:::     :::

สมควรแก่เวลา

วันจันทร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2566 คอลัมน์ ฉันดูบอลที่ร้านเหล้า โดย ดากานดา
3,101
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ไม่ว่าผลการแข่งขันในนัดที่ ทีมชาติไทย บุกไปเยือน สิงคโปร์ ในวันที่ 21 จะออกมาอย่างไร

แต่คนที่ต้องออกไปแน่ ๆ คือ มาโน โพลกิง

ผลงานที่น่าผิดหวังจากการพาทัพ “ช้างศึก” พ่าย ทีมชาติจีน คาบ้าน ในแบบที่ทำแฟนบอลไทย “หัวร้อน” ทั้งประเทศ ประตูสู่การเข้ารอบถัดไปในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกด่านถัดไปแทบถูกปิดลง

แม้ทางทฤษฎีจะแง้มโอกาสให้ “ฝันหวาน” ได้พอสังเขปก็ตาม

เมื่อนับรวมกับผลงานที่ผ่านมา ตัวเฮดโค้ชเองไม่ได้โชว์ให้เห็นถึงการแก้เกมที่น่าประทับใจ ปัญหาบอลสุดท้ายที่ไร้ไอเดียเข้าทำ ตีบตัน ไหนจะรูปแบบการป้องกันต่าง ๆ ในเกมรับ

การหยิบจับผู้เล่นที่โชว์ฟอร์มได้ดีกับสโมสรไปเล่นในตำแหน่งไม่คุ้นเคย หรือการดึงผู้เล่นที่แทบไม่มีเกมลงเล่นในลีกมาติดทีม

จริงอยู่ โค้ชแต่ละคนมีตำราใช้งานนักเตะที่แตกต่างกันไป ตรงนี้ไม่เถียง ทว่าเมื่อ “ผลลัพธ์” ออกมาไม่น่าประทับใจ คนเป็นโค้ชย่อมต้องรับผิดชอบไปเต็ม ๆ อย่างไร้ข้อแก้ตัว

แชมป์อาเซียน 2 สมัย ที่กอดแนบไว้ข้างกาย ถึงวันนี้ไม่ใช่ “บัตรผ่าน” ให้เขาได้ทำงานต่อในฐานะเฮดโค้ชทีมชาติไทยอีกต่อไป

มาโน มีเวลากับทีมชุดนี้มานานพอแล้ว




ที่ผ่านมาความ “ว่านอนสอนง่าย” เป็นฝรั่งที่ซึมซับนิสัยไทยสไตล์ อยู่เป็นเย็นได้ คือส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่มาอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงมีแฟนบอลบางกลุ่มที่ยังรักและให้โอกาสตัวเขา

แต่หลังจากเกมพ่าย จีน ความไว้เนื้อเชื่อใจที่คนกลุ่มนี้เคยมอบให้กับ มาโน ได้หมดไปแล้ว

เช่นเดียวกันกับผู้ใหญ่ในวงการฟุตบอลบางคน ที่มีหน้ามีตาในสังคม อยู่กับ “กระแส” เปราะบางต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ ซัพพอร์ต มาโน เสมอมา แต่เมื่อวันนี้แฟนบอลเกือบทั้งหมด สื่อมวลชน อินฟูลเอนเซอร์ ที่เคยอวยคมชม มาโน ต่างคอมเมนต์เป็นเอกฉันท์ว่า มาโน คือคนที่ไม่ใช่ การจะทำตัวสวนกระแสลมลูกหนัง อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ถูก

จริงอยู่ว่าการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ ไม่มีใครการันตีได้ว่า กุนซือที่มาใหม่จะพลิกฟ้าพา ทีมชาติไทย เข้ารอบต่อไปได้ หรือจะทำผลงานได้ดีกว่า มาโน หรือไม่

แต่การกล้าที่จะเปลี่ยน ก็อาจดีกว่า “การไม่ยอมทำอะไรเลย”




อย่างน้อยหลังจบเกม สิงคโปร์ หากผู้ใหญ่ที่มีอำนาจตัดสินใจ รีบเดินเกมเฟ้นหาโค้ชคนใหม่โดยเร็ว เราจะมีเวลา 3-4 เดือนให้กุนซือคนต่อไปเข้ามาแก้ไขการบ้าน ทำความรู้จักนักเตะไทย ก่อนลงเล่นกับ เกาหลีใต้ 2 เกมในเดือน มี.ค. ปีหน้า

ที่สำคัญการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ขอให้คัดเลือกอย่างละเอียด คนลูกหนังช่วยกันระดมหัว ประเมินอย่างถี่ถ้วนว่าโค้ชสไตล์ไหนเหมาะสมกับฟุตบอลไทย และทรัพยากรลูกหนังที่มีอยู่

แฟนบอลไทยต้องการโค้ชมากประสบการณ์ แข็งกร้าว ดุดัน บ้างไม่เป็นไร แค่ขอเข้ามาช่วยยกระดับ โครงสร้าง ทีมชาติไทย ในระยะยาวก็พอ

ขมวดให้สั้น ๆ คือ แฟนบอลชั่วโมงนี้ต้องการโค้ชทีฝีมือมากกว่า “โค้ชในครอบครัว”

ส่วน มาโน ผู้เขียนหวังว่าเขาจะทิ้งทวนเก้าอี้ทีมชาติที่นั่งมานาน ด้วยผลการแข่งขันที่ดีในเกมเยือน สิงคโปร์

ก่อนจะส่งไม้ต่อให้โค้ชคนต่อไป…


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด