:::     :::

"จตุรมิตร"มนต์ขลังในยุคศตวรรษที่ 21

วันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน 2566 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
639
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ปิดฉากไปแล้วสำหรับ จตุรมิตร ครั้งที่ 30 ซึ่งเมื่อวันเสาร์ที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา กรุงเทพคริสเตียน เสมอกับ สวนกุหลาบ ไปแบบสนุก 0-0 ทำให้ทั้งสองสถาบันต่างคว้าแชมป์ร่วมกันในหนนี้

เท่ากับว่า สวนกุหลาบ ทำสถิติเป็นแชมป์เดี่ยว 6 ครั้ง แชมป์ร่วม 8 ครั้ง ขณะที่ กรุงเทพคริสเตียน แชมป์เดี่ยว 4 ครั้ง แชมป์ร่วม 10 ครั้ง แต่นอกจากเรื่องนัดชิงแล้ว จตุรมิตร หนนี้ยังมีอะไรให้น่าพูดถึงอยู่อีกมากมาย

เพราะเหมือนเป็นความอัดอั้นของทุกคน หลังจากที่เว้นวรรคเพื่อพักการแข่งขันไปนานร่วม 4 ปีเต็ม จากวิกฤติโควิด-19 ส่วนจะมีอะไรที่น่าติดตามแบบทันโลกกันบ้าง บอกเลยว่าประทับใจแน่นอน


1. พลังศิษย์เก่าล้นหลามเช่นเคย

แน่นอนว่า “จตุรมิตร” คือถ้วยที่รวมตัวศิษย์เก่าของทั้ง 4 สถาบัน หากนับเฉพาะคนในวงการฟุตบอลไทยก็ไปกันเพียบ อย่าง กรุงเทพคริสเตียน ก็มีทั้ง “โค้ชวัง” ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล, “โค้ชอู๊ด” สระราวุฒิ ตรีพันธ์, “โค้ชหมี” รักษ์พล สายเนตรงาม เฮดโค้ชฟุตซอลทีมชาติมาเลเซีย ฯลฯ

ฝั่งของ สวนกุหลาบ มีแข้งทีมชาติไทย ชุดใหญ่ มาร่วมเชียร์ด้วย ทั้ง จักพัน ไพรสุวรรณ แนวรับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, อดิศร พรหมรักษ์ กองหลัง ราชบุรี เอฟซี และ ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร จาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด นอกจากนี้ "ป๋าวัน อยู่บำรุง" ก็ยังมาร่วมเชียร์สถาบันเก่าด้วย

ขณะที่ เทพศิรินทร์ แม้ว่าดาวเตะ “ปราสาทสายฟ้า” อย่าง พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี จะไม่สามารถมาได้เหมือนทุกครั้ง เพราะติดซ้อมกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แต่ก็ยังลงสตอรี่ตามเชียร์เหมือนทุกครั้ง เช่นเดียวกับ “พี่เต๋า” สมชาย เข็มกลัด ก็มาร่วมโบกธงให้กำลังใจน้องๆข้างสนาม


2. การแปรอักษรให้กำลังใจ

ในรอบชิงชนะเลิศมีการแปรอักษรเป็นภาพที่ให้กำลังใจกับ "คุณหมอกฤตไท" ซึ่งเป็นศิษย์เก่าของ สวนกุหลาบ รุ่น 131 เจ้าของเพจ "สู้ดิวะ" ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ทุกคนต่างทำภาพของคุณหมอออกมาบนอัฒจันทร์เชียร์ของตัวเอง พร้อมกับปรบมือให้กำลังใจ

โดยในรายละเอียดนั้นก่อนแข่งราว 1 วัน เพจ "นักเกรียน สวนกุหลาบ" ได้ระบุเอาไว้ว่า "ชาวสวนกุหลาบจะปรบมือให้น้องกฤตไท ในฟุตบอลคู่ชิงชนะเลิศ  ในนาทีที่10 ของการแข่งขัน (น้องเกิดวันที่10)  โดยเริ่มจากปรบมือในนาทีที่ 9 เมื่อถึงนาทีที่ 10 ก็จะตะโกน สู้ดิวะ ทั้งหมด 10 ครั้ง"

และเมื่อถึงวันแข่งไม่ใช่เพียงแค่ฝั่ง สวนกุหลาบ เท่านั้นที่ทำแบบนี้ออกมา แต่ทั่วทั้งสนามศุภชลาศัย ไม่ว่าจะเป็น กรุงเทพคริสเตียน, เทพศิรินทร์ และ อัสสัมชัญ ก็ส่งกำลังใจด้วยการทำแบบนี้ ซึ่งเป็นอีก 1 โมเมนต์สำคัญที่ทุกคนร่วมแรงกันทำออกมา ส่งพลังใจให้กับ  "คุณหมอกฤตไท" อย่างแท้จริง


3. แจ้งเกิดดาวรุ่งหลายคน

หลังอัดอั้นมา 4 ปี นักเตะทั้ง 4 สถาบัน ลงไปปล่อยของในสนาม จนมีดาวรุ่งแจ้งเกิดมากมาย ซึ่งต้องขอกล่าวถึง 2 นักเตะยอดเยี่ยมจากรายการนี้ คนแรก คือ วิชั่น อินอร่าม นักเตะลูกครึ่งไทย-ไนจีเรีย จากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ซึ่งเป็นหนึ่งในผลผลิตจากโครงการ ซีพี สานฝัน...ปันโอกาส “ปั้นเยาวชนเข้าสโมสรฟุตบอลอาชีพ รุ่น 2” 

เขาลงมาเล่นเกมรับได้อย่างแข็งแกร่ง อ่านเกมขาด เก็บลูกกลางอากาศได้เรียบ เป็นที่กล่าวถึงอย่างมากในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนอีกคนเป็นนายด่านจอมหนึบนามว่า กวิน  พิทักษ์สาลี จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ซึ่งตลอด 4 เกมในรายการนี้ของเขา ทำให้เห็นปฏิกิริยาที่ว่องไว สปริงข้อเท้าที่ยอดเยี่ยม สมแล้วที่ทั้งคู่มีชื่ออยู่ในทีมชาติไทย ยู 20 ชุดเก็บตัวที่ จ.บุรีรัมย์

นอกจากนี้ยังแจ้งเกิดอีกหลายคนเหมือนกัน ทั้ง ปณิธิ เสนาภักดิ์ จากอัสสัมชัญ, ธันวา หงษ์เวียงจันทร์ ของเทพศิรินทร์, สุรชัย บุญชารี แห่งกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และ กีรติ คำแปง จากสวนกุหลาบวิทยาลัย ซึ่งทั้งหมดได้รับรางวัลกีฬาดีเด่น ในจตุรมิตรสามัคคี ครั้งที่ 30 อีกด้วย


4. ยกระดับการแข่งขันใช้เปาฟีฟ่า

ถือว่าเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ยกระดับตัวเองขึ้นมายิ่งกว่าคำว่าฟุตบอลระดับนักเรียนอย่างมากทีเดียว เพราะตลอดทั้งรายการพวกเขาใช้ผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ในไทยลีก 1 รวมทั้งคนที่เป็นเชิ้ตดำระดับฟีฟ่า มาทำหน้าที่ด้วย นำมาโดย กระบี่มือต้นๆ ของวงการนกหวีดในบ้านเราเวลานี้อย่าง สงกรานต์ บุญมีเกียรติ

เขาคนนี้ถูกจารึกในตักศิลาของวงการเชิ้ตดำบ้านเราว่า เป็นผู้ตัดสินชาวไทย รายที่ 3 ที่ได้เลื่อนขั้นไปในระดับ AFC Elite ในตอนนี้ ต่อจาก ศิวกร ภูอุดม และ มงคลชัย เพชรศรี ซึ่งได้ทำหน้าที่อันทรงเกียรติ ด้วยการเป่ารอบชิงชนะเลิศระหว่าง กรุงเทพคริสเตียน พบ สวนกุหลาบ

อีกคนก็คือ วิวรรธน์ จำปาอ่อน ผู้ตัดสินฟีฟ่า ที่มีแมตช์เป่าเมื่อไหร่ฝนจะเทลงมาทุกที ซึ่งครั้งนี้ยังคงเป็นอาถรรพ์ของเขาต่อไป ในรายอื่นๆที่มีก็เช่น ชัยฤกษ์ งามสม ซึ่งใครได้ดูก็คงเห็นอยู่ว่าผลงานเป็นอย่างไร และอีกคนที่สร้างความแปลกใจได้มากที่สุด คือ นที ชูสุวรรณ ที่เพิ่งพ้นโทษแบน 6 สัปดาห์ มาเป็นผู้ตัดสินที่ 4 ด้วย ในนัดชิงชนะเลิศ 

แม้จะปิดฉากอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ว่า จตุรมิตร ครั้งที่ 30 มีอะไรให้พูดถึงมากๆ โดยเฉาะการเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ของทั้ง 4 โรงเรียนแล้ว เรียกว่ามีครบทุกอย่าง จนได้รับเสียงชื่นชมไปทั่วประเทศไทย ... ขอคารวะเลยครับ


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด