นอกจากการเป็นกองกลางที่ขับเคลื่อนเกมด้วยมันสมอง และความสุขุมเยือกเย็น หนึ่งสิ่งที่กลายเป็นภาพจำของเขา นั่นคือการสวมรองเท้าสตั๊ดรูปแบบเดิมอย่างยาวนาน
อาจกล่าวได้ว่า วงการรองเท้าสตั๊ด ถูกหมุนไปอย่างไม่หยุดยั้ง ท่ามกลางกระแสของแฟชั่น -โครส ยังคงรักเดียวใจเดียวกับ “อาดิดาส 11 โปร” แน่นอนว่า โครส ยังคงจะสวมสีเดิม นั่นคือโทนสีขาว สลับกับเชือกสีฟ้า แม้ว่ารุ่น และสีดังกล่าว เลิกผลิตไปนานแล้ว (2014)
อย่างไรก็ตาม ค่าย “อาดิดาส” ยังคงที่จะออกแบบ และผลิตมาเป็นพิเศษ เพื่อโครส เพียงคนเดียวเท่านั้น “อาดิดาส อดิเพียว โปร” ที่ถูกผลิตออกมาให้กับโครส - แบรนด์อาดิดาส ยังคงรักษารูปลักษณ์, โครงสร้าง, วัสดุ และชุดพื้น เหมือนกับตัวคลาสสิค
มีเพียงแค่การแอบใส่เทคโนโลยีรูปแบบใหม่เข้าไปเล็กน้อย เพื่อให้โครส สวมใส่ด้วยความคุ้นชิน และสะดวกสบายมากที่สุด ไม่นานนี้ อาดิดาส ทำการรีเมครองเท้ารุ่นดังกล่าว โดยที่มาพร้อมกับรูปโฉมเดิม และเปลี่ยนแปลงเพียงในแง่ของเทคโนโลยี
นั่นคือการเติมเต็มความฝันของแฟนบอล ที่อยากสวมใส่รองเท้าสตั๊ดแบบเดียวกับที่โครส ใช้มาอย่างยาวนาน ช่วงนี้ เราไปดูความรัก และความผูกพันของโครส กับรองเท้าสตั๊ดรุ่นนี้ ลองไปดูกันหน่อยว่า มันมีความหมายมากกว่ารักเดียวใจเดียวอย่างไร
โทนี่ โครส ยอมรับว่า เขาเหมือนคนโรคจิตอย่างหนึ่ง นั่นคือเป็นคนที่ชอบสวมรองเท้าสตั๊ดสีขาวเป็นอย่างมาก นั่นเป็นเหตุผลสำคัญ ทำให้เขาสวมรองเท้ารูปแบบเดิมมาอย่างยาวนาน และไม่คิดจะเปลี่ยนใจ
นอกจากนี้ โครส ออกมาบอกว่า รองเท้าสตั๊ดสีขาว ส่งผลเรื่อง “จิตวิทยา” ซึ่งมีอิทธิพลต่อผลงานในสนามของเขา โดยกล่าวว่า “ผมชอบการสวมใส่รองเท้าสตั๊ดสีขาวเป็นอย่างมาก นี่คือโทนที่ผมชอบมากที่สุด”
“หากรองเท้าไม่ได้อยู่ในรูปแบบที่ผมต้องการ มันอาจจะส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นในสนามแข่งขัน” โครส กล่าวเพิ่มเติมว่า เขาเข้าใจความเป็นไปของการตลาดของแบรนด์ว่า การเปลี่ยนรองเท้าสตั๊ดรุ่นใหม่ๆ ช่วยเรื่องยอดขาย และเม็ดเงินที่ไหลเข้ามา
แต่สำหรับเขาแล้ว การได้สวมรองเท้าสตั๊ดที่มีความเหมาะสมกับตัวเอง เหมือนเป็นการค้นพบรักแท้ ที่ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรอีกแล้ว โดยบอกว่า “ผมเป็นนักฟุตบอลแบบที่ว่า ไม่ชอบเปลี่ยนรองเท้าสตั๊ดบ่อยๆ ผมรักที่จะลงสนามด้วยรองเท้าสตั๊ดสีขาวเสมอมา”
“ผมเป็นคนที่ชอบสีขาวมาก และชอบวัสดุที่สมบูรณ์แบบ ผมจะไม่ต้องการสวมใส่รองเท้าสตั๊ดหลากสี เช่นสีเขียว หรือแดง นักเตะคนอื่นมักเปลี่ยนสตั๊ดทุก 1-2 เดือน ผู้เล่นส่วนมากไม่มีปัญหากับเรื่องดังกล่าว พอได้รองเท้าสตั๊ดรุ่นใหม่ ก็จะสวมใส่ลงสนามในวันรุ่งขึ้น”
“อย่างไรก็ตาม ผมมีความแตกต่างออกไป ผมต้องการสตั๊ดที่สวมใส่แล้ว ต้องรู้สึกถึงความสบาย และต้องสบายมากๆด้วย”
หากว่าใครสังเกต โครส มักสวมรองเท้าสตั๊ดคู่เดิม ทำแบบซ้ำไปซ้ำมา บ่อยครั้งรองเท้าถึงกับหนังถลอก สำหรับเหตุผล การที่เขาสวมรองเท้าสตั๊ดคู่เดิม เพื่อให้หนังมีสภาพนุ่มที่สุด เพื่อช่วยซัพพอร์ทการเล่น โดยเฉพาะตอนที่เท้าสัมผัสกับลูกฟุตบอล
การให้รองเท้าสตั๊ดอยู่ในสภาพที่พร้อมตลอดเวลา และยืดอายุการใช้งานออกไป การดูแลรักษา ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นมาก เรื่องราวที่หลายคนอาจยังไม่เคยทราบมาก่อน นั่นคือโครส เป็นนักฟุตบอลระดับโลกเพียงไม่กี่คน ที่ยังคงทำความสะอาดรองเท้าสตั๊ดด้วยตัวเอง
โครส ทำความสะอาดสตั๊ดในทุกวัน ซึ่งตรงกันข้ามกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่น ที่ดูแลสตั๊ดของตัวเองนานๆครั้ง หรือให้เป็นความดูแลของเจ้าหน้าที่สโมสร โครส พูดว่า “ผมไม่เคยเห็นนักเตะเรอัล มาดริด คนไหน ที่ทำความสะอาดรองเท้าสตั๊ดทุกวันเลย”
“ผมเป็นคนที่ดูแลรองเท้าสตั๊ดเป็นอย่างดี ผมจะคอยดูแลมัน ก่อนลงไปฝึกซ้อม พอฝึกซ้อมเสร็จ ผมก็ทำความสะอาดทันที ผมลงมือทำทั้งหมด เพื่อให้รองเท้าสตั๊ดอยู่ในความพร้อม สำหรับใช้งานในวันถัดไป หากรองเท้าสตั๊ดมีความสกปรกเล็กน้อย ผมก็ไม่สบายใจแล้ว”
ขณะที่ แกเร็ธ เบล อดีตเพื่อนร่วมทีม “ราชันชุดขาว” เป็นคนที่ออกมายืนยันคำพูดของโครส ว่าเป็นความจริงทุกประการ เบล บอกว่าโครส สร้างความประหลาดใจให้กับบรรดาเพื่อนร่วมทีม ที่เห็นภาพเขาล้าง และเช็ดรองเท้าสตั๊ดด้วยตัวเองในทุกวัน
เบล ทิ้งท้ายว่า โครส ไม่เคยให้เจ้าหน้าที่ของสโมสรแตะต้องรองเท้าสตั๊ดของตัวเองเลย เพราะเขาไม่มั่นใจให้คนอื่นลงมือทำ”
นอกจากการสวมรองเท้าสตั๊ดคู่เดิมอย่าง “อาดิดาส 11 โปร” เป็นเหตุผลในเรื่องของ “จิตวิทยา” โครส ยังคงมีเคล็ดลับบางอย่าง ที่เขาเลือกทำกับรองเท้าสตั๊ดของตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องราวที่หลายคนยังไม่เคยรู้มาก่อน
สำหรับหนึ่งสิ่งที่อดีตกองกลางทีมชาติเยอรมัน เลือกลงมือทำเป็นประจำ ก่อนลงไปฝึกซ้อม หรือแข่งขันจริง นั่นคือการเอาไดร์เป่าผมที่เตรียมเอาไว้ เพื่อเป่าที่ด้านในของรองเท้าสตั๊ดทั้งสองข้าง
นอกจากรองเท้าสตั๊ดแล้ว โครส ยังนำไดร์เป่าผม นำมาเป่าที่ถุงเท้าอีกด้วย จนสร้างความประหลาดใจเป็นอย่างมาก โดยเคล็ดลับดังกล่าว ถือว่าเป็นเรื่องที่เราไม่ได้พบเห็นกันบ่อยนัก ในการที่นักเตะระดับโลก นำเอาไดร์เป่าผมมาเป่าอุปกรณ์ของตัวเอง
จนถึงขั้นที่ว่า สื่ออย่างเป็นทางการของสโมสรเรอัล มาดริด เคยถ่ายคลิปตอนที่โครส เอาไดร์มาเป่ารองเท้าสตั๊ด และถุงเท้าของตัวเอง การที่โครส ชอบทำแบบนั้น เพราะเขามองแล้วว่า ความร้อนจากไดร์เป่าผม ถือเป็นการช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับเท้า
โครส เป็นคนที่ไม่ชอบให้เท้าของตัวเองเย็นจนเกินไป เพราะเขาจะรู้สึกถึงความไม่สบาย เวลาที่เท้าสัมผัสกับลูกฟุตบอล เราอย่าลืมว่า ทวีปยุโรปเป็นดินแดนที่สภาพอากาศค่อนข้างหนาวเย็น และบางครั้ง ร่างกายอาจเคลื่อนไหวไม่เป็นไปตามที่ใจคิด
การทำแบบนั้น ช่วยให้โครส สามารถสวมใส่รองเท้าสตั๊ดได้อย่างสบาย นำมาซึ่งผลงานที่ยอดเยี่ยมในสนาม
นอกจากการที่โครส เลือกจะสวมใส่รองเท้าสตั๊ดรุ่น “อาดิดาส 11 โปร” กลายเป็นเอกลักษณ์สำคัญ ที่สร้างความจดจำให้กับแฟนบอลแล้ว เขายังมีความทรงจำมากมายเกี่ยวกับรองเท้าสตั๊ดรุ่นนี้ พร้อมกับใช้มัน เพื่อช่วยเหลือสังคมมาหลายครั้ง
ย้อนกลับไปศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2017-18 ที่เรอัล มาดริด เอาชนะลิเวอร์พูล 3-1 พร้อมกับพาพลพรรค “ราชันชุดขาว” ผงาดคว้าแชมป์ยุโรปสมัย 13 โครส เลือกนำรองเท้าสตั๊ดที่เขาใส่ในเกมดังกล่าว ออกมาประมูล
พร้อมกับมอบลายเซ็นเอาไว้บนรองเท้าด้วย จุดประสงค์เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือองค์กรด้านการกุศล โดยเหตุการณ์ในคราวนั้น การประมูลก็ได้เงินไป จำนวนมากกว่าหลายแสนบาทเลยทีเดียว
นี่คือเรื่องราวบางส่วนของโทนี่ โครส เกี่ยวกับการเลือกสวมใส่รองเท้าสตั๊ด ซึ่งนักฟุตบอลระดับท็อปเพียงไม่กี่คนบนโลก ที่จะเดินตามแนวทางดังกล่าว เพราะนักฟุตบอลส่วนมาก มักเปลี่ยนรองเท้าไปเรื่อยๆ ตามรุ่นใหม่ และตามแฟชั่นที่หมุนไปเรื่อยๆ
ขณะที่โครส ขอเพียงรองเท้าสักคู่ที่เหมาะสมกับตัวเองก็พอแล้ว
