เอริก ดายเออร์ เดินตามรอยเพื่อนร่วมชาติและเพื่อนที่ดีอย่าง แฮร์รี่ เคน ด้วยการย้ายจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มาค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงเดือนมกราคมนี้ หลังหัวหอกทีมชาติอังกฤษย้ายมาปักหลักล่วงหน้าก่อนราว 6 เดือน

ดายเออร์ จะเข้ามาเป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์สำคัญของ โธมัส ทูเคิ่ล เนื่องจากแข้งวัย 29 ปีสามารถเล่นได้หลายบทบาทตามความต้องการของเทรนเนอร์ทีมเสือใต้ไม่ว่าจะเป็น เซนเตอร์แบ็ก, มิดฟิลด์ตัวรับ หรือแม้แต่ฟูลแบ็ก ตอนนี้เราทำมาความรู้จักเกี่ยวกับสมาชิกรายล่าสุดของทีมดังแคว้นบาวาเรียว่าเป็นอย่างไร

1.มาจากครอบครัวฟุตบอล

ดายเออร์ ไม่ใช่นักฟุตบอลคนแรกในครอบครัวของเขา คุณปู่ของเขา เท็ด โครเกอร์ ไม่เพียงแต่เล่นอาชีพกับสโมสรกรุงลอนดอนอย่าง ชาร์ลตัน แอธเลติก เท่านั้น แต่เขายังเป็นผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จอีกด้วย

โครเกอร์ ทำงานฐานะเลขาธิการฝ่ายเทคนิคของสมาคมฟุตบอลอังกฤษระหว่างปี 1973-1989 และยังเคยทำหน้าที่ประธานสโมสร เชลท์แน่ม ทาวน์ ทีมบ้านเกิดของ ดายเออร์ ด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ ปีเตอร์ โครเกอร์ พี่ชายของ เท็ด ยังเป็นตัวแทนของ ชาร์ลตัน แอธเลติก และเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ เมื่อปี 1946 แม้ว่า ปีเตอร์ จะพลาดการชูโทรฟี่แชมป์เพราะการบาดเจ็บก็ตาม ทั้งสองพี่-น้อง โครเกอร์ ต่างเล่นเป็นกองหลัง และหลานชายของพวกเขาก็สร้างอาชีพขึ้นมาด้วยการเล่นแนวรับเช่นเดียวกัน

มรดกทางกีฬาของครอบครัวยังส่งต่อมาถึงคุณพ่อของ ดายเออร์ นั่นคือ เจเรมี่ ที่เป็นนักเทนนิสอาชีพและได้ลงเล่นรายการเมเจอร์อย่าง วิมเบิลดัน หลายครั้ง ขณะที่คุณแม่ของเขา หลุยส์ ทำงานด้านการบริหารการกีฬา และบทบาทของเธอในฐานะหัวหน้าฝ่ายต้อนรับในการแข่งขันศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปปี 2004 ที่เธอพาครอบครัวไปโปรตุเกส และอาชีพของ ดายเออร์ ก็เริ่มต้นขึ้นที่นั่นกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน

2.ส่วนผสมที่ลงตัว

ดายเออร์ อายุ 7 ขวบตอนที่พ่อแม่และพี่น้องอีก 5 คนย้ายมาอยู่ โปรตุเกส และเขาถูก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ดึงเข้าอะคาเดมี่อย่างรวดเร็วหลังจากนั้นไม่นานนัก ซึ่งเคยสร้างยอดแข้งอย่าง หลุยส์ ฟิโก้ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก่อนหน้านี้ ที่นั่น ดายเออร์ ได้รับการสอนว่า 'มีแนวทางที่ผ่อนคลายมากในแง่ของฟุตบอล' และเขาบอกกับ เดอะ การ์เดียน ว่า 'พวกเขาภูมิใจที่ได้ดูแลคุณในฐานะคนที่สุภาพและให้ความเคารพ พวกเขาจะไม่โกรธหากคุณไม่ผ่าน แต่พวกเขาจะโกรธถ้าคุณไม่เคารพใครสักคน ไม่มีการตะโกนใส่กัน ผมได้ยินมามากกว่าเป็นอย่างนั้นในอังกฤษ'

เขาค้นพบสไตล์ที่แตกต่างของตัวเองด้วยการย้ายไป เอฟเวอร์ตัน ด้วยสัญญายืมตัวก่อนวันเกิดปีที่ 17 ของเขา 'สำหรับผม ถ้าคุณได้ภาษาโปรตุกีส 50 เปอร์เซ็นต์และภาษาอังกฤษ 50 เปอร์เซ็นต์ มันเป็นส่วนผสมที่ลงตัวจริงๆ พ่อของผมบอกว่าผมต้องเตะจากด้านหลัง' 

'ช่วง 6 เดือนนั้นช่างเป็นฝันร้าย ถ้าให้พูดตามตรง ผมก็ ผมไม่ได้เกลียดมันเลย แต่ตอนนั้น ผมแค่คิดว่า 'พาฉันออกไปจากที่นี่' มันแตกต่างไปจากสิ่งที่ผมคุ้นเคยมาก วิถีชีวิต, สภาพอากาศ,  สถานที่,  ผู้คน แม้กระทั่งภาษาก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง สำเนียงสเกาเซอร์นั้นยากสำหรับผม และในแง่ของฟุตบอล มันมีความดุดันอย่างมาก'

3.เพื่อนกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง

ดายเออร์ กลายเป็นแข้งชาวอังกฤษคนที่ 4 ที่เซ็นสัญญากับ บาเยิร์น มิวนิค และเป็นคนที่สองในช่วงเวลา 6 เดือนที่ย้ายมาจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ หลัง เคน กองหน้ากัปตันทีมสิงโตคำรามสร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วยุโรปด้วยการโยกมาค้าแข้งกับแชมป์ผูกขาดของเยอรมนี ก่อนหัวหอกวัย 30 ปีจะทำลายสถิติของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ด้วยการทำ 22 ประตูจากการลงเล่นบุนเดสลีกา 16 เกมแรก

ทั้ง ดายเออร์ และ เคน เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันและลงเล่นเคียงข้างกันมาแล้ว 360 เกมทั้งสโมสรและทีมชาติ ซึ่งทั้งคู่ต่างสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองในฐานะผู้เล่นสำคัญในห้องแต่งตัวของทั้งสองทีม ดายเออร์ ย้ายจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน มาค้าแข้งกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2014 ก่อน เคน จะย้ายมา บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงหน้าร้อนปีที่แล้วและ ดายเออร์ หอบเสื้อผ้าตามมาในอีก 6 เดือนหลังจากนั้น 

แม้ว่า เคน จะนั่งเคียงข้าง โธมัส มุลเลอร์ หรือ จามาล มูเซียล่า ระหว่างทีมเสือใต้เดินทางขึ้นเครื่องไปทำศึกแชมเปี้ยนส์ลีกก็ตาม เมื่อถูกถามว่าเขาอยากนั่งเคียงข้างใครมากที่สุดระหว่างเที่ยวบินระยะไกล หัวหอกทีมชาติอังกฤษกล่าวแบบติดตลกว่า 'ผมจะใส่ เอริก เข้าไปในนั้น เอริก ดายเออร์ แค่นอนได้ทุกที่ บนรถโค้ช บนเครื่องบิน ดังนั้นผมจะไม่ต้องฟังเขาพล่ามเรื่องอะไร เขาคงจะนอนครบ 12 ชั่วโมง หรือไม่ว่าเที่ยวบินจะเป็นอย่างไรก็ตาม'

4.นักเตะใจบุญ

ดายเออร์ เป็นที่รู้จักกันดีจากการทำงานนอกสนามจากการสนับสนุนองค์กรการกุศลต่างๆมากมายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ขณะอยู่ที่ ท็อตแน่ม เขาทำงานใกล้ชิดกับมูลนิธิ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ของสโมสร และเกือบจะในทันทีที่ทุ่มตัวเองในโครงการชุมชน ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ในท้องถิ่น

เขากลายเป็นฑูตของ Sported ในปี 2020 ซึ่งเป็นองค์กรเดียวกับที่เป็นเครือข่ายกลุ่มชุมชนใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร และแม่ของเขา หลุยส์ ทำหน้าที่เป็นทั้งสมาชิกและผู้ดูแลผลประโยชน์ นับตั้งแต่ร่วมงานกับ Sported ดายเออร์ ได้ให้การสนับสนุนโครงการต่างๆมากมาย รวมถึงการเยี่ยมเยียนและพูดในนามของสถาบันการศึกษาที่ต้องการต่อสู้กับการมีส่วนร่วมของแก๊งค์และวิกฤตค่าครองชีพของสหราชอาณาจักร

'ผมรู้ว่าการมีส่วนร่วมในกีฬาสามารถช่วยเหลือเยาวชนได้มากเพียงใด และผมตั้งตารอที่จะได้เยี่ยมชมกลุ่มกีฬาให้มากสุดเท่าที่ผมสามารถทำได้ และเป็นสักขีพยานด้วยตัวผมเองว่าพวกเขาสร้างความแตกต่างให้กับชุมชนทั่วสหราชอาณาจักรได้มากเพียงใด นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับบทบาทนี้' ดายเออร์ กล่าวในวันร่วมงานกับ Sported

5.ช่างเทคนิค

นอกจากการเป็นนักฟุตบอลอาชีพและคนทำงานด้านการกุศลแล้ว ดายเออร์ ยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีอีก 2 แห่งด้วย เขาเปิดตัว Spotlas บริษัทแรกกับน้องชายของเขา แพทริค และเพื่อนสนิท โซ คอนนิค ในปี 2019 เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์คที่ ฟอร์บส์ อธิบายว่าเป็นอย่างสิ่งระหว่าง Instagram และ Trip Advisor

แพทริค เปิดเผยผ่านสื่อก่อนหน้านี้ว่า 'สิ่งสำคัญสำหรับ (เอริก) คือการรับรู้ของผู้คนบ่อยครั้งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้คือ 'มันเป็น (นักฟุตบอล) พวกเขาเหมือนกับการทุ่มเงินใส่มัน' หรือ 'พวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องจริงๆ' ในขณะที่เขา (มี) มีแนวคิดมากมายที่นำเสนอ ความคิดทั้งหมด การออกแบบทั้งหมด มีการพูดคุยกันอย่างเต็มที่ระหว่างพวกเขา 3 คน เหมือนกับปัญหาด้านการจัดการ พวกเราทั้งสามคนจัดการมันร่วมกัน'

สองพี่-น้องตระกูลดายเออร์เริ่มธุรกิจที่สองในเดือนกรกฎาคมปี 2022 ด้วยการเปิดตัว Yellow Build เต็มรูปแบบในงาน Web Summit ในเดือนกันยายนปีที่แล้วที่ ลิสบอน ซึ่ง ดายเออร์ อยู่บนเวทีเพื่อประกาศการสร้างแอพดิจิตอลระหว่างที่บ้านกับ สเปอร์ส เขาเป็นนักฟุตบอลที่หายากที่มีเพจ LinkedIn และเป็นคนที่คุณจะพบกับแอพของเขามากกว่าที่คุณพบบน Instagram