ที่เกิดบ่อย) ในการเล่นของนักเตะรายบุคคล ยังมีการจ่ายบอลพลาดง่ายๆที่เสียบอลให้คู่แข่งมีโอกาสโต้กลับมาใส่เรา ซึ่งถ้าเป็นทีมที่คมๆป่านนี้ยูไนเต็ดไม่เหลือไปแล้วในหลายๆจังหวะ

ความหลากหลายในการสร้างเกมรุกที่ดุดันและใกล้เคียงจะเป็นประตู ยังขาดไอเดียอีกพอสมควร รูปแบบการรุกในเกมนี้ก็ขาดหายไปหลายมิติ เช่นบอลสั้นเจาะช่อง, การยิงไกลแถวสอง, การเปิดบอลแนวลึกทำลายไลน์เกมรับของลูตัน, การปรับแก้แทคติกของเทน ฮาก ในครึ่งหลัง, ความกระหายของนักเตะที่อยากจะเอาชนะและยิงเพิ่มที่ดูเหมือนจะยังไม่เพียงพอ ฯลฯ

ทั้งหมดที่พูดมานี้คือส่วนที่อยากให้ปรับปรุงและเป็นเรื่องที่ไม่ดีของเกมนี้ทั้งสิ้น แต่เมื่อเราลิสต์มันออกมาทั้งหมดแล้ว ทีนี้ถึงเวลาที่จะไปดูแล้วว่า เกมนี้มีอะไรดีๆให้เราสามารถจะมองเห็นและชื่นชมกับมันได้บ้าง มีหลายเรื่องพอสมควร สรุปมาแบบคร่าวๆมีดังต่อไปนี้ครับ

1. เกมรับที่แข็งแกร่งและไว้ใจได้

แมตช์กับลูตันนี้ต้องชื่นชมภาคเกมรับของทีมจริงๆว่าทำได้ดีมาก การชนะด้วยการเก็บคลีนชีทถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว ทีมรับทำงานได้ดี จนช่วย "ชดเชย" ความทื่อของแนวรุกได้ แม้ว่าเราจะบุกยิงเค้าได้แค่ลูกเดียวก็ตาม แต่นั่นคือความแตกต่างที่ทำให้ทีมชนะ เพราะแนวรับของเราไม่เสียประตู

ต้องชมแผงกองหลังของทีมว่าเล่นเกมรับกันได้ดีมาก จุดใหญ่ๆอยู่ที่คู่เซ็นเตอร์แบ็คสองคน แฮรี่ แมกไกวร์ และ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่โชว์ผลงานการเล่นที่ยอดเยี่ยมมาก เล่นเกมรับได้ดีทุกจังหวะ โดยเฉพาะการอ่านเกม การเข้าตัดเกมบุกของคู่แข่ง ทุกอย่างทำได้เยี่ยมมากๆ สองคนนี้ถือเป็นตัวป้องกันหลักในเกมรุกของทีม ที่ทำให้เราไม่ต้องเจอกับความอันตรายในการบุกของลูตันเลย

นอกจากเซ็นเตอร์แล้ว ผู้รักษาประตูอย่าง อังเดร โอนาน่า ก็ช่วยเซฟป้องกันหลายๆลูกที่ลูตันทาวน์บุกสวนขึ้นมาและมีโอกาสได้จบสกอร์ โดยเฉพาะช็อตที่เซฟลูกโหม่งของชาร์ลตัน มอร์ริส ลูกนั้นสวยมาก และทำให้แมนยูไนเต็ดไม่ต้องเสียเปรียบคู่แข่ง และอาจตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากถ้าลูตันถอยลงไปอุดหนักกว่าเดิม ลูกนี้สำคัญมากๆ เพราะถ้าลองคิดดูหากลูกนี้เสียก่อน รับรองว่าแทคติกในสนามจะเปลี่ยนไปแน่นอน ซึ่งเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง ต้องชมโอนาน่าในลูกนี้ที่ช่วยทีมเอาไว้ได้อย่างงดงาม 

เกมรับในส่วนอื่นๆของทีม ที่เห็นชัดๆก็จะมี สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่คุมพื้นที่แดนต่ำเอาไว้ และหลายๆครั้งก็ช่วยเล่นเกมปะทะเข้าชิงการครอบครองบอลได้หลายๆจังหวะ, บรูโน่ แฟร์นันด์ส ถอยต่ำลงมาช่วยเล่นเกมรับค่อนข้างบ่อยเช่นกัน ถือว่าโดยรวม ทีมเวิร์คเกมรับเราค่อนข้างดีในนัดนี้ จังหวะจะโดนบุกก็ถอยต่ำลงมาช่วยกันได้ดี แม้ว่าบางช็อตจะปล่อยให้ลูตันครองบอลทำเกมกันเยอะไป(ไม่เข้าไปตัด) แต่การรักษาคลีนชีทได้ และโอนาน่าเหนื่อยแค่จังหวะเดียวที่ต้องพุ่งเซฟในครึ่งแรก แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะพูดว่าวันนี้เรามีเกมรับที่ดี

2. "Hybrid Role ของ แม็คโทมิเนย์" ที่เรียกฟอร์มเก่งขึ้นมาได้

ไม่น่าเชื่อว่าหลังจากเกมที่ลงมาเป็นซูเปอร์ซับในแมตช์เบิ้ลสองประตูแซงเบรนท์ฟอร์ดในครั้งนั้น สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ได้โอกาสลงเล่นต่อเนื่อง และหลายๆครั้งเป็น 11 ตัวจริงให้ทีม เขาแสดงความสามารถสำคัญออกมาให้เห็นในการเติมเกมรุกขึ้นมาในกรอบเขตโทษได้บ่อยครั้งแทบจะทุกเกม แม้ว่าอาจจะไม่โดดเด่นในการคุมเกมกลางสนาม แต่ถึงเวลาเติมเข้ากรอบเขตโทษ แม็คโทมิเนย์ก่อปัญหาให้คู่แข่งได้ทุกครั้ง กดดันพื้นที่สุดท้าย และเข้าถึงบอลได้เก่งมากด้วยจมูกและเซนส์ที่ไม่ต่างจากกองหน้าดีๆเลย

ในเกมเจอลูตันก็เติมขึ้นมาโหม่งจน Karminski ต้องออกแรงเซฟ ไม่งั้นก็ 2-0 แล้วเหมือนกันในครึ่งหลัง

เกมที่ชนะลูตันทาวน์นัดนี้ แม็คโทมิเนย์เล่นด้วยบทบาทในสนามถึง "สองบทบาท" ทั้งในแบบมิดฟิลด์เบอร์ 6 และแบบเบอร์ 8

แบบแรกคือการเล่นเป็น Box-to-Box แบบเติมเกมสูง ในช่วงครึ่งแรกตอนที่ คริสเตียน เอริคเซ่น ยังอยู่ แม็คโทมิเนย์จะไม่ใช่คนเซ็ตบอลจากแดนหลัง แต่จะเติมสูงขึ้นไปรอเล่นใน Final Third ของคู่ต่อสู้เลยตามภาพ เพราะด้านหลังมีคนคอนโทรลและคุมเกมอยู่แล้วอย่างเอริคเซ่น ตำแหน่งของน้องแม็คจึงเป็นตามภาพนี้

หน้าที่ของเขาคือดันขึ้นไปเป็นตัวเล่นพื้นที่สุดท้าย ยืนอยู่ด้านหลังฮอยลุนด์อีกทีในกรอบเขตโทษ ลักษณะบทบาทของแม็คฯจึงต้องมีความเป็นตัว Second Striker ที่เติมขึ้นไปเป็นกองหน้าตัวพิเศษให้ทีมด้วยเวลาบุก ลักษณะการเล่นเกมรุกจะเป็นแบบนี้

ส่วนในภาคเกมรับ แม็คโทมิเนย์จะถอยต่ำลงมาอยู่ด้านหน้าเซ็นเตอร์ของทีมเลยเพื่อช่วยแพ็คเกมหน้ากองหลัง ดังนั้นบทบาทการเล่นของเขาจึงเป็นตัว Box-to-Box โดยพื้นฐาน ที่จะเล่นทั้งเติมเกมขึ้นสูง และถอยต่ำลงมาช่วยเซ็ตเกมรับให้ทีม

แต่หลังจากที่เอริคเซ่น บาดเจ็บออกไป และเป็นเมสัน เมาท์ ลงสนามมาแทน เมาท์จะถูกใช้งานเป็นเบอร์ 8 ตัวบนคู่กับบรูโน่ และถอยเอาแม็คโทมิเนย์ มาเป็นตัวต่ำเบอร์ 6 ให้กับทีมแทนเพื่อรักษาพื้นที่ และช่วยต่อบอลจากแดนหลัง ตามภาพข้างล่างนี้

ลักษณะของการเล่นในครึ่งหลังของเขาที่ยืนเบอร์ 6 แม็คโทมิเนย์จะไม่เติมเกมสูงเหมือนครึ่งแรกอีกแล้ว จะคุมพื้นที่หน้าแมกไกวร์ ลินเดอเลิฟ ไว้ตลอดเวลา และคอยปัดกวาดเล่นเกมรับ, ชิงบอลรีคัฟเวอร์ในแดนกลาง และคอยเชื่อมบอล ออกบอลง่ายๆ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นหน้าที่ของมิดฟิลด์ตัวต่ำในลักษณะของตัวปักหลักแบบ Anchor Man อย่างชัดเจน ซึ่งแม็คโทมิเนย์ก็ทำหน้าที่ของตัวเขาเองได้ดีมากๆ

ถือว่าเป็นผู้เล่นอเนกประสงค์ที่ทำหน้าที่ได้ค่อนข้างหลายอย่าง มีความยืดหยุ่นในการเล่นสูง เล่นได้ตั้งแต่เบอร์ 6-8-10 แถมยังช่วยในเรื่องการจบสกอร์ให้ทีมได้ด้วย ผู้เล่นแบบนี้เชื่อว่าผู้จัดการทีมคนไหนก็ชอบ ยิ่งกับเอริค เทน ฮาก ที่มาสายบอลดัตช์ที่เน้นความอิสระและยืดหยุ่นเป็นหลัก ดูจากทรงแล้ว แม็คโทมิเนย์จะยังเป็นส่วนสำคัญที่หมุนเวียนลงเล่นช่วยทีมได้อีกมาก ถ้าใช้งานดีๆ เขามีประโยชน์แน่นอน ตอนนี้ได้ลงเล่นต่อเนื่องก็เรียกฟอร์มตัวเองกลับมาได้

เป็นเรื่องดีๆที่น่าปลื้มใจมาก เหมือนได้มิดฟิลด์ใหม่มาเพิ่มอีกหนึ่งคนเลย

3. เซร์คิโอ เรกีลอน คืออาวุธที่สร้างความหลากหลายให้ทีม

อีกหนึ่งคนที่ฟอร์มดีมากๆ คือ เซร์คิโอ เรกีลอน ในเกมนี้เขาโดดเด่นมากๆคนนึง ที่ทำงานได้ดีในภาคของเกมรุก ซึ่งเทน ฮาก เลือกใช้เรกีลอนได้ถูกแมตช์มากๆ ด้วยการเจอกับเกมรับที่แพ็คพื้นที่สุดท้ายแน่นๆของลูตัน และในเกมที่เราน่าจะเป็นฝ่ายครองบอลได้แน่ๆ เอริคเลือกใช้แบ็คซ้ายเป็นตัวริมเส้นที่ดันเกมบุกแบบเต็มตัวลงสนาม

ปกติแล้วหลายๆเกม EtH จะใช้กองหลังราวๆสามตัว เป็นตัวเซ็ตบอลจากฐาน ตอนที่ชอว์อยู่เราก็จะเห็น ชอว์-ลิช่า-วาราน เป็นทรงยืนพื้นฐานของการเซ็ตเกมจากหลังบ้าน

แต่เกมนี้ เอริคใช้ฐานแค่สองตัวเท่านั้น ซึ่งก็จัดมาได้ถูกต้อง เพราะลูตันเองก็ไม่ดันเกมขึ้นมาบีบเพรสซิ่งใส่เราเหมือนกัน ทำให้การใช้เอริคเซ่น ถอยต่ำลงมาแค่อีกคนเดียว ก็ทำให้แมนยูครองบอลได้เรื่อยๆแล้วด้วยการใช้ฐานแค่สอง แล้วโหลดวิงแบ็คสองข้างขึ้นไปเล่นเกมรุกได้เต็มๆ ไม่ต้องถอยต่ำลงมาเซ็ตเกม เหมือนอย่างในภาพข้างล่างนี้ที่จะเห็นชัดว่า ใช้ 2 CB ทำเกมด้านหลังอย่างเดียว แบ็คสองข้างดันเกมได้อิสระ

ในภาคของการทำเกมรุก เรกีลอนมีความรวดเร็วมากๆในการวิ่งเจาะสเปซของคู่แข่ง บางจังหวะแรชฟอร์ดไหลขึ้นหน้าไปสุดเส้น เรกีลอนก็วิ่งตามไปรับทัน ความขยัน ความฟิต ความเร็ว คือจุดแข็งของเรกีลอนมากๆ เช่นเดียวกับอาวุธในเกมบุกที่เด่นที่สุดของเขา นั่นก็คือ "ลูกครอส" ที่สามารถครอสได้ทุกรูปแบบ ทั้ง Early Cross ที่เป็น High-drive cross, หรือจะเป็น Pull-back cross หรือลูกครอสคัทแบ็คกลับมาก็ทำได้, Floated Cross โด่งๆ หรือจะเป็น Out-swinging cross ลูกครอสหนีมือผู้รักษาประตู

มาตรฐานการครอสของเรกีลอนดีมาก ครอสได้ทุกจังหวะ นี่ถือเป็นไม้ตายของเขาที่ทีมสามารถใช้ประโยชน์ในการโจมตีไดเร็คต์ เล่นเกมรุกเร็วได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างกับที่ลุค ชอว์ มีอยู่เล็กน้อยตรงที่ ลูกครอสของชอว์จะเน้นความแน่นอนในการเปิดมากกว่า แต่จะไม่หลากหลายเท่าเรกีลอนที่สามารถใช้ความเร็วเล่นลูกครอสได้ด้วย

ยังอยากให้ซื้อขาดอยู่นะถ้ามีเงินเหลือ ตัวนี้เป็น Squad Player ที่ดีได้แน่ๆ

4. เมสัน เมาท์ ทำประโยชน์ให้ "ทีม" ได้เยอะมาก

ประเด็นนี้แฟนบอลบางส่วนที่ยังยึดติดอยู่กับเรื่องที่ว่า เมาท์ต้องยิง ต้องแอสซิสต์เท่านั้น ถึงจะดีพอ แต่ในความเป็นจริง เมาท์ลงสนามมาก็ช่วยเหลือทีมได้ดีมากๆแทบทุกนัด แม้ว่าจะไม่มีประตูหรือแอสซิสต์ ไม่ได้แปลว่าเขาไม่มีคุณค่า

การช่วยเหลือทีม ทำได้ในรูปแบบอื่นๆอีกหลายอย่าง เช่นช่วยเหลือการทำเกมของทีม, เติมพลังงานในการเพรสซิ่ง, เข้าชิงบอลจังหวะสอง เล่นเกมรับ ไล่บอลไม่ให้คู่แข่งทำเกมได้ ฯลฯ actionsเหล่านี้ก็สำคัญไม่แพ้ประตูกับแอสซิสต์เหมือนกัน

เมาท์ในวันนี้ได้ลงสนามไปแทนคริสเตียน เอริคเซ่น และเขาทำหน้าที่เป็นตัวไล่บอลในแดนบน รวมถึงถอยต่ำลงมาช่วยเล่นเกมรับให้แข็งแกร่งและเหนียวแน่นมากโดยเฉพาะครึ่งหลัง

มีช็อตที่เขาจ่ายบอลเสียกลางสนามและโดนตัดมาโต้กลับก็จริง แต่ช็อตนั้นพี่แกก็วิ่งไล่ตามลงไปแย่งคืนได้ทันควัน และจังหวะอื่นๆอีกมากมายในเกมที่ชนะลูตัน เมาท์ขยันมากๆ ด้วยพลังงานที่เต็มเปี่ยม สดกว่าคนอื่น มีความคล่องตัว และพุ่งเข้าหาบอลได้เร็วมากๆ ข้อดีตรงนี้เหมือนเฟร็ดเป๊ะๆ ทำให้เขาช่วยงานในแดนกลางได้เยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวะการเข้าไปเพรส แย่งการครองบอลมาจากลูตัน ทำได้บ่อยครั้งมากๆ ขณะที่มิติการเชื่อมเกมรุก จังหวะการไหลบอลให้แรชฟอร์ดได้ลองยิิงก็เป็นการแสดงให้เห็นเช่นกันว่าเขาสามารถขึ้นมาทำอะไรแบบนี้ได้ ซึ่งเป็นจุดเด่นของแกในเกมรุกอยู่แล้ว

ในภาพรวม performance ของเมาท์ที่ออกมา น่าประทับใจมากๆ และช่วยเหลือบรูโน่ได้เยอะ ช่วยให้ทีมไม่โดนลูตันบุกในหลายๆจังหวะ เพราะตัดเกม บีบเพรสจนชิงบอลได้ทั้งหมด แถมบางจังหวะเลี้ยงกินตัวทะลวงขึ้นมาตรงกลาง และสร้างเกมรุกต่อให้ฟร้อนท์ทรีได้บอลไปบุกต่ออีกด้วย

ขยัน ตั้งใจเล่น สด เร็ว แกร่ง และโคตรฟิต ด้วยคุณประโยชน์ของเขามันดีพอแล้วที่เราจะบอกว่า เมาท์คืออีกหนึ่งความดีงามในเกมชนะลูตันนี้ เล่นโคตรดีจริงๆ อย่าไปยึดติดกับเบอร์ 7 มาก ลองจินตนาการว่า เมสัน เมาท์ กำลังใส่เบอร์อะไรอยู่ก็ได้ที่ไม่ใช่เบอร์ 7 คุณจะเห็นภาพกันชัดได้ง่ายกว่านี้มากว่า เขาช่วยเหลือทีมได้มหาศาลจริงๆจากการเล่นที่พลังงานเต็มเปี่ยมเช่นนี้

ใครจะไม่มองแบบนี้ก็แล้วแต่ ยังไงก็ตามนี่คือการเซ็นสัญญาที่เติมความสดในแดนกลางให้แมนยูไนเต็ดได้ดีมากแล้ว แถมอายุเพิ่งจะ 24

ในระยะยาวยังไงทีมก็คุ้ม

5. นักเตะหลายคนคืนฟอร์มเก่งกลับมาเป็นตัวแบกให้ทีม

อะไรที่ไม่เคยได้เห็น แฟนผีช่วงนี้กลับมาได้เห็นหมดอย่างเหลือเชื่อมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "แฮรี่ แมกไกวร์" ที่ยิ่งเล่นยิ่งดีวันดีคืน กลับมาฟอร์มเก่งเหมือนตอนที่เขาย้ายมาอยู่แมนยูไนเต็ดปีแรก และเล่นด้วยฟอร์มระดับที่ "ทีมขาดไม่ได้"

ขาดแมกไกวร์เหมือนขาดใจ

เพราะตอนนี้เขากลับมาทำหน้าที่ในเกมรับให้ทีมได้อย่างดีเยี่ยม ไม่มีความผิดพลาดให้เห็น เล่นด้วยความมั่นใจ ไร้ความกดดันจากปลอกแขนและเสียงก่นด่า จากคำบูลลี่มาสู่คำชื่นชมที่แฟนบอลได้เห็นแล้วว่า เขามีคาแรคเตอร์ที่สำคัญมากขนาดไหนที่ก้าวผ่านความผิดหวัง แรงกดดัน คำด่าเหยียดหยามมากมายทั้งจากภายนอกภายใน จากกองหลังตัวสำรองที่ไม่มีโอกาสลงสนามเลย กลายมาเป็นตัวเลือกแรกที่ผู้จัดการทีมมอบโอกาสให้ลงสนามก่อนด้วยความไว้วางใจ

ไม่ว่าใครจะเจ็บ ใครจะฟอร์มตก แต่ตราบใดที่ยังมีแมกไกวร์ ยืนเป็นหลักในแผงหลังให้ทีมอยู่ เราจะสามารถเดินหน้าไปเรื่อยๆได้ ในยามที่ลิช่า ชอว์ ในตำแหน่ง LCB บาดเจ็บหมด เขาสามารถยืนเป็นหลักและหมุน อีแวนส์ กับ ลินเดอเลิฟ มายืนทางซ้ายได้ ขณะที่ถ้าถึงที่สุดแล้ว แมกไกวร์เองก็โยกมายืนซ้ายที่เขาถนัดได้เช่นกันเวลาต้องจับคู่กับ ราฟาเอล วาราน ที่ถนัดยืนฝั่ง RCB เป็นหลัก

น่าดีใจแทนมากๆ ทั้งกับเจ้าตัวเองที่ตอนนี้เห็นชัดว่าเขาได้รับความรักและกำลังใจจากแฟนบอลมากพอแล้ว และกลับมายืนหยัดได้อย่างโคตรเท่อย่างที่เห็น และดีใจกับทีมด้วยที่เหมือนได้เซ็นเตอร์ตัวใหม่เข้ามาซะยังงั้น จากที่เกือบจะย้ายทีมแล้วตอนซัมเมอร์

วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ เขาเป็นผู้เล่นอีกคนที่เป็น Squad Player ตัวหมุนเวียนของทีมที่สลับลงบ้าง สำรองบ้าง ตามสถานการณ์ แต่หลังจากอีแวนส์เจ็บไป ลินเดอเลิฟน่าจะต้องลงตัวจริงมากกว่าเดิมในฐานะคู่หูทางซ้ายในตำแหน่ง LCB ของแมกไกวร์ และลินเดอเลิฟเป็นคนนึงที่รักษามาตรฐานการเล่นได้ดี อาจจะไม่ได้พีคทุกเกม หายไปบ้างในบางเกม แต่ก็ไม่ถึงกับดรอปน่าเกลียด และในเกมกับลูตันทาวน์ เขาคืออีกคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งแมนออฟเดอะแมตช์ สมฉายาดิไอซ์แมนมากๆ

นิ่งสงบสยบทุกความเคลื่อนไหวในสนาม

พร้อมด้วยความยืดหยุ่นที่เป็น CB เพียงไม่กี่คนของทีมที่สามารถเล่นแบ็คได้อย่างเต็มตัว ทั้งแบ็คซ้าย แบ็คขวา ขณะที่พวก วาราน แมกไกวร์ อีแวนส์ พวกนี้เล่นฟูลแบ็คกันลำบาก การเล่นแบ็คซ้ายของลินเดอเลิฟก็ดันทำได้ดีในหลายๆเกม รวมถึงแมตช์นี้ในช่วงท้ายที่ต้องถ่างไปเล่นแทนเรกีลอน เพราะเหตุผลที่ EtH ต้องการเพิ่มเกมรับช่วงท้ายเกมด้วย ลินเดอเลิฟที่เกมรับดีกว่า จึงถูกใช้ยืนซ้ายแทน และส่งวารานลงมาแพ็คพื้นที่ตรงกลางให้กับทีม เป็นอีกแทคติกที่เทน ฮาก ปรับช่วงท้ายเกมแบบที่แฟนบอลก็ไม่ทันสังเกต รวมถึงคนเขียนด้วย

ลินเดอเลิฟช่วยทีมได้เยอะมาก แถมไม่ค่อยบาดเจ็บ นี่คือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงสำคัญกับทีมเรา

และสุดท้าย อังเดร โอนาน่า หลังจากที่ผ่านพ้นช่วงรับน้องมา(ฮา) ตอนนี้โอนาน่าเริ่มแสดงคลาสการเล่นที่ยอดเยี่ยมและไว้ใจได้ของเขาออกมาแล้ว ซึ่งต้องบอกว่า เจ้าตัวเล่นเสี่ยงน้อยลงกว่าในอดีตเยอะ เพลย์เซฟค่อนข้างมาก ดังนั้นการผิดพลาดประเภทที่ออกมาไกลๆแล้ววืด ไม่มีให้เห็น ส่วนการเตะออกบอล แกเตะออกบอลเยอะทุกแมตช์อยู่แล้ว แม้จะไม่ได้ถึงขนาดว่าจ่ายบอลตรงเป้า 100% ขนาดนั้น แต่ทุกๆการออกบอลของโอนาน่า มันเป็นการออกบอลที่น้ำหนักและทิศทางดีทุกครั้ง ไม่มีการเตะมั่วซั่วหรือออกบอลสะเปะสะปะเลย

แต่นอกเหนือจากเรื่องดังกล่าว สิ่งที่เพิ่มขึ้นมานั่นก็คือเรื่องของ "การเซฟ" ที่ดีวันดีคืน พี่แกเซฟเอาๆเหมือนไม่เคยเซฟมาก่อนในชีวิต ลูกยากลูกง่ายแกเซฟหมด ไม่มีปลิ้นไม่มีกระฉอกหรือถุงมือแตกให้เห็น

นี่คือสิ่งที่ดีที่แฟนบอลต้องการ และอังเดรก็ทำได้ จากที่มีจุดเด่นเรื่องการใช้เท้าอยู่แล้ว พอการเซฟด้วยมือเริ่มไว้ใจได้ ทุกอย่างมันก็ค่อยๆดีขึ้น ก็ได้แต่หวังว่าแฟนบอลจะยอมรับในตัวเขามากกว่าเดิม ตอนนี้เขาคืออีกคนหนึ่งที่เรียกฟอร์มมาแบกทีมอยู่ในขณะนี้ ไม่ต่างจากแมกไกวร์ หรือ แม็คโทมิเนย์เลย ที่ตัวเล่นเหล่านี้เรียกฟอร์มอันยอดเยี่ยมกลับมาช่วยทีมในฤดูกาลที่ตัวหลักเจ็บกันระนาวแบบนี้ได้ ทั้งมาร์ติเนซ คาเซมิโร่ ชอว์ และอีกหลายๆคน

ทำเป็นเล่น เซฟไปเซฟมา ตอนนี้พ่อคุณโอนาน่าเก็บไปแล้ว 4 คลีนชีท มากที่สุดเป็นอันดับสองของซีซั่นนี้ รองจากสถิติสูงสุดตอนนี้คือ 5 คลีนชีท โดยหนึ่งในนั้นคือคลีนชีทเกมแรกๆกับวูล์ฟ ซึ่งวูล์ฟก็ตบมาแล้วทั้งซิตี้และสเปอร์ส ด้วย

6. มันคือสามแต้มสำคัญที่ส่งให้ยูไนเต็ดอยู่ในอันดับที่ดีในตารางการแข่งขัน

นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับชัยชนะในเกมลูตันทาวน์วันนี้ ไม่ว่าจะเล่นดีหรือแย่ยังไงก็ตาม ถ้าชนะคู่แข่งได้ เก็บสามคะแนนตามที่ต้องการได้ ก็ถือว่า "ภารกิจสำเร็จ" เหมือนกัน จะดีจะร้ายมันก็ผ่านไปแล้ว มันแก้ไขอะไรไม่ได้ ถ้าเล่นไม่ดีจุดไหนเราก็เก็บมันไว้พิจารณาเพื่อจะแก้ไขและยกระดับให้มันดีขึ้นในอนาคต นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดในการปรับปรุงทีม

แต่สิ่งที่จะอยู่กับเราไปยาวๆจนถึงจบฤดูกาล คือ "สามแต้ม" ที่จับต้องได้จากเกมชนะลูตันนี่ต่างหากที่เป็นของจริง

สามแต้มนี้ส่งให้เราทะยานขึ้นมาอยู่อันดับ 6 ของตาราง ดูเหมือนว่าจะแย่ แต่อย่าลืมว่า เกมการแข่งขันเพิ่งจะเตะกันมาแค่ 12 เกมเท่านั้น เรายังเหลืออีก "26 เกม" ให้ได้ลงแข่งแก้ไขปรับปรุงให้มันดีกว่านี้ และเรายังตามพื้นที่UCLอยู่เพียงแค่ 5 แต้มเท่านั้นจากอันดับ 4 ของตารางอย่าง ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ (สเปอร์ส 26 แต้ม ยูไนเต็ด 21 แต้ม) ยังมีโอกาสให้เราผิดพลาด และ ค่อยๆไล่ตามคู่แข่งเหล่านี้อีกเยอะ แม้ว่าจะต้องแพ้อีกในเกมต่อๆไป แต่โอกาสยังเปิดกว้างเสมอ

ดูเหมือนว่าจะแพ้เยอะ แต่แมนยูก็ชนะมาเยอะเหมือนกัน ไม่ค่อยพลาดเสมอในปีนี้ แต้มที่ทำได้จึงค่อนข้างเป็นกอบเป็นกำพอสมควร 

ยิ่งการชนะลูตันวันนี้ คู่แข่งใกล้ๆกันอย่างไบรท์ตัน และ นิวคาสเซิล ก็สะดุดกันหมด ทำให้สองทีมนี้โดนแมนยูไนเต็ดของเราแซงขึ้นมาแล้วเรียบร้อยด้วยจำนวนการแข่งขันที่เท่ากัน ซึ่ง gap ช่องว่างที่ห่างกันอยู่ในตอนนี้ เหลือแค่พวกกลุ่มบนๆอย่าง วิลล่า สเปอร์ส อาร์เซนอล ลิเวอร์พูล ที่แต้มติดๆกันแล้ว 

ถ้าแมนยูไล่ลดช่องว่างขึ้นไปสำเร็จ โอกาสจะพลิกขึ้นไปสูงกว่านั้นจะตามมาทันที ถ้าทำได้ ถึงเวลานั้นแฟนผีอาจจะได้เฮในช่วงครึ่งหลังซีซั่นบ้างก็ได้หลังจากดูบอลกันแบบอึนๆมาในช่วงแรก

เอาจริงๆสถานการณ์ในลีกของเรามันไม่ได้แย่เลย ถ้าเล่นดีๆจะขึ้นไปถึงโซนข้างบนก็ยังมีโอกาสอยู่ เพราะฉะนั้น สามคะแนนเต็มในเกมเจอลูตัน คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ทำให้เราขึ้นมาถึงอันดับ 6 แล้ว และเหลืออีกแค่ช่องว่าง 5 แต้มที่จะขึ้นไปไล่พวกทีมบนๆได้ เพราะงั้นฤดูกาลนี้ยังไม่จบ เรายังมีโอกาสอีกเยอะให้ได้แก้ตัว เพราะงั้นทำให้ดีที่สุด จนกว่าจะถึงปลายทางสุดท้ายที่จะตัดสินกันเมื่อถึง 38 นัด อะไรก็เกิดขึ้นได้

สามแต้มวันนี้ จึงเป็นสามแต้มสำคัญที่ทำให้แมนยูยังอยู่ในเส้นทางที่ดีอยู่ บางครั้งการเป็นทีมรองที่เป็นฝ่ายไล่ตามมันก็เชียร์สนุกเหมือนกัน พวกด้านบนโดยเฉพาะบางทีมน่าจะกังวลเราอยู่บ้างไม่มากก็น้อยแหละ

ไม่ระวังให้ดี เจอแมนยูเขมือบได้เหมือนกันนะ

และทุกอย่างนี้ คือข้อดีที่เราพอจะสังเกตได้คร่าวๆจากเกมชนะลูตัน ซึ่งเป็นการปิดฉากเกมลีกได้ดีมากก่อนที่จะพักเบรคทีมชาติอีกหนึ่งสัปดาห์ จากนั้นค่อยกลับมาสู้กันต่อ การพักเบรคก็เหมือนเป็นการได้รีสตาร์ทกลายๆ หวังว่าทีมจะไปพักและกลับมาอย่างแข็งแกร่ง เรียกฟอร์มต่อเนื่อง(หรือดีกว่าเดิม) ในช่วงที่ผ่านมาได้ 

โอกาสยังเปิดกว้าง ชัยชนะแบบเกมนี้แหละคือสิ่งที่เราต้องทำมันให้ได้อย่างสม่ำเสมอ และอย่าดูถูกว่า "ชนะแค่ลูตัน"

ก็ยุคป๋าที่คว้าแชมป์กันมา มันก็มีพื้นฐานมาจากความสม่ำเสมอในการตบเด็ก ชนะทีมเล็กๆเหล่านี้ให้แน่นอนนี่แหละ ถึงคว้าแชมป์กันมาได้ ขอแค่ยูไนเต็ดทำแบบนี้ให้ได้บ่อยๆ เชื่อว่าผลลัพธ์ของมันจะดีกับเราแน่นอน

เชียร์กันต่อไปครับ ฤดูกาลนี้ยังอีกยาวไกล

#BELIEVE

-ศาลาผี-


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด