แต่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือการที่ เดอ บรอยน์ ถูกไปเปรียบเทียบกับเหล่าตำนานของ พรีเมียร์ลีก ทั้งหลายอย่าง พอล สโคลส์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, รอย คีน และ ปาทริค วิเอร่า

    วันนี้จะหยิบยกเรื่องของตัวเลขและสถิติวัดกันให้เห็นว่าตอนนี้ เดอ บรอยน์ อยู่ในจุดไหน และต้องพยายามอีกเท่าไรในการแซงหน้าในเรื่องของตัวเลขไปให้ได้

การลงสนาม

    จนถึงตอนนี้ เควิน เดอ บรอยน์ ในวัย 32 ปี ที่เริ่มต้นเส้นทางอาชีพนับเฉพาะในทีมชุดใหญ่มาตั้งแต่ปี 2008 สมัยอยู่กับ เกง8N สโมสรในบ้านเกิด กระทั่งมาหากินกับ เชลซี ซึ่งสุดท้ายไม่ได้โอกาสมากนัก กระทั่งไปสร้างชื่อกับ เบรเมน ด้วยสัญญายืมตัว ตามด้วยการไปอยู่ โวล์ฟสบวร์ก

    กระทั่งปี 2015 ได้ย้ายมา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเจ้าตัวก็โชว์ศักยภาพสูงสุดออกมาและยืนหยัดเป็นกำลังหลักของสโมสรมาจนถึงปัจจุบัน

    เดอ บรอยน์ ลงสนามไปแล้วทั้งหมด 589 เกม แบ่งเป็น 113 เกมกับ เกงค์, 9 เกมกับ เชลซี, 34 เกมกับ เบรเมน, 73 เกมกับ โวล์ฟสบวร์ก และ 360 เกมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในขณะที่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ลงสนามไปมากถึง 898 เกม ตามด้วย สตีเว่น เจอร์ราร์ด เล่นไปรวม 749 เกม, พอล สโคลส์ 716 เกม, ปาทริค วิเอร่า 650 เกม และ รอย คีน 612 เกม

    หากจะเล่นแซงหน้า คีน และ วิเอร่า คงต้องบอกว่าคงไม่ยากนัก แต่ในระดับของ สโคลส์ ขี้นไปที่ต้องเล่นอีกทะลุ 100 เกมต้องบอกว่าไม่ง่าย นอกจากว่าเจ้าตัวจะรักษาสภาพร่างกายได้อย่างดีเยี่ยมในปี 2-3 ปีต่อจากนี้ ส่วนกับ แลมพาร์ด คงต้องยอมรับว่าไปไม่ถึง

ประตู

    เควิน เดอ บรอยน์ ทำไปแล้ว 144 ประตูตลอดเส้นทางอาชีพ เฉลี่ยที่ 0.24 ประตูต่อเกม ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่เมื่อเทียบกับเหล่าตำนานทั้งหลายเขาอยู่เพียงอันดับที่ 4 เท่านั้น

    อันดับที่ 1 ในตารางนี้คือ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่ยิงไปถึง 268 ประตู เฉลี่ยที่ 0.3 ลูกต่อเกม ตามด้วย สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ทำไป 191 ประตู เฉลี่ย 0.26 ลูกต่อเกม ส่วนหนึ่งสองคนนี้คือมือสังหารจุดโทษของทั้ง เชลซี และ ลิเวอร์พูล

    พอล สโคลส์ อยู่ในอันดับที่ 3 ทำไป 155 ลูก เฉลี่ย 0.22 ลูกต่อเกม ส่วน รอย คีน กับ ปาทริค วิเอร่า น้อยหน่อยเพราะด้วยตำแหน่งที่เป็นตัวรับมากกว่า โดยทาง คีน ทำไป 77 ประตู เฉลี่ย 0.13 ลูกต่อเกม ส่วน วิเอร่า ทำไป 56 ลูก เฉลี่ย 0.09 ประตูต่อเกม

แอสซิสต์

    ในเรื่องนี้ต้องบอกว่า เควิน เดอ บรอยน์ มีผลงานที่ยอดเยี่ยมจริงๆ โดยเฉพาะในพรีเมียร์ลีกที่ต้องบอกว่ามีนักเตะไม่มากนักที่จะทำแอสซิสต์ได้ถึง 100 ครั้ง ซึ่งสตาร์ทีมชาติเบลเยี่ยมเป็นหนึ่งในนั้น

    จนถึงตอนนี้แข้งวัย 32 ปี แอสซิสต์ให้เพื่อนไปแล้วมากถึง 239 ครั้ง เฉลี่ยที่ 0.41 ครั้งต่อเกมซึ่งต้องบอกว่าสูงมากๆ

    สตีเว่น เจอร์ราร์ด อยู่ในลำดับที่สองของลิสต์นี้ โดยทำไป 172 ครั้ง (0.23 ครั้งต่อเกม) โดยมี แฟร้งค์ แลมพาร์ด ตามาติดๆ ที่ 171 ครั้ง (0.19 ครั้งต่อเกม), พอล สโคลส์ ที่ 82 ครั้ง (0.11 ครั้งต่อเกม), ปาทริค วิเอร่า 72 ครั้ง (0.11 ครั้งต่อเกม) และ รอย คีน 44 ครั้ง (0.07 ครั้งต่อเกม)

เปอร์เซ็นต์ชนะ

    เป็นอีกเรื่องที่ เควิน เดอ บรอยน์ เหนือกว่าเหล่าตำนานของพรีเมียร์ลีกทั้งหลายด้วยเปอร์เซ็นต์ชนะสูงถึง 70.1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต้องใช้คำว่าสูงมากๆ

    ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะอยู่ทีมใหญ่และอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ตลอดภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่แปลกที่ตัวเลขจะออกมาสูงมาก

    พอล สโคลส์ มีสถิติชนะเปอร์เซ็นต์อยู่ที่ 64.3 เปอร์เซ็นต์, ปาทริค วิเอร่า 60.6 เปอร์เซ็นต์, รอย คีน 60.1 เปอร์เซ็นต์, แฟร้งค์ แลมพาร์ด 57.3 เปอร์เซ็นต์ และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด 50.6 เปอร์เซ็นต์

จำนวนแชมป์

    ในส่วนนี้ต้องบอกว่า เควิน เดอ บรอยน์ มีการเพิ่มจำนวนแชมป์มากขึ้นในช่วงหลัง แค่ปีที่ผ่านมาก็กวาดไป 5 รายการแล้วทั้ง พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และ สโมสรโลก

    โดยรวมแล้วตลอดอาชีพแข้งทีมชาติเบลเยี่ยมเก็บไปแล้ว 18 รายการ ในลิสต์นี้อยู่ในอันดับที่ 2 โดยอันดับที่ 1 เป็นของ พอล สโคลส์ ที่กวาดไป 21 รายการกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

    รองลงมาก็คือ ปาทริค วิเอร่า ได้ไป 17 รายการ, รอย คีน ได้ไป 14 รายการ, แฟร้งค์ แลมพาร์ด 10 รายการ และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด 9 รายการ

    ก็ถือว่ามีทั้งที่เหนือกว่าและเป็นรอง ที่ตามหลังก็ยังมีโอกาสทำอันดับขยับขึ้นไปก็รอติดตามว่าเมื่อถึงวันที่ เควิน เดอ บรอยน์ แขวนสตั๊ดจะไปไกลว่านี้อีกแค่ไหน