:::     :::

เรื่องหลังบ้าน อาร์เซน่อล

วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน 2566 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
1,112
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
สำหรับ อารอน แรมส์เดล

ย้ายมาร่วมทีมอาร์เซน่อล ในซัมเมอร์ปี 2021 พร้อมกับก้าวมายึดตำแหน่งผู้รักษาประตูมือ 1 ของทีม จากนั้น แรมส์เดล สร้างผลงานอย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะซีซั่น 2022-23 ที่ผ่านมา เขาพาอาร์เซน่อล จบอันดับ 2 ของตาราง


แฟนบอลหลายคนมองตรงกันว่า แรมส์เดล ในวัย 25 ปี น่าจะยึดตำแหน่งนายทวารตัวหลักของพลพรรค “เดอะ กันเนอร์ส” ไปอีกยาวนาน นอกจากการเซฟประตู ในจังหวะสำคัญแล้ว เขายังมีการเปิดบอลด้วยเท้า และการบิวท์อัพเกมที่น่าสนใจ


แต่แล้ว ฤดูกาล 2023-24 เกิดเรื่องน่าประหลาดใจขึ้น เมื่อกุนซือของทีมอย่าง “มิเกล อาร์เตต้า” ตัดสินใจทำบางสิ่งบางอย่าง ในตำแหน่งนายทวาร นั่นคือยืมตัว “ดาบิด ราย่า” ผู้รักษาประตูฝีมือดี จากเบรนท์ฟอร์ด เพื่อเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่


การตัดสินใจของอาร์เตต้า ก่อเกิดเครื่องหมายคำถามตามมาเหมือนกัน โดยเฉพาะการที่เขามีผู้รักษาประตูฝีมือดีออย่างแรมส์เดล อยู่แล้ว เสียงแฟนบอลแตกออกมาเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกมองว่า ทีมจะได้เกิดการแข่งขันในตำแหน่งนายทวาร ส่งผลดีต่อผลงานโดยรวมของทีม


ส่วนที่ 2 มองว่า นี่อาจจะส่งผลกระทบต่อเชิงจิตวิทยา รวมถึงความมั่นใจ โดยเฉพาะแรมส์เดล ที่ถูกท้าทายตำแหน่งนายด่านมือ 1 ช่วงนี้ เราลองไปดูกันหน่อยว่า การที่อาร์เซน่อล มีทั้ง แรมส์เดล และราย่า ในการช่วงชิงตำแหน่งตัวจริง ส่งผลกระทบในแง่ใดบ้าง 


อาร์เตต้า ออกมาบอกว่า สาเหตุที่เขาเลือกคว้าราย่า มาร่วมทีมแบบยืมตัว (มีออปชั่นซื้อขาด) เพราะอยากให้เกิดการโรเตชั่น และการแข่งขันที่เข้มข้น แม้หลายคนมองว่า ผู้รักษาประตูไม่ควรเกิดความเปลี่ยนแปลงโดยฉับพลัน หากเจ้าของมือ 1 เดิมสามารถทำผลงานได้ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว 


อาร์เตต้า กล่าวว่า “ทำไมผมจะทำแบบนั้นไม่ได้ (โรเตชั่น แรมส์เดล -ราย่า) ในเมื่อเรามีผู้รักษาประตูคุณภาพแบบเดียวกันทั้ง 2 คน  ไม่ว่าจะเป็นแรมส์เดล หรือราย่า พวกเขาต้องลงไปเฝ้าเสา และทำเพื่อทีม โดยไม่ต้องคำนึงถึงการแข่งขันส่วนบุคคล”


แม้อาร์เตต้า ออกมาบอกแบบนั้น แต่ตำนานของอาร์เซน่อล อย่าง “เธียร์รี่ อองรี” กลับมองในมุมที่แตกต่างออกไป อองรี บอกว่า การที่อดีตต้นสังกัดของเขาดึงตัวราย่า มาเฝ้าเสา ถือเป็นอะไรที่มากกว่าการโรเตชั่น แบบที่อาร์เตต้า กำลังบอกอย่างแน่นอน 


โดยกล่าวว่า “สำหรับผมแล้ว มันไม่เกี่ยวกับการสลับหมุนเวียน ผมไม่คิดว่าอาร์เตต้า ต้องการโรเตชั่น โดยที่อาร์เตต้า ค้นหาผู้รักษาประตู ที่ตัวผม และเขาคิดว่า ต้องพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก สำหรับผมมองแล้วว่า ไม่มีการโรเตชั่น ที่อาร์เซน่อล หากย้อนเวลากลับไปแล้ว แบรนด์ เลโน่ ก็เคยผ่านเรื่องเดียวกัน”


ตอนที่แรมส์เดล ย้ายมาร่วมทีม อาร์เตต้า ต้องการผู้รักษาประตูที่สามารถพาทีมก้าวขึ้นไปท็อปโฟร์ อาร์เตต้า มองว่า ราย่า เป็นคนที่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้ นั่นคือเหตุผลที่เขาเลือกส่งราย่า ลงเฝ้าเสา” อองรี กล่าวทิ้งท้าย 


จากการบันทึกสถิติ ราย่า เป็นผู้รักษาประตูที่เซฟมากที่สุด ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่ผ่านมา ที่จำนวน 154 ครั้ง ช่วยให้เบรนท์ฟอร์ด จบอันดับที่ 9 ขณะที่แรมส์เดล เซฟให้กับอาร์เซน่อล 95 ครั้ง พร้อมกับมีการเซฟสำเร็จ 68.6 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ราย่า ทำได้ 77 เปอร์เซ็นต์


เราต้องมองด้วยความเป็นธรรม แรมส์เดล ลงเล่นให้กับทีมที่มีสถิติการป้องกันที่ดีที่สุดเป็นอันดับ 3 ในพรีเมียร์ลีก ขณะที่เบรนท์ฟอร์ด ต้องเผชิญกับการโดนยิงตลอดทั้งฤดูกาล มากกว่าทีมอาร์เซนอล ที่เป็นทีมที่เน้นการครองบอล 


กระนั้น อาร์เตต้า เน้นย้ำถึงความสำคัญ สำหรับการมีผู้รักษาประตูที่สามารถช่วยสร้างผลงานจากแดนหลังผลงานผ่ายบอลของแรมส์เดล ในซีซั่นที่ผ่านมา ไม่ได้แย่แต่อย่างใด เนื่องจากเขาจ่ายบอลสำเร็จ 1,276 ครั้ง โดยที่ 572 ครั้งเป็นการจ่ายขึ้นหน้า


แรมส์เดล สมควรได้รับเครดิตทั้งหมด ในการช่วยให้อาร์เซน่อล เบียดกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก จนถึงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จากตัวเลขแสดงให้เห็นว่า ราย่า ถือว่ามีอิทธิพลกับเบรนท์ฟอร์ด มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด 


ซึ่งฤดูกาลที่ผ่านมา ราย่า ผ่านบอลสำเร็จรวม 1,475 ครั้ง และการจ่ายขึ้นหน้ามากถึง 1,047 ครั้ง  นอกจากนี้ ราย่า ยังสัมผัสบอลเหนือแรมส์เดล มากกว่า 600 ครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ราย่า มีส่วนร่วมกับบอลมากกว่า 

นอกจากนี้ ราย่า ยังคงทำได้ดีกว่า ทั้งในแง่ของการออกมาตัดบอลจากลูกเตะมุม และลูกครอสของคู่แข่ง 


อาร์เซนอล เริ่มต้นฤดูกาล 2023-24 ได้อย่างน่าประทับใจ แม้ว่าแรมส์เดล จะยังครองตำแหน่งเบอร์ 1 โดยพวกเขาคว้าชัยชนะเหนือ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์, คริสตัล พาเลซ รวมถึงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างไรก็ตาม พวกเขากลับทำคะแนนหล่นไป 2 แต้มในเกมเหย้ากับฟูแล่ม คู่แข่งร่วมกรุงลอนดอน


หากเจาะลึกไปที่เกมกับฟูแล่ม สื่อทำการวิเคราะห์ว่า แรมส์เดล เผยให้เห็นถึงปัญหา นั่นคือการตัดสินใจออกมาเล่นห่างจากหน้าปากประตู รวมถึงการตัดสินใจกระโดดออกมาตัดบอล จากจังหวะเตะมุม และการเปิดจากด้านข้างของคู่แข่งด้วย 


สื่อมองว่า ความไม่สม่ำเสมอของแรมส์เดล ทำให้เขามีโอกาสลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ เพียงแค่ 4 เกมเท่านั้น สื่อวิเคราะห์ต่อไปว่า ราย่า ดูเหมือนมีความมั่นใจมากกว่าเยอะพอสมควร โดยเฉพาะความเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่ 


ราย่า เคยกล่าวในพิธีเปิดตัวกับอาร์เซน่อล ว่า “แนวทางการเล่นของทีมเหมาะกับตัวผม ทั้งการเริ่มต้นจากแดนหลัง, ความมั่นใจ และการครองบอล” นอกจากนี้ ราย่า ยังพร้อมท้าทายตำแหน่งนายทวารมือ 1 อย่างไม่กลัวเกรง โดยกล่าวว่า “ถ้าแรมส์เดล กลับมา เขาจะต้องต่อสู้เพื่อทีม และคว้าชัยชนะ"


นี่คือคำพูดที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ พร้อมกับบ่งบอกว่า ราย่า พร้อมแล้วในการแย่งตำแหน่งตัวจริง ในทางกลับกัน คำพูดดังกล่าว สามารถเพิ่มความสงสัย ที่อาจเกิดขึ้นในใจของแรมส์เดล ในเรื่องสถานะของเขากับทีม


แรมส์เดล เพิ่งผ่านฤดูกาลที่ดีที่สุดในชีวิต พร้อมได้รับสัญญาฉบับใหม่กับอาร์เซนอล ทำให้เขาจะอยู่กับทีม จนถึงปี 2026 อย่างไรก็ตาม เพียงแค่ 6 เดือนต่อมา อนาคตของเขาที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ก็ดูไม่มีอะไรแน่นอนอีกแล้ว 


หากราย่า ออกสตาร์ทตัวจริงอย่างต่อเนื่อง แรมส์เดล อาจต้องเลือกเดินในเส้นทางทางสายอื่น อย่าลืมว่า แรมส์เดล ต้องเล่นฟุตบอลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความหวังว่า สักวันหนึ่ง เขาจะแย่งจอร์แดน พิคฟอร์ด ขึ้นเป็นมือ 1 ของทีมชาติอังกฤษ


จากรายงานของ “เดลี่ เมล” เชลซี และบาเยิร์น มิวนิค คือทีมที่ต่างจับตาดูสถานการณ์ของแรมส์เดล โดยคาดว่าจะมีโอกาสเข้ามาในตลาดหน้าหนาว มีความเป็นไปได้ ที่แรมส์เดล จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งหมายเลข 1 ในทีมเชลซี ที่ฟอร์มการเล่นกำลังระส่ำ


กระนั้น เขาคงโดนความกดดันเล่นงานจากบรรดาแฟนบอลอาร์เซน่อล ที่ถือเป็นคู่ปรับร่วมกรุงลอนดอนกับ “สิงโตน้ำเงินคราม” ขณะที่ บาเยิร์น มิวนิค ต้องการผู้รักษาประตูคนใหม่ การที่มี แฮร์รี่ เคน เพื่อนร่วมทีมทีมชาติอังกฤษ ถือว่าเป็นตัวช่วยของแรมส์เดล ในการปรับตัว


พลพรรค “เสือใต้” กำลังมองหาตัวแทนระยะยาวของ มานูเอล นอยเออร์ มาสักระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากทางนอยเออร์ ต้องเผชิญกับการต่อสู้ที่แท้จริง เพื่อกลับลงสนามอีกหน หลังจากขาหัก จากอุบัติเหตุทางสกี ดังนั้น โอกาสที่แรมส์เดล ย้ายไปร่วมทีมของโธมัส ทูเคิ่ล มีเปอร์เซ็นต์ที่สูงอย่างแน่นอน หากทีมแชมป์บุนเดสลีกา สามารถบรรลุข้อตกลงได้ในปี 2024

ผลสุดท้าย อาร์เตต้า รู้ดีว่าเขาไม่สามารถมีฤดูกาลที่ไร้ถ้วยรางวัลต่อไปได้ อาร์เซนอล มีความก้าวหน้า หลังจากเขาถูกแต่งตั้ง ในเดือนธันวาคม 2019 กระนั้น ถ้วยแชมป์เอฟเอ คัพ หนึ่งรายการ แสดงถึงผลตอบแทนที่เล็กน้อยในแง่ของถ้วยรางวัลที่จับต้องได้


หลังจากเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว พลพรรค “เดอะ กันเนอร์ส” ควรมีความพร้อม ทั้งทางร่างกาย และจิตใจที่มากขึ้น หากเปรียบเทียบกับฤดูกาลที่ผ่านมา อาร์เตต้า มีทีมที่แข็งแกร่งมากขึ้น โดยเฉพาะซูเปอร์สตาร์ที่เข้ามาสู่ทีม  


พวกเขาได้เซ็นสัญญากับเดแคลน ไรซ์, ไค ฮาเวิร์ตซ์ และยูร์เรียน ทิมเบอร์ ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ราย่า คือชิ้นส่วนสุดท้าย เนื่องจากอาร์เตต้า มองแล้วว่า อาร์เซน่อล ยังมีพื้นที่ที่ต้องปรับปรุงในตำแหน่งผู้รักษาประตู อาร์เซน่อล มีตัวเลือกในการซื้อราย่า ทันที ในสนนราคา 27 ล้านปอนด์  ในช่วงซัมเมอร์หน้า 


คงจะเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก หากอาร์เซน่อล ไม่ซื้อตัวราย่า เข้ามาร่วมทีมถาวร สื่อต่างประเทศ วิเคราะห์ต่อว่า ราย่า เตรียมก้าวมาเป็นมือ 1 อย่างถาวร และเป็นเรื่องน่าเสียดายที่แรมส์เดล อาจต้องนั่งดูเกมใหญ่ๆ บนม้านั่งสำรอง


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด