แม้จะไม่ใช่เหตุการณ์น่าแปลกใจแต่ที่กลายเป็นเรื่องขบขันของทีมอื่นๆ คือการปราชัยคาบ้านแบบเละเทะ 0-3 ต่อ บอร์นมัธ ยิ่งทำให้สื่อหรือแฟนทีมอื่นๆ นำไปขยายความแบบสนุกสนาน

มีบ้างที่บางคนอาจเหนื่อยกับการล้อเลียน ปิศาจแดง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนับว่าเป็นการเปิดแผลของทีมอีกครั้งอย่างเจ็บแสบ

อย่างที่เคยเขียนมาหลายครั้งว่า ผีแดง ในซีซั่นนี้มีปัญหาทุกจุดตั้งแต่ประตูยันแดนหน้าเพราะทำผลงานได้ไม่ดี โดยเฉพาะการจบสกอร์ที่ไร้ความคมแทบสร้างความอันตรายใส่คู่แข่งไม่ได้เลย

หลายนัดที่นักเตะตำแหน่งอื่นๆ ต้องก้าวเข้ามาเป็นฮีโร่ แต่หากนัดไหนทำไม่ได้บทสรุปก็ลงเอยอย่างที่รู้ๆ กัน 

รวมถึงแนวรับที่ไม่มั่นคงพร้อมเสียตลอดเวลา บางเกมอาจไม่โดนเจาะหรือเสียน้อยกว่าที่ควรเป็นก็รอดตัวไป แต่หากนัดไหนเจอทีมที่คว้าโอกาสได้ดีจบสกอร์เฉียบคมก็พร้อมจะเละเทะได้เสมอ

เหมือนเกมล่าสุดในการรับมือ เดอะ เชอร์รี่ส์ ที่แสดงให้เห็นว่าเมื่อคู่แข่งจบสกอร์ได้เฉียบคมโดยที่ไม่ต้องขอโอกาสมากมายก็พร้อมเล่นงาน แมนฯ ยูไนเต็ด แบบยับเยิน

บอร์นมัธ แสดงให้เห็นสิ่งนั้นตั้งแต่จังหวะทำประตูแรกที่อาศัยการตัดบอลเปลี่ยนเกมเร็ว หรือแม้แต่จังหวะยิงชนเสาของ โดมินิก โซลันกี้ ก็มาจากจังหวะคล้ายๆ กัน 

นั่นคือแผนการที่ อันโดนี่ อีราโอล่า วางมาอย่างแยบยล เพราะอิงจากการให้สัมภาษณ์หลังจบเกมจะเห็นว่ากุนซือชาวสเปนรู้ถึงจุดอ่อนผีแดง อาศัยจังหวะเหล่านั้นเล่นงานแบบเจ็บแสบ รอให้ผู้เล่น ยูไนเต็ด จ่ายพลาดหรือประมาทกันเองแล้วค่อยโจมตีซึ่งมันได้ผลดีเป็นอย่างมาก

เกมที่ผ่านมา บอร์นมัธ ไม่ขออะไรมากมายเลย แค่รอให้มีจังหวะตัดบอลสวยๆ หรือมีพื้นที่ให้เข้าทำแค่แวบเดียวก็สามารถเล่นงาน แมนฯ ยูไนเต็ด จนพังพาบ

ต่างจาก ยูไนเต็ด ที่อาจจะครองบอลกดดันต่อเนื่อง แต่การขึ้นเกมเป็นไปในลักษณะเดิมๆ ไม่มีความไหลลื่นและมักจะเสียจังหวะเสมอเวลาออกริมเส้นไม่กล้าทะลุทะลวง หรือบางจังหวะที่หันหลังให้ประตูคู่แข่งไม่กล้าพลิกบอลโจมตี แถมบางทีต้องรอให้บางคนมาเป็นประธานตัดริบบิ้นรอทำเกมเสียก่อนถึงจะโจมตีได้ทำให้ทุกอย่างดูช้าไปหมดจน บอร์นมัธ ลงไปปิดกระชับพื้นที่จนหาช่องเจาะไม่เจอ

ยามที่ ยูไนเต็ด ทำเกมรุกขึ้นมาหลายคนคงรู้สึกคล้ายกันว่าไม่ได้มีความอันตรายใดๆ เลย หรืออาจคาดการณ์ไปล่วงหน้าแล้วว่าบทสรุปของจังหวะนั้นๆ จะลงเอยเช่นไร

ไม่แปลกที่การเข้าทำหรือการประสานงานในหลายๆ ครั้งจะเกิดคำถามในหมู่แฟนบอลว่า 'มีการซ้อมกันมาบ้างหรือไม่' เพราะสิ่งที่เห็นคล้ายกับว่านักเตะในสนามไม่เข้าใจกันและกันเลย บางจังหวะควรส่งกลับยิงเอง บางจังหวะควรยิงเองกลับมาส่ง หรือบางจังหวะควรพลิกเล่นเองดันคืนหลังแบบงงๆ 

ทุกอย่างที่กล่าวมาเป็นเรื่องเดิมๆ ที่บ่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าและยังไม่เห็นพัฒนาการที่ที่ดีขึ้นของทีม แถมที่ผ่านมาไม่ต่างจากการเลี้ยงไข้เดี๋ยวดีเดี๋ยวแย่สลับกันไปเช่นนี้มาตลอดจนไร้ความต่อเนื่อง

หลายคนพร้อมจะมองข้ามความผิดพลาดในวันที่ชนะจนลืมไปว่าปัญหาเหล่านั้นไม่ได้หายไปไหนเลย แค่รอวันปะทุออกมาเหมือนนัดล่าสุด 

ไม่ต้องแปลกใจหากเหตุการณ์อย่างนัดที่ผ่านมาอาจลากยาวไปยังเกมหน้าที่จะรับมือ บาเยิร์น มิวนิค วันอังคารนี้ แม้ เสือใต้ จะเข้ารอบ 16 ทีมแชมเปี้ยนส์ ลีก ไปแล้ว แต่ทีมเยือนดันแพ้ในลีกแบบยับเยินเลยทำให้กำลังหาที่ระบายอารมณ์

ไว้มาดูกันว่า ปิศาจแดง จะเป็นที่ระบายอารมณ์ของ บาเยิร์น อย่างที่หลายๆ คนคาดเดาไว้หรือไม่ หรือจะสามารถฟื้นตัวหาพื้นที่หายใจหายคอก่อนเกมเยือน แอนฟิลด์ สัปดาห์หน้า