:::     :::

"Omar Berrada" ผู้บ้าคลั่งความท้าทายในโลกฟุตบอล

วันอังคารที่ 23 มกราคม 2567 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
1,596
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
บทความแปลฉบับเต็มจาก The Athletic ที่เล่าถึงเรื่องราวเส้นทางของ Omar Berrada จากคนที่ออกจากมหาวิทยาลัยกลางคัน สู่การประสบความสำเร็จในระดับสุดยอดของวงการฟุตบอล ในความก้าวหน้าที่พุ่งพรวดขึ้นอย่างรวดเร็ว ผ่านบุคลิกที่ชอบความท้าทาย และไม่กลัวการออกจากคอมฟอร์ทโซน การมาอยู่กับแมนยู ชัดเจนเลยว่าภารกิจกู้ซากโอลด์แทรฟฟอร์ด คืองานโคตรท้าทายสำหรับเขา!!!

"โอมาร์อยู่ซิตี้มาก่อนที่ Ferran Soriano กับ Txiki Begiristain จะมาซะอีก ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีเรื่องล่าสุดนี้เกิดขึ้น ถ้ามีคำถามว่าใครสามารถจะมาแทนสองคนนี้ได้ Berrada คือคำตอบสุดท้ายเลย"

จากคำบอกเล่าของอดีตคนทำงานของซิตี้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมการที่แมนยูไนเต็ดสามารถดึง Omar Berrada มาจากอ้อมอกเพื่อนบ้านได้นั้นถึงเป็นเรื่องโกลาหลกันทั้งพรีเมียร์ลีกขนาดนั้น

Berrada ไม่ใช่ตัวเลือกธรรมดาๆที่เมื่อย้ายข้ามฟากมาแล้วจะไม่มีบทบาทใดๆ มีหลายๆคนที่ได้ให้ข้อมูลกับ The Athletic ยืนยันว่านี่จะเป็น "Game Changer" ของยูไนเต็ดทีเดียว

"เขาเป็นคนที่ปฏิบัติการได้เนียนกริบ อาจจะไม่ได้เป็นคนที่เล่นใหญ่ แต่เขามีระบบระเบียบและรู้รายละเอียดต่างๆเป็นอย่างดี เขาเยือกเย็นในสถานการณ์ที่กดดัน และไม่ได้เก่งแต่ทางด้านฟุตบอล เขามีความเข้าใจในเชิงธุรกิจที่ดีด้วย คุณจะสัมผัสได้ว่าเขามีความทะเยอทะยานและอยากจะเป็นตัวทำงานหลักของที่ไหนสักแห่ง"

การก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของ Berrada นั้นอาจจะไม่ได้เกิดมาจากเส้นทางและพื้นเพของเขาก่อนหน้านี้ ในฐานะคนเชื้อสายโมร็อกโกที่เกิดในปารีส ถูกเลี้ยงเติบโตขึ้นที่สหรัฐฯ ก่อนจะย้ายไปที่บาร์เซโลน่าตอนอายุ 18 หลังจากที่ออกมาจากมหาวิทยาลัย

"ประสบการณ์มหาวิทยาลัยครั้งแรกของผมเกิดขึ้นที่USแค่หกเดือนเท่านั้น ผมไปเรียนวิิศวะที่มหาลัยในแมสซาชูเสตต์ แต่ผมก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่ กลางเทอมในเดือนธันวาคมผมเลยตัดสินใจออกและเปลี่ยนเป้าหมาย รู้อย่างเดียวว่าผมอยากจะไปยุโรป"

Berrada ให้สัมภาษณ์เอาไว้ในปี 2021 กับทาง EU Business School และเลือกที่จะย้ายมาบาร์เซโลน่าเพราะเรื่องฟุตบอลในฐานะแฟนบอลบาร์ซ่าตัวยง แต่ก่อนที่จะเข้ามาสู่อุตสาหกรรมฟุตบอล เขาเริ่มงานกับบริษัทโทรคมนาคม Tiscali มาก่อนซึ่งเป็นที่ที่เขาได้เจอกับภรรยาคนปัจจุบัน และเจอแพลทฟอร์มที่ทำให้เขามุ่งเข้าสู่โลกฟุตบอลได้

สโมสรบาร์เซโลน่านั้นจ้าง CEO ชาวสเปนของ Tiscali มาเป็นหัวหน้าฝ่ายการตลาด ซึ่งคนๆนั้นตัดสินใจพา Berrada (ที่อยู่ Tiscali) มาสโมสรด้วย "บางทีผมอาจจะรับทำงานบาร์เซโลน่าแบบฟรีๆเลยก็ได้ด้วยซ้ำ เพราะงั้นมันโชคดีมากที่พวกเขาจ้างงานผมด้วย" Berradaหยอดมุกในการสัมภาษณ์ดังกล่าวเมื่อปี2021

เขาเรียนคาตาลันตั้งแต่วันที่สองของการทำงาน ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ภาษาทีมเจ้าตัวลงเอาไว้ใน LinkedIn ว่าสามารถพูดได้ทั้งภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส สแปนิช และก็ภาษาคาตาลันนั่นเอง (กาตาลาเป็นภาษาที่ไม่เหมือนสเปน เลยนับแยกกัน)

Berrada อยู่ที่นั่นจนกระทั่งถึงปี 2011 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวและได้ทำงานร่วมกันกับตอนที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่าอยู่ รวมถึง Ferran Soriano กับ Txiki Begiristain  ด้วย แต่อย่างไรก็ตามตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่า Berrada สุดท้ายแล้วจะกลายมาเป็นหัวหน้าที่ดูแลทางด้านสปอนเซอร์ของสโมสร  ต้องรอจนกระทั่งพวกเขาได้มารียูเนี่ยนกันที่แมนเชสเตอร์ซิตี้นั่นเอง

เขามีเส้นทางอาชีพที่ชัดเจนมาตลอดว่าต้องการท้าทายตัวเองด้วยการออกจากคอมฟอร์ทโซนเสมอๆ นั่นคือแรงขับดันที่ทำให้เขาย้ายมาอยู่ยุโรปตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น จนกระทั่งออกจากทีมที่ตัวเองรักอย่างบาร์ซ่ามาร่วมกับซิตี้ในปี 2011 หลังได้รับการติดต่อจาก Headhunter ที่ลอนดอน (Ferran กับ Txiki ย้ายตามมาหลังจากนั้นหนึ่งปี)

"ผมอยากทำงานในพรีเมียร์ลีก มันน่าดึงดูดมากๆ ผมก็ยังไม่รู้เลยว่าไปเกลี้ยกล่อมภรรยาตัวเองมายังไงให้ย้ายมาออกมาจากอากาศดีๆที่บาร์เซโลน่า เพื่อมาเจอสภาพอากาศที่UK แต่ยังไงผมก็ทำลงไปแล้วเรียบร้อย"

ในตอนต้น Berrada เข้ามาดูแลทางฝ่ายธุรกิจต่างประเทศของสโมสร ซึ่งบทบาทหลักคือดูแลทัวร์ช่วงพรีซีซั่นของสโมสร และบริหารเรื่องการเป็นพาร์ทเนอร์ความร่วมมือในระดับภูมิภาค ย้อนกลับไปตอนนั้นสโมสรยังไม่ได้มีความเป็นสากลเท่ากับตอนนี้ ซึ่งแน่นอนว่าเทียบกันไม่ได้เลยถ้าเปรียบกับที่เก่าของเขาที่คาตาลุนญ่า

การคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกนับตั้งแต่ล่าสุดที่สโมสรเคยได้เมื่อปี 1968 ยังคงห่างไกลที่จะเคลมความสำเร็จในระดับยุโรป ซึ่งตอนนั้นความสำเร็จของสโมสรยังดูน้อยๆอยู่ ดังนั้นดีลต่างๆที่ Berrada เจรจานั้นค่อนข้างลำบากทีเดียวในระยะแรกกับถิ่นเอติฮัดของเขา 

(ซิตี้คว้าแชมป์ลีกไปแล้ว 9 สมัย โดย 7 ใน 9 เกิดขึ้นยุคปัจจุบัน ก่อนหน้านั้นซิตี้เคยคว้าแชมป์ดิวิชั่นสูงสุดสองครั้งคือ 1936/37 และ 1967/68)

"ตอนแรกที่ผมมาแมนเชสเตอร์ซิตี้ บางแบรนด์ไม่เจรจากับเราเลย เพราะงั้นผมต้องพยายามครีเอทให้มากกว่านี้ และหาทางทำยังไงให้เข้าถึงพวกเขาให้ได้"

ภายในหนึ่งปีที่ซิตี้ เขาได้ถูกเลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายหุ้นส่วนของสโมสร ซึ่งเป็นจุดที่ได้เริ่มทำงานใกล้ชิดกับ Soriano มากขึ้น และการมาของมิสเตอร์กวาร์ดิโอล่าในปี 2016 จะเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตการทำงานของเขา โดย Omar Berrada ย้ายมาจากลอนดอน มาทำงานในแมนเชสเตอร์เลยในปีนี้ Ferran Soriano ที่เชิญเข้ามาเป็น CEO ของที่นี่

"นับตั้งแต่ตอนนั้นเขาก็ถูกมองเป็นการภายในสโมสรว่า เป็นเหมือนมือขวาของ Soriano ที่นี่" อดีตเพื่อนร่วมงานที่ซิตี้พูดถึงเรื่องนี้เอาไว้

Berrada ถูกมอบหมายให้ดูแลกิจกรรมรายวันของซิตี้ เนื่องจากว่าบทบาทหน้าที่ของ Soriano นั้น ในฐานะ CEO จะต้องดูแลภาพรวมทั้งหมดของ City Football Group ดังนั้น Berrada จึงอยู่ในระดับเดียวกันกับหัวหน้าฝ่ายต่างๆของสโมสร เช่นฝ่ายการตลาด, พาณิชย์และสื่อ แต่ก็เป็นอีกครั้งที่เพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ในความที่ทำงานใกล้ชิดกันกับ Ferran Soriano ทำให้ Berrada ถูกขอร้องให้ไปช่วยงานผู้อำนวยการฟุตบอลอย่าง Txiki Begiristain ในบางหน้าที่รับผิดชอบทางด้านการเซ็นสัญญานักเตะเข้าสู่สโมสร

หนึ่งในดีลแรกๆที่เขาเป็นที่รู้จักคือการเป็นคนจัดการปิดดีล อายเมอริค ลาปอร์ต เขาขึ้นเครื่องเจ็ทส่วนตัวเพื่อไปดึงเซ็นเตอร์แบ็ครายนี้มาอยู่แมนเชสเตอร์ซิตี้ในเดือนมกราคมปี 2018 เป็นคนเจรจาสัญญาขั้นสุดท้ายกับผู้ดูแลนักเตะรายนี้

บทบาทของ Omar Berrada กับซิตี้ยิ่งสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆอย่างรวดเร็วในจุดที่เขาถูกดันให้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าแผนกปฏิบัติการทางด้านฟุตบอลของสโมสร ขึ้นเป็นหัวหน้าในปี 2020 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญมากเนื่องจากเป็นการสวิตช์ข้ามฝั่งมาจากสายธุรกิจ เข้าสู่มิติเชิงฟุตบอลมากขึ้น และตอนนั้นเขาได้รับความไว้วางใจจาก Txiki แล้วเรียบร้อยเป็นการภายใน กลายเป็นกำลังสำคัญในการดึงนักเตะเข้ามาสู่สโมสร

"ในการดึงนักเตะเข้ามา Txiki จะทำงานด้วยโครงสร้างแบบเดียวกันเสมอๆ โดยจะดูแลเรื่องการพูดคุยในด้านฟุตบอล อธิบายให้นักเตะและเอเย่นต์เข้าใจว่าพวกเขาจะเข้ามาสู่โปรเจ็คของสโมสรยังไง ตอบคำถามเรื่องแทคติก และอธิบายเหตุผลความเหมาะสมของดีลนั้นๆ"

"เมื่อทุกอย่างเกือบจะตกลงเสร็จสิ้นแล้ว การพูดคุยจะเข้าไปสู่ผู้ดูแลคนต่อไปที่จะเป็นคนจัดการในเรื่องของสัญญา ซึ่งแมนเชสเตอร์ซิตี้ให้ Berrada เป็นผู้ดูแล เขารู้หมดทุกเรื่องทั้งเรื่องสเกลเงินเดือนในทีม อะไรบ้างที่ควรจะจ่ายหรือไม่จ่ายในการเซ็นสัญญา เรื่องเหล่านั้นทั้งหมด"

มีตัวอย่างหลายๆเคสที่ Omar กับ Txiki ทำงานร่วมกันในการเซ็นตัวท็อปๆเข้ามาสู่สโมสร เช่นในเดือนกุมภาพันธ์พวกเขาทั้งคู่บินไปโมนาโกด้วยกัน เพื่อไปคุยกับเอเย่นต์อย่าง Mino Raiola ที่กำลังป่วยอยู่นั้น ในการจะเซ็น Erling Haaland เข้ามา

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทุกๆครั้งที่ปิดดีลและเปิดตัวอย่างเป็นทางการ งานก็จะเสร็จสิ้นด้วยการไปดินเนอร์ที่ภัตตาคาร Tast Catala ใจกลางเมืองแมนเชสเตอร์ ซึ่งมี Txiki และ Pep เป็นหุ้นส่วนใหญ่ โดย Berrada ก็เป็นหนึ่งในนั้น เคียงข้าง Txiki เสมอเวลาจัดงานเลี้ยงต้อนรับนักเตะใหม่

อาหารมื้อหนึ่งที่ Berrada ไม่อยู่ คือมื้อที่ซิตี้ฉลองแชมป์ FA Cup เหนือยูไนเต็ดที่สนามเวมบลีย์เมื่อเดือนมิถุนายน เนื่องจากเขายุ่งในการจัดดินเนอร์ให้กับคุณลุงของ อิลคาย กุนโดกัน ที่ภัตตาคาร Tast Catala โดยภารกิจของเขาก็คือเพื่อพยายามที่จะขยายสัญญามิดฟิลด์เยอรมันรายนี้ให้ได้ ซึ่งเป็นครั้งที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนักที่ Berrada ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของเขาได้สำเร็จ แม้ว่าจะไม่ได้มีการว่ากล่าวกันภายในก็ตาม

"Omar(Berrada) รู้ดีว่าอะไรคือข้อเสนอที่ดีที่สุดที่เราสามารถทำได้อยู่ตลอดเวลา ถ้าสิ่งที่เขาเสนอไม่สามารถรั้งนักเตะให้อยู่ต่อได้ มันก็แค่เป็นไปแบบนั้น เราทำดีที่สุดแล้ว"

ไม่ใช่เรื่องเซอไพรส์เลยที่ Berrada จะถูกมองว่าเป็นทรัพยากรชั้นยอดไม่ว่าจะกับองค์กรกีฬาใดๆในโลกนี้ ตามที่ดิแอธเลติกรายงานเอาไว้ตั้งแต่ช่วงพฤษภาคมปีก่อนว่าเขาเคยถูกทาบทามโดย NFL เป็นที่ทราบกันดีว่า Berrada ไม่ได้มีอีโก้ใดๆ มีความขวนขวายอยากรู้อยากลอง และถึงแม้จะประสบความสำเร็จ แต่เจ้าตัวก็ยังคงอยากที่จะอยู่กับสโมสรต่อ

ตลอดระยะเวลากับซิตี้ เขามีความทะเยอทะยานอย่างมาก และบางทีตำแหน่งของ Ferran Soriano อาจจะเป็นจุดหมายต่อไปที่เขาควรจะได้รับก็ได้ แต่กระนั้น เจ้าตัวก็เลือกที่จะพาตัวเองออกจากคอมฟอร์ทโซนครั้งใหญ่ และเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจโดย INEOS เพื่อที่จะกอบกู้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในบทบาทที่จะเป็นที่รู้จักมากกว่าเดิม มีโพรไฟล์ที่ใหญ่กว่าเดิม และเจ้าตัวก็ได้ลิ้มรสเรื่องราวตรงนี้แล้ว เพราะทันทีที่มีการประกาศเกิดขึ้น ทวีตในตำนานก็ถูกขุดขึ้นมาบนโซเชียลมีเดียทันที

การออกจากซิตี้ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่ง่ายเลยสำหรับ Berrada ที่สะบั้นตัวเองออกมาจากสโมสรที่ได้ชื่อว่าดำเนินงานในเรื่องนอกสนามได้ดีที่สุดสโมสรหนึ่ง ซิตี้ก็เสียใจไม่น้อยที่เขาออกไป ถึงจะมั่นใจว่าสามารถรับมือกับผลกระทบในเรื่องนี้ได้ก็ตาม

Berrada จะต้องมาเจอของแข็งในการทำงานกับยูไนเต็ด แต่จากเส้นทางอาชีพที่ผ่านๆมาซึ่งเราได้เห็นกันแล้วนั้น เชื่อว่าเรื่องแค่นี้จะไม่ทำให้เขาต้องสับสนในเรื่องใดๆอย่างแน่นอน

#BELIEVE

-ศาลาผี-

Reference

https://theathletic.com/5216269/2024/01/21/omar-berrada-manchester-united-ceo-profile/


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})