Willy Kambwala กองหลังดาวรุ่งของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคนล่าสุดที่ได้เดบิวต์ขึ้นทีมชุดใหญ่ มีบทสัมภาษณ์ที่ชื่อว่า "Fight For Your Dream" แสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างมากที่เขาต้องการจะเติบโตขึ้นให้ได้ที่สถาบันแห่งนี้ของปีศาจแดงในอนาคต
โดยเจ้าตัวลงเดบิวต์เกมระดับอาชีพชุดใหญ่กับเราครั้งแรกก็เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หลายคนคงจำได้ดีกับเกมนัดที่ต้องไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แม้ว่าเกมนั้นจะแพ้ไป 2-0 ก็ตาม ก่อนที่ต่อมาเขาจะได้ลงเล่นครั้งแรกที่โอลด์แทรฟฟอร์ดในฐานะตัวสำรองในเกมวัน Boxing Day กับแมตช์คลาสสิคที่เอาชนะ Aston Villa ไปได้ 3-2 เจ้าตัวได้เล่าให้ฟังว่ามันเป็นไฮไลต์สำคัญในอาชีพของเขาเลย และภูมิใจมากที่ได้ลงเล่นอีกสองเกมหลังจากนั้น
คัมวาล่าเป็นคนที่มีความมั่นใจ และมีความกล้าแสดงออกอย่างมาก มีพลังงานอันเต็มเปี่ยม ซึ่งในวัยเด็กของเขาใช้เวลาอยู่กับการเล่นฟุตบอล และมีความฝันที่ยิ่งใหญ่อย่างมาก
"ผมก็คิดเหมือนกับเด็กๆทั่วไป เราแค่อยากจะเล่นฟุตบอลตลอดเวลาเลย ไม่ว่าจะเล่นกับเพื่อน หรือบางทีเล่นคนเดียวก็เหมือนกัน ไม่ค่อยได้ดูฟุตบอลเยอะ แต่แค่อยากเล่น แล้วก็คิดถึงมันในหัวตลอดเวลา แล้วก็นึกถึงความฝันของตัวเองเยอะมาก มันเป็นโมเมนต์ที่ดีที่สุดในการได้เล่นร่วมกันกับเพื่อนๆแล้วก็ครอบครัว ตอนที่ผมยังเป็นเด็กๆอยู่"
"ผมมีความทรงจำที่ดีมากจริงๆในเรื่องนั้น สิ่งที่สำคัญสุดในชีวิตก็คือการมีลูกบอลสักลูก หรือมีอะไรสักอย่างที่มันเตะได้ ถึงจะเป็นแค่ขวดก็ตาม แล้วตอนนั้นผมก็มีสโมสรอยู่แล้วด้วย ซึ่งที่ เลซูว์ลิส คือจุดเริ่มต้นของผม แม้จะไม่ใช่สโมสรแรกสุด แต่ว่ามันเป็นที่ที่เหมาะกับผมมากเป็นที่แรกเลย"
เลซูว์ลิส (Les Ulis) ชานเมืองที่ปารีส ครั้งหนึ่งเคยเป็นจุดกำเนิดของกองหน้าในทีมปัจจุบันอย่าง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ด้วย ซึ่งก็เช่นเดียวกันกับตำนานดาวเตะปีศาจแดงอย่าง ปาทริซ เอฟร่า ซึ่งคัมวาล่าบอกว่า กองหลังของเรารายนี้คือต้นแบบสำคัญของเขา
"แน่นอนเลย ถ้าเขาเริ่มต้นมันได้จากที่นี่ ผมก็ต้องทำได้เหมือนกัน"
"เรามีอาคารหลักที่เลซูว์ลิสที่มีเสื้อทุกตัวติดอยู่บนกำแพง ผมเห็นแล้วนึกในใจว่า ใช่ วันนึงผมอยากจะให้เสื้อตัวเองอยู่บนกำแพงนี้ มันเป็นอะไรที่เป็นแรงบันดาลใจมากๆเลย"
"โค้ชทุกคนที่นั่นมักจะพูดคุยเรื่องนักเตะเหล่านั้น เพราะพวกเขาปั้นมาตั้งแต่เด็กๆ มันช่วยให้คุณได้รู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง"
"มัลดินี่ ปูโยล รามอส พอล สโคลส์.. ผมเป็นกองหลังผมรู้ แต่คนเราฝันกันได้นี่ ถูกไหม! แล้วก็ วิดิชด้วย อย่างที่ผมบอก ผมไม่ค่อยได้ดูบอลบ่อย แต่การดูแมนยูเป็นอะไรที่แตกต่างมาก"
"นักเตะทุกคนที่ได้เล่นให้แมนยูไนเต็ดเป็นแรงบันดาลใจของผม"
"ผมมีคนที่เป็นแรงบันดาลใจมากมายที่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องฟุตบอลด้วย เช่นพ่อแม่ของผม พี่ๆน้องๆ โค้ชหลายๆคน เพื่อนหลายๆคนของผม มันเป็นอะไรที่สำคัญมาก มากกว่าแค่ฟุตบอลอีก เพราะถ้าคุณมีเรื่องที่ดีๆนอกจากฟุตบอลในชีวิต คุณก็จะเล่นได้ดีด้วย พวกเขาเหล่านั้นทำทุกๆอย่างเพื่อผม มันคือส่วนสำคัญมากในชีวิต และในเรื่องราวของตัวผมเอง"
ตอนนี้ในฐานะสมาชิกที่ได้รับการยอมรับอีกคนหนึ่งขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ คัมวาล่าทำงานหนักมากในทุกๆวันเพื่อก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ และเขาหวังว่าเขาจะได้ลงเล่นมากกว่านี้ เขาต้องการจะแบ่งปันประสบการณ์ที่มี และช่วยเหลือนักเตะรุ่นต่อๆไปให้สู้เพื่อความฝันของตนเองด้วย
"อย่างแรกสุดเลยคือ ต้องฝันก่อน จะทำอะไรสักอย่างหนึ่งในชีวิตคุณต้องฝัน จากนั้นคุณก็สู้เพื่อมัน"
"การฝันมันเป็นสิ่งที่ง่าย เพราะมันทำได้โดยอิสระ แต่การสู้เพื่อมันเป็นสิ่งที่ซับซ้อนขึ้น เพราะคุณไม่รู้ว่าคุณจะเจออะไรบ้างในเส้นทางที่คุณจะเดินต่อไป"
"ทุกๆการเดินทางนั้นแตกต่างกัน ไม่ต้องดูจากคนอื่น เพราะคุณไม่มีทางรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นได้บ้าง วันนึงคุณอาจจะได้ขึ้นสู่จุดสูงสุด บางทีคุณก็อาจจะตกลงมาก็ได้ เพราะงั้นสู้เพื่อความฝันของคุณ และอย่าให้ดูถูกว่าคุณไม่มีทางทำได้หรอก เพราะถ้าคุณอยากจะทำมันจริงๆ คุณทำมันได้แน่ มันเป็นไปได้เสมอ เพราะงั้น สู้ จงมั่นใจในตัวเอง อยู่กับความเป็นจริงอย่างมีเหตุและผลเสมอ"
"อย่าหลงระเริง อย่าคิดว่าคุณเจ๋งมาก ใหญ่มาก เพราะมีผู้คนอีกมากมายที่มีความฝันแบบเดียวกันเหมือนกับคุณ และพวกเขาสามารถแทนที่คุณได้เสมอๆ เพราะงั้นอย่าหลงระเริง และคิดเสมอว่าตอนนี้เราอยู่ในจุดนี้ แต่จะต้องเดินหน้าไปยังจุดไหนต่อให้ได้"
"ชีวิตมันจะมีขึ้นและมีลงอีกมากมาย แต่มันก็เป็นสิ่งที่จะทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้น อดทนมากขึ้น เติบโตมากขึ้น ทั้งในความเป็นนักเตะ หรือในความเป็นมนุษย์ด้วยเช่นกัน ผมคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมจะพูดได้จริงๆ"
วิลลี่ คัมวาล่า ยังเปิดเผยอีกด้วยว่า ความฝันที่มีมาตลอดของเขา คือการได้ลงเล่นให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเท่านั้น โดยกองหลังวัย 19 ปี รายนี้ย้ายมาร่วมทีมจากโซโชซ์ (Sochaux) ในปี 2021 หลังจากได้ลงสองเกมแรกอย่างที่กล่าวมาแล้วในนัดเวสต์แฮมและวิลล่านั้น คัมวาล่ายังได้ลงต่อในเกมเจอวีแกน และ นิวพอร์ท เคาน์ตี้ด้วย และเจ้าตัวได้เปิดเผยเรื่องนี้ต่อหนังสือ United Review นิตยสารโปรแกรมแข่งของแมนยูดังนี้
"ความฝันของผมคือแมนยูไนเต็ด มีแค่นั้นเลย ไม่มีสโมสรอื่น"
"แม้กับประเทศอังกฤษ ผมก็ไม่ได้นึกถึงอังกฤษ ผมนึกถึงแต่แมนยูไนเต็ด ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าทำไม ตั้งแต่จำความได้ มันก็มีแต่แมนยูล้วนๆ ผมไม่ได้ดูบอลเยอะ แต่มันมีแค่แมนยู แมนยู อย่างเดียวตลอดเวลาเลย นั่นคือความฝันของผม เพราะงั้น การได้มาอยู่มันจึงพิเศษมากสำหรับผม เพราะมันเป็นสิ่งที่ผมต้องการจริงๆ"
กองหลังดาวรุ่งรายนี้ยังหวังว่าจะได้ลงสนามมากขึ้นเมื่อฤดูกาลดำเนินไป เพื่อจะได้สัมผัสประสบการณ์อันน่าเหลือเชื่อ เช่นการที่ได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด ในเกมสุดสัปดาห์นัดที่ชนะคู่แข่งอย่างแอสตันวิลล่า ที่แมนยูกำลังจะเจออีกครั้งในวีคนี้ การได้เป็นส่วนหนึ่งที่ได้ลงเล่นในวัน Boxing Day แล้วได้รับชัยชนะ ถือเป็นอะไรที่จะติดอยู่ในความทรงจำของดาวเตะรุ่นเล็กจากฝรั่งเศสรายนี้อย่างแน่นอน
"ผมคิดว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยมีในการเล่นฟุตบอล ผมรู้ว่าผมได้เป็นตัวจริงเกมเจอเวสต์แฮม แต่การได้เล่นที่โอลด์แทรฟฟอร์ดมันเป็นอะไรที่มากกว่านั้น แล้วได้ลงสนามวันนั้นด้วย มันสุดยอดมาก!"
"ผมโคตรตื่นเต้น ได้ดูทุกคนในสนามกำลังต่อสู้กันเพื่อทีมของตัวเองทั้งสองทีม ตอนนั้นผมอยู่บนม้านั่งสำรอง อยากลงสนามมาก แล้วพอผู้จัดการทีมเรียกไปแล้วบอกว่า เตรียมตัวให้พร้อม ผมนี่โคตรตื่นเต้นเลย ไม่รู้จะบรรยายยังไง"
"แล้วพอได้ลงสนาม เราชนะ 3-2 ได้สัมผัสบอล มันเป็นอะไรที่สำคัญมากเวลาได้บอล และสำคัญคือได้ชัยชนะร่วมกันกับทีม มันสำคัญมากๆเพราะนั่นคือเกมชนะนัดแรกของผม มันน่าตื่นเต้นจริงๆ"
"ผู้คนพากันร้องเพลง ผมรู้สึกได้เลยว่าพื้นมันสั่นสะเทือน แล้วผมตื่นเต้นมากที่อยู่ตรงนั้น อย่างที่บอก มันคือความฝันของผมที่จะได้เล่นให้แมนยูไนเต็ดที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ผมคิดว่าเด็กทุกคนก็คงฝันแบบนี้เช่นกัน เพราะงั้นการที่มีโอกาสทำมันสำเร็จ มันเป็นอะไรที่น่ามหัศจรรย์มากๆ ผมพูดเรื่องนี้ด้วยความรู้สึกที่เหมือนเด็กๆคนนึง มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนตอน13แบบนั้นเลย"
และทั้งหมดนี้คือคำให้สัมภาษณ์ และการเล่าเรื่องราวครั้งแรกๆของกองหลังดาวรุ่งคนใหม่ของแมนยูไนเต็ดอย่าง เจ้าเด็กยักษ์ Willy Kambwala รายนี้ ด้วยส่วนสูงปัจจุบัน 192cm และน่าจะยังยืดได้กว่านี้อีกในอนาคต
สภาพร่างกายของเขาโดดเด่นนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ตอนอายุ 17 เมื่อสองปีก่อนในสมัยของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ด้วยพัฒนาการที่มี ทำให้คัมวาล่า อยู่ในลิสต์กองหลังดาวรุ่งที่เป็นตัวเล่นหลักในชุดเยาวชนตลอดมา
จนกระทั่งช่วงครึ่งแรกของซีซั่นนี้ แมนยูไนเต็ดมีปัญหานักเตะบาดเจ็บมากมาย โดยเฉพาะในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คที่แทบจะไม่เหลือใครแม้แต่แฮรี่ แมกไกวร์ ทำให้วิลลี่ ต้องลงคู่กับ จอนนี่ อีแวนส์ รุ่นพี่จากอะคาเดมี่เช่นกันในเกมนั้น
แม้จะแพ้ 2-0 แต่จริงๆแล้วการเล่นของ วิลลี่ คัมวาล่า ถือว่าทำได้ดีตามหน้าที่ ไม่ได้ก่อความผิดพลาดหรือบกพร่องใดๆจนทำให้ทีมแพ้เลย นั่นน่าจะเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้ลงสนามก่อนดาวรุ่งกองหลังอีกคนอย่าง รีส เบนเนทท์ ที่ติดทีมมาในม้านั่งสำรองวันนั้นเช่นกัน
Rhys Bennett, Willy Kambwala และ Amad Diallo
แมนยูไนเต็ดกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่กำลังต้องเปลี่ยนผ่านยุคสมัยในการสร้างทีมใหม่ระยะยาว ซึ่งแผงกองหลังแมนยูถือเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องสร้างเลือดใหม่ขึ้นมาแทนตัวเล่นปัจจุบันที่หลายๆคนขึ้นเลข 3 แล้ว เช่น แมกไกวร์ วาราน ลินเดอเลิฟ เป็นต้น (ไม่ต้องนับอีแวนส์ในวัย 35 ที่มาอยู่แค่ระยะสั้นๆเท่านั้น) แผงแบ็คไลน์ของแมนยูต้องโละและสร้างเลือดใหม่ขึ้นมาทดแทนตั้งแต่ซีซั่นหน้าเป็นต้นไป
การขึ้นมาติดชุดใหญ่ และลงตัวจริงทันทีในเกมสำคัญมากอย่างแมตช์พรีเมียร์ลีกที่ต้องไปเยือนทีมระดับเวสต์แฮม ทั้งที่จริงๆ เอริค เทน ฮาก มีตัวเลือกอีกหลายอย่างมากที่เขาจะ "ไม่ไว้ใจเด็กอายุ19" และสามารถใช้ option จัดทีมแบบอื่นๆได้ เช่นการใช้ โซฟียาน อัมราบัต ลงเล่นเป็นกองหลังทดแทนในเกมนั้น
หรือแม้กระทั่ง แม็คโทมิเนย์ ที่เคยเล่น CB มาก่อนในระดับทีมชาติสกอตแลนด์ ก็เป็นตัวเลือกที่เอริครู้ดี เพราะเคยใช้งานเขาเล่นเป็นกึ่งๆ Half-Back มาก่อนอยู่แล้ว
ทำไม Willy Kambwala ถึงได้ลงสนามเป็นตัวจริงนัดนั้น นอกจากเรื่องที่เซ็นเตอร์ตัวหลักคนอื่นเจ็บหมด เรื่องนี้มันต้องมีคำตอบในสายตาของเทน ฮาก แน่นอน
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมันต้องมีเหตุผลแน่
นั่นทำให้เราเชื่อว่า วิลลี่คงจะมีดี และมีคุณสมบัติอะไรในตัวที่เทน ฮาก พิจารณาแล้วว่าเขาจะสามารถช่วยทีมในตำแหน่งสำคัญตำแหน่งนี้ได้ ดังนั้นเพราะเหตุนี้ เราจึงเชื่อว่า วิลลี่ คงจะได้อยู่เป็นตัวหมุนเวียนฐานะ Squad Player ของทีมชุดใหญ่แมนยูไนเต็ดในระยะยาวแน่นอน
พัฒนาต่อไปน้อง ยิ่งมีความฝันสำคัญในชีวิตอยู่แค่แมนยูไนเต็ดอย่างเดียวแล้วล่ะก็ จงสู้ต่อไปตามที่พูด แล้วอยู่ในสถานที่แห่งความฝันแห่งนี้ของน้องต่อไปให้นานที่สุด ถ้าสักวันนึงขึ้นมาเป็นตัวจริงได้ มันจะเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มากๆ
สู้ต่อไปเจ้าเด็กยักษ์ จงยิ่งใหญ่กว่านี้ และอย่าให้ใครมาพูดว่าไม่มีทางทำได้..
สักวันนายต้องทำได้แน่นอนน้องชาย
#BELIEVE
-ศาลาผี-
References
https://www.manutd.com/en/news/detail/story-of-willy-kambwala-fight-for-your-dream-interview
https://www.manutd.com/en/news/detail/willy-kambwala-says-man-united-only-ever-the-club-for-him
