ถือเป็นชัยชนะสำคัญที่ทำให้ทีมยังคงเกาะกลุ่มส่วนบนของตารางคะแนนแม้ว่าผลงานไม่มีความแน่นอนก็ตาม แต่เกมที่ผ่านมานอกจากทำใฟ้แฟนบอลยิ้มออกยังเป็นการเรียกความมั่นใจได้พอสมควรในการปราบทีมอย่าง เชลซี 

ว่าไปแล้วรูปเกมตลอด 90 นาทีที่ออกมาถือว่าสูสีต่างฝ่ายต่างหาโอกาสได้มากมาย แต่เป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ฉวยโอกาสได้ดีกว่าทำสองประตูสำคัญจากผลงาน สกอตต์ แม็คโทมิเนย์

ฝั่ง สิงโตน้ำเงินคราม ใช่ว่าจะเป็นรองเพราะทีมเยือนมีโอกาสเข้าทำเยอะแต่ดันไม่เด็ดขาดกันเองหรือบางจังหวะบอลไม่เป็นใจทำให้ผลประโยชน์ตกอยู่กับฝั่งเจ้าบ้านที่โดนเจาะแค่ลูกเดียว

หาก เชลซี เด็ดขาดในจังหวะจบสกอร์มากกว่านี้หรือฉวยโอกาสได้ดีก็ไม่แน่ว่าบทสรุปสุดท้ายอาจจะออกมาแตกต่างจากที่เห็น

ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกอย่างเป็นใจให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ลงเอยคว้า 3 คะแนนสำคัญมานอนกอดและช่วยให้พวกเขาลืมความผิดพลาดจากเกมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

กระนั้นท่ามกลางรอยยิ้มก็ยังคงมีปัญหาให้เห็นโดยเฉพาะแนวรุกสุดทื่อไร้ความคม ดีที่ แม็คโทมิเนย์ ดันเข้าฟอร์มกลายมาเป็นคนแบกทีมอีกครั้ง

ต้องชมกองกลางชาวสกอตแลนด์ที่ให้เกมล่าสุดลงเอยด้วยชัยชนะ รวมถึงผลงานส่วนตัวดูดีทั้งการทำหน้าที่แดนกลางหรือแม้แต่จังหวะสอดเข้าเขตโทษที่สร้างความอันตรายได้ต่อเนื่อง

จุดหลังถือเป็นอาวุธเด็ดของ'สกอตตี้' ในซีซั่นนี้ เหมือนกับว่ากองกลางวัย 26 ปีเจอแนวทางของตนเองจากการลงเล่นให้สกอตแลนด์ก่อนนำมาปรับใช้กับสโมสรและกลายเป็นไม้เด็ดไปโดยปริยาย

เท่ากับว่า 5 ประตูในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ของกองกลางชาวสกอตแลนด์มีส่วนทำให้ทีมได้ถึง 9 คะแนน โดยเฉพาะเกมแซงชนะ เบรนท์ฟอร์ด (3-2) และล่าสุดที่เหมาสองในนัดดวล เชลซี

นับเป็นตลกร้ายของทีมที่ต้องให้นักเตะซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกมองข้ามและถูกตั้งคำถามมากมายมาเป็นคนแบกทีมในตอนนี้ แต่หากมองแง่ดีถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ยังพอมีคนฝากผีฝากไข้ในช่วงที่แนวรุกนัดกันตีนบอด

อีกหนึ่งหนุ่มที่ต้องกล่าวชมและกลายเป็นคนปิดทองหลังพระในนัดล่าสุดคือ โซฟียาน อัมราบัต ที่จัดการตัดเกมสวยๆ ได้หลายครั้งโดยเฉพาะในเวลาที่ เชลซี พยายามทะลุมาตรงกลาง

หากสังเกตจะเห็นว่ามิดฟิลด์โมร็อกโกจะเก็บกินหรือทำลายจังหวะได้เกือบหมดในพื้นที่ของตนเอง บีบให้ เชลซี ต้องขึ้นเกมทางขวาแทนในช่วงท้าย (ซึ่งอันตรายหวาดเสียวหลายครั้งแถมเกือบตีเสมอได้ด้วย)

เป็นเกมที่คู่มิดฟิลด์ทำผลงานได้ดีและเป็นฟันเฟืองสำคัญในการพาทีมคว้าชัยชนะมาครอง แน่นอนว่าคนอื่นๆ ทำได้ดีเช่นกันแต่ไม่โดดเด่นเท่า แม็คโทมิเนย์-อัมราบัต

ส่วน ปิศาจแดง ถือว่ากลับมาหายใจหายคอได้คล่องกว่าเดิมเล็กน้อยจากชัยชนะสำคัญนัดที่ผ่านมา และยังเป็นเรื่องดีที่ทำให้หลายคนยอมมองความความผิดพลาดที่เกิดขึ้น

แต่สำหรับ เอริก เทน ฮาก คงต้องนำกลับไปคิดอย่างถี่ถ้วนทั้งแนวรุกที่ฝืดสนิท  ไหนจะเกมป้องกันที่เปิดช่องมากมายซึ่งดีที่ เชลซี ทิ้งขว้างโอกาสไปเอง

หากเป็นทีมที่จบได้คมฉวยโอกาสได้ดีเชื่อว่าเกมในลักษณะนี้ ปิศาจแดง คงไม่ถูกเจาะตาข่ายแต่ 1-2 ประตูอย่างแน่นอน