:::     :::

ควันหลงหลังเกมหงส์ VS ปืน

วันอังคารที่ 26 ธันวาคม 2566 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
408
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
จนมามีจังหวะปัญหากับลูกแฮนด์บอลของมาร์ติน โอเดการ์ด ที่ใครเห็นก็ว่าต้องเป็นจุดโทษ

ลิเวอร์พูลสะดุดเก็บได้แค่ 1 คะแนนในบ้านอีกแล้ว แต่ต้องบอกว่าเป็นความรู้สึกที่แตกต่างจากเมื่อสัปดาห์ก่อนราวฟ้ากับเหวเลยทีเดียว


คืออันดับแรกต้องบอกว่าถ้าเกมแบบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มาเตะเวลาเที่ยงคืนครึ่งแบบนี้นะ มีหลับกันหมดแน่นอน


ยังโชคดีที่เกมนี้มันสนุกมากๆ ทำให้จากตอนแรกง่วงๆ กลายเป็นตื่นขึ้นมาเลย


ลิเวอร์พูลทำการปรับทัพจากเมื่อกลางสัปดาห์พอสมควร แต่ออกมาเป็นไปตามที่คาดไว้ทุกตำแหน่ง ทั้งโจนส์ที่ได้ลงก่อนกราเฟ่นแบร์ค หรือตัวดิอาซ ที่กลับมาสู่ตัวจริงประจำทางซ้ายแล้วให้กักโปยืนหน้าเป้า


แต่ต้องชมอาร์เซน่อลเลยว่ามาเล่นกับลิเวอร์พูลโดยเล่นงานจุดอ่อนความสตาร์ตช้าของลิเวอร์พูลได้ดี ช่วงต้นอาร์เซน่อลเข้าถึงแบบประชิดตลอดแล้วก็เพรสซิ่งสูงมากๆ มาได้ประตูจากจังหวะฟรีคิกที่ลิเวอร์พูลตั้งรับแบบเดิมๆ คือดันเช็คล้ำหน้า แต่คราวนี้เช็คพลาดไปแบบหลักมิลลิเมตรเท่านั้น


ซึ่งพอนำลูกเดียว ดูเหมือนอาร์เซน่อลจะรู้ดีว่าไม่พอ พยายามบีบต่อเนื่องเรื่อยๆ จนทำให้ลิเวอร์พูลแทบขึ้นเกมไม่ได้ ต้องผ่านไปราวๆ 15 นาที เกมถึงจะกลับมาเป็นทางฝั่งลิเวอร์พูลได้ครองบ้าง


จนมามีจังหวะปัญหากับลูกแฮนด์บอลของมาร์ติน โอเดการ์ด ที่ใครเห็นก็ว่าต้องเป็นจุดโทษ มันน่าแปลกตรงที่ เดวิด คูต ผู้ตัดสินห้องวีเออาร์ (ถ้าใครจำไม่ได้ นี่คือคนที่ไม่ยอมเตือนให้แจกใบแดงกับ จอร์แดน พิคฟอร์ด ที่เข้าบอลรุนแรงใส่ฟาน ไดค์ จนต้องพักยาวทั้งฤดูกาล และไม่เคยกลับเป็นคนเดิมแบบก่อนเจ็บได้อีกเลย) กลับไม่มีทักท้วงมาแม้แต่นิดเดียว ส่วนคริส คาวานาห์ พอไม่มีเสียงทักท้วง เขาก็ทำอะไรไม่ได้


แต่ลิเวอร์พูลก็ใช้วิธีการเจาะทางพื้นที่ของซินเชนโก้ ซึ่งก็ถือว่าได้ผล เพราะลิเวอร์พูลได้โอกาสยิงจากทางฝั่งนั้นแล้วก็เป็นโม ซาลาห์ ที่สามารถจบสกอร์ได้อย่างเฉียบคม ตีเสมอให้กับทีมได้สำเร็จ



                         



ซึ่งพอหลังจากตีเสมอ เหมือนลิเวอร์พูลจะเป็นฝ่ายที่ครองบอลได้ดีขึ้น จนอาร์เซน่อลเองต้องถอยกลับไปตั้งรับแล้วรอหาจังหวะสวนกลับเหมือนกัน แต่บอลเข้าพื้นที่สุดท้ายลิเวอร์พูล ยังขาดๆ เกินๆ กันเหมือนเคย จนสุดท้ายยังหาประตูแซงนำได้ แถมยังต้องมาเสียคอสตาส ซิมิกาส จากจังหวะไหล่กระแทกพื้นแล้วก่อนจะมีการยืนยันว่าไหปลาร้าหัก ซึ่งดูทรงพักไม่ต่ำกว่า 1 เดือนแน่นอน


อย่างไรก็ตามครึ่งหลังต้องบอกว่าลิเวอร์พูลไปแก้เกมมาได้ดี กลายเป็นฝ่ายครองบอลบุกอยู่เกือบข้างเดียว และน่าจะได้ประตูอย่างสุดๆ จากจังหวะที่หลุดมา 5-2 คน แต่ทว่าเทรนต์กลับซัดไปชนคานซะอย่างนั้น ถ้าหากว่าได้ลูกนี้ไปโอกาสชนะสูงมากจริงๆ


ในขณะที่อาร์เซน่อลกลับมาคุมเกมได้ในช่วงท้ายแล้วก็กดดันจนได้ลุ้นอีกหลายครั้งเช่นกัน แต่ก็ยังดีที่ปิดไม่ลงพอกัน เลยสุดท้ายก็ต้องแบ่งแต้มกันไป


ว่ากันที่ผลงานส่วนตัว ฝั่งลิเวอร์พูลยังเป็นแดนกลางกับแนวรับที่ืถือว่าท็อปฟอร์มมากๆ ไม่เว้นแม้แต่เทรนต์ที่วันนี้ก็เล่นเกมรับได้ดี ช่วยกันกับโคนาเต้และโซโบสไล บีบอาร์เซน่อลจนเล่นยาก หรือจะเป็นวาตารุ เอ็นโด ที่ยิ่งเล่นก็ยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ และเล่นได้มีประโยชน์กับทีมมากจริงๆ


นอกจากนี้ที่ไม่ชมไม่ได้ก็คือโดมินิก โซโบสไล ที่วันนี้การเคลื่อนที่ของเขาดีมากๆ ทั้งตอนมีบอลและไม่มีบอล แต่ยังมีปัญหาแค่ตอนการจ่ายบอลในจังหวะสุดท้าย ที่เขายังคงทำได้ไม่ดีเหมือนเดิม


จบเกมนี้ทำให้อาร์เซน่อลได้เป็นจ่าฝูงในวันคริสมาสต์อีกครั้ง แต่สถิติของพวกเขา 5 ครั้งหลังสุดที่นั่งตำแหน่งนี้ ไม่เคยจบลงด้วยการเป็นแชมป์เลย 


ในขณะที่ผลเสมอเกมนี้ อาจจะทำให้แมนฯ ซิตี้ แอบยิ้มอยู่ในมุมเงียบๆ เพราะว่าเขาก็มีแต้มตามหลังไม่เยอะมาก แถมมีโปรแกรมตกค้างอยู่คู่หนึ่ง ฉะนั้นจะมองเข้าไม่ได้เด็ดขาด


ส่วนลิเวอร์พูลการเสีย 4 แต้มในบ้าน 2 เกมล่าสุด นับว่าเสียหายย แต่เกมกับอาร์เซน่อลก็ถือว่าเท่าทุนจากปีก่อน เพราะในบ้านเราก็ได้แค่เสมอมาเช่นกัน ฉะนั้นเรียกว่าไม่ได้ก็ไม่เสียเพิ่มละกัน


นัดต่อไปเข้าสู่บ็อกซิ่งเดย์กับการไปเยือนเบิร์นลีย​ต้องกลับมาเก็บ 3 คะแนนให้ได้



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด