:::     :::

เทียบประสิทธิภาพ'เคน-เลวาน'

วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน 2566 คอลัมน์ เล่าเก่าก้าวใหม่ โดย Latino
2,767
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
แฮร์รี่ เคน ใช้เวลาไม่นานนักในกา่รสร้างชื่อกับ บาเยิร์น มิวนิค และมีโอกาสทำลายสถิติยิงมากสุดในฤดูกาลเดียวของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ อดีตดาวยิงทีมเสือใต้ที่ย้ายมาเล่นกับ บาร์เซโลน่า ในปัจจุบัน

แฮร์รี่ เคน กำลังเติมเต็มช่องว่างที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ทิ้งไว้กับ บาเยิร์น มิวนิค นับตั้งแต่ดาวยิงทีมชาติโปแลนด์ย้ายไปค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ในช่วงซัมเมอร์ปี 2022 หลังหัวหอกชาวอังกฤษกระทุ้ง 17 ประตูจากการลงเล่นบุนเดสลีกา 11 เกม โดยยิง 21 ประตูจากการลงสนามทุกรายการ 16 นัด 

ไล่จากยอดดาวยิงของทีมดังแคว้นบาวาเรียในอดีตอย่าง แกร์ด มุลเลอร์, คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้, โจวานนี่ เอลแบร์, มิโรสลาฟ โคลเซ่, ลูก้า โทนี่ และ มารีโอ โกเมซ ต่างเป็นรายชื่อคนทำประตูที่โดดเด่นของ บาเยิร์น มิวนิค และเจ้าของรางวัลดาวซัลโวบุนเดสลีกายังมีอีกหลายคน

ประวัติศาสตร์อันรุ่งเรืองของ บาเยิร์น มิวนิค มักจะเชื่อมโยงกับกองหน้าเก่งที่สุดในยุคนั้นๆเสมอ และการสร้างประวัติศาสตร์ล่าสุดและโดดเด่นเป็นพิเศษคือ เลวานดอฟสกี้ ที่สร้างผลงานประวัติการณ์หลังการกระทุ้ง 41 ประตูจากการลงเล่นบุนเดสลีกาซีซั่น 2020-2021 ทำลายสถิติที่อยู่มาอย่างยาวนานของ แกร์ด มุลเลอร์ ที่เคยยิง 40 ประตูในฤดูกาล 1971-1972

เลวานดอฟสกี้ เคยเล่นกับ บาเยิร์น มิวนิค นาน 8 ฤดูกาล ตลอด 12 ประตูในบุนเดสลีกาเมื่อรวมกับช่วงเวลาของเขาที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยิงรวมกัน 312 ประตู มีเฉพาะ มุลเลอร์ เท่านั้นที่ยิงมากกว่าเขา หลังการกด 365 ประตูในลีกสูงสุดของเมืองเบียร์

หัวหอกชาวโปลเคยเป็นคนทำประตูสูงสุดของบุนเดสลีกาไม่ต่ำกว่า 7 ครั้ง หลังการจากไปของเขาในช่วงซัมเมอร์ปี 2022 ทำให้ บาเยิร์น มิวนิค ปราศจากผู้เล่นหมายเลข 9 แบบคลาสสิค ก่อนการมาถึงของ เคน ในอีกหนึ่งปีถัดมา


กองหน้ากัปตันทีมชาติอังกฤษเป็นผู้เล่นที่มีดีกรีสมน้ำสมเนื้อในฐานะผู้เล่นหมายเลข 9 คนใหม่ของ บาเยิร์น มิวนิค หลังการคว้ารางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก 3 สมัยกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และยังคว้ารางวัลดาวซัลโวของศึกฟุตบอลโลกเมื่อปี 2018 ก่อนทีมเสือใต้จะจ่ายเงินเป็นประวัติการณ์เพื่อเซ็นสัญญากับหัวหอกวัย 30 ปี

'ปีแรกจะไม่ง่ายสำหรับ เคน อย่างแน่นอน การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่' เลวานดอฟสกี้ กล่าวถึงกองหน้าคนใหม่ของทีมเสือใต้ก่อนหน้านี้ 'มันต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ บาเยิร์น' ก่อนอดีตดาวยิง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จะสร้างผลกระทบต่อทีมดังแคว้นบาวาเรียอย่างที่หลายคนคาดไม่ถึงอย่างรวดเร็ว แม้แต่ 'เลวาน'

เคน ทำ 17 ประตูจากการลงเล่น 11 เกมแรกบนเวทีบุนเดสลีกา แซงหน้าผลงานของ เลวานดอฟสกี้ ที่เคยยิง 16 ประตูจากการลงสนามเท่ากันในฤดูกาล 2019-2020

'นี่คือการออกสตาร์ทดีที่สุดของผม' เคน กล่าวหลังการทำประตูแซงหน้าทั้ง คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู และ นิคลาส ฟึลล์ครุก เจ้าของดาวซัลโวร่วมของบุนเดสลีกาซีซั่นที่แล้วหลังการยิง 16 ประตู แต่หัวหอกทีมชาติอังกฤษลงเล่นเพียง 11 เกมและทำลายสถิติดังกล่าว

เคน ใช้เวลาเฉลี่ยเพียง 56.5 นาทีต่อการทำหนึ่งประตูบนเวทีบุนเดสลีกา และยังเปลี่ยนโอกาสสำคัญของเขาในการทำประตูถึง 84.6 เปอร์เซ็นต์ ดีกว่า เลวานดอฟสกี้ ที่ใช้เวลาเฉลี่ย 99.6 นาทีต่อการทำหนึ่งประตูและเปลี่ยนโอกาสสำคัญในการทำประตู 55.6 เปอร์เซ็นต์ 


แต่สถิติเหล่านั้นควรนำมาพิจารณาเพียงเล็กน้อย เนื่องจาก เคน เพิ่งเล่นในเยอรมนีเพียงไม่กี่สัปดาห์ ขณะที่ เลวานดอฟสกี้ มาถึงบุนเดสลีกาตั้งแต่อายุ 22 ปีและค้าแข้งในลีกเมืองเบียร์ยาวนานถึง 12 ฤดูกาล

ผ่านมาจนถึงตอนนี้ เคน ยิงด้วยเท้าขวาไปแล้ว 12 ประตู คิดเป็น 70.6 เปอร์เซ็นต์ และ 4 ประตูจากการโหม่ง คิดเป็น 23.5 เปอร์เซ็นต์ โดยมีเพียงประตูเดียวที่มาจากเท้าซ้ายข้างไม่ถนัด คิดเป็น 5.9 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

ขณะที่ เลวานดอฟสกี้ ทำ 53 ประตูจากเท้าซ้ายข้างไม่ถนัด คิดเป็น 17 เปอร์เซ็นต์ กองหน้าชาวโปลยังโหม่งทำ 49 ประตู คิดเป็น 15.7 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น เคน จึงถือเป็นภัยคุกคามเกมป้องกันคู่แข่งจากการเล่นลูกตั้งเตะทั้งฟรีคิกและเตะมุม ในขณะที่ เลวานดอฟสกี้ อันตรายกว่าในจังหวะโอเพ่นเพลย์ 

กองหน้าดาวดังทั้งสองคนมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกันประมาณ 94 เปอร์เซ็นต์จากการทำประตูในกรอบเขตโทษ ส่วนการยิงจากนอกเขตโทษเป็นผลงานที่หายากสำหรับทั้งคู่ โดย เคน ทำหนึ่งประตูจากนอกเขตโทษในเกมกับ ดาร์มสตัดท์ หลังการเห็น มาร์เซล ชูเฮน นายทวารคู่แข่งออกมาไกลจากเส้นประตู ก่อนกองหน้าทีมชาติอังกฤษจะยิงไกลจากวงกลมกลางสนาม 

ตลอดอาชีพของ เคน ทำประตูจากระยะไกล 18 ครั้งและมาจากการยิงฟรีคิก 4 ประตู


แม้ทั้ง เลวานดอฟสกี้ และ เคน จะทำประตูจำนวนมากในพื้นที่โจมตี แต่พวกเขาไม่ใช่กองหน้าที่รอจบสกอร์จากการทำงานหนักของคนอื่นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น พวกเขาต่างเป็นกองหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเล่นแบบต่อเนื่อง บางครั้งอาจถอยลงต่ำเพื่อช่วยกระตุ้นการโจมตีของทีม ทั้งคู่ต่างครองบอลได้ดี และสามารถนำคนอื่นๆได้โดยเฉพาะตัวริมเส้นที่เล่นเคียงข้างพวกเขา

อย่างไรก็ตามมีความแตกต่างกันเล็กน้อยระหว่างกองหน้าทั้งสองคน โดย เลวานดอฟสกี้ เอาชนะคู่แข่งในการดวลกลางอากาศกับคู่แข่งเหนือกว่า เคน ระหว่าง 41 เปอร์เซ็นต์ต่อ 37.8 เปอร์เซ็นต์ กองหน้าดาวโปลยังสัมผัสบอลเฉลี่ยต่อเกมมากกว่า 39.2 เปอร์เซ็นต์ต่อ 33.8 เปอร์เซ็นต์ และจ่ายบอลต่อเกมระหว่าง 23 ต่อ 21 ครั้ง 

จากการลงเล่น 11 เกมบนเวทีบุนเดสลีกาซีซั่นนี้ เคน ทำ 5 แอสซิสต์ เขาทำลายแนวป้องกันด้วยการจ่ายบอลลึก ซึ่งเป็นการผ่านบอลที่มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน โดยกองหน้าทีมชาติอังกฤษมีอัตราการผ่านบอลตามหลัง เลวานดอฟสกี้ ระหว่าง 73.2 เปอร์เซ็นต์ต่อ 76.2 เปอร์เซ็นต์ 

เคน ใช้เวลาเฉลี่ย 192.2 นาทีต่อการทำหนึ่งแอสซิสต์ ส่วน เลวานดอฟสกี้ ใช้เวลาเฉลี่ย 349.3 นาทีต่อการทำหนึ่งแอสซิสต์ จากการมีส่วนร่วมในการทำ 22 ประตูจากการลงเล่น 11 เกมของบุนเดสลีกา ถือเป็นสถิติดีสุดนับตั้งแต่มีการรวบรวมข้อมูลครั้งแรกในปี 1988


ทั้งคู่ต่างเป็นกองหน้าที่สมบูรณ์แบบ ทว่าแต่ละคนต่างมีมุมโปรดเป็นของตัวเอง เลวานดอฟสกี้ ทำ 62 ประตูจาก 312 ประตูในบุนเดสลีกาที่มุมล่างด้านขวา (ต่ำกว่า 20 เปอร์เซ็นต์) จนถึงตอนนี้ เคน ชื่นชอบการยิงมุมล่างด้านซ้ายหลังการยิงจุดนั้น 5 ครั้ง (ต่ำกว่า 30 เปอร์เซ็นต์) กองหน้าทีมชาติอังกฤษยิงได้น้อยกว่าครึ่งของประตูที่เขาทำได้จากการยิงเรียด (47 เปอร์เซ็นต์) ในขณะที่ เลวานดอฟสกี้ ทำได้ 61.5 เปอร์เซ็นต์

สเตฟเฟ่น ฟรอยด์ อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมนีชุดแชมป์ยูโร 1996 ซึ่งรู้จัก เคน เป็นอย่างดีตอนเป็นผู้ช่วยโค้ชของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในช่วงปี 2012-2014 กล่าวว่า 'เขามักจะทำงานพิเศษกับผู้ช่วยของเรา เคล็ดลับของผมคือพยายามอย่าคิดว่าคุณเก่งแล้วด้วยความเอาจริงเอาจัง 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่เสี่ยงเต็มที่ ควรเล็งไปที่ด้านในประตู ตรงเสา วางเท้ายิง แต่ใช้กำลังเพียง 90 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น'

มันดูเหมือนว่า เคน จะคำนึงถึงเรื่องนี้ โดย 10 จาก 17 ประตูบนเวทีบุนเดสลีกาของเขาจะเข้าด้านในเสา 58 เปอร์เซ็นต์ โดยกองหน้าชาวอังกฤษมีความแม่นยำกว่า เลวานดอฟสกี้ เล็กน้อย หลังการยิง 169 ประตู (54 เปอร์เซ็นต์) 

อย่างไรก็ตาม เคน ไม่ได้มีความเป็นนักกีฬาที่โดดเด่นเหมือน เลวานดอฟสกี้ เนื่องจากกองหน้าทีมชาติอังกฤษมีความเร็วช้ากว่า 32.47 กิโลเมตร/ชั่วโมง ต่อ 34.8 กิโลเมตร/ชั่วโมง แม้กองหน้าชาวโปลก็วิ่งน้อยกว่า แต่ประสบความสำเร็จในการเลี้ยงบอลมากกว่า 41 เปอร์เซ็นต์ต่อ 35.1 เปอร์เซ็นต์


เลวานดอฟสกี้ พยายามดวลกับคู่แข่งมากขึ้น ทำฟาวล์มากขึ้น และมีส่วนร่วมในการเผชิญหน้ากับคู่แข่ง เขาพัฒนาทักษะดังกล่าวนับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งในลีกเมืองเบียร์ และพัฒนาอย่างก้าวกระโดดเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงอายุ 31-33 ปีที่เขาทำ 34, 41 กับ 35 ประตูตามลำดับ

ส่วน เคน กำลังอยู่ในช่วงพีคของอาชีพค้าแข้ง และประสบการณ์ของกองหน้าทีมชาติอังกฤษยังมีส่วนช่วยให้เขาเริ่มต้นอย่างน่าเหลือเชื่อกับ บาเยิร์น มิวนิค ด้วยจำนวนประตูที่ทำไปแล้ว 17 เม็ด มันจึงอดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามว่าหัวหอกวัย 30 ปีจะสามารถลายสถิติ 41 ประตูของ เลวานดอฟสกี้ ได้หรือไม่ 

หาก เคน สามารถรักษาการทำประตูเฉลี่ยในปัจจุบันไว้ได้ (1.54 ประตูต่อเกม) อดีตกองหน้า ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จะทำได้ถึง 52 ประตูเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล แต่มีข้อแม้ว่าเขาจะไม่บาดเจ็บ ติดโทษแบน หรือเทรนเนอร์เลือกพักแข้งด้วยเช่นกัน

ทว่า เคน ยังไม่คิดไปไกลถึงการทำลายสถิติของ เลวานดอฟสกี้ โดยกล่าวว่า 'ผมต้องมีสมาธิ ผมต้องการทำประตูและช่วยทีมต่อไป (อย่างไรก็ตาม) ถ้าผมเข้าใกล้ (สถิติ) ในเดือนเมษายน ผมจะลองทำมันดู!'


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด