เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลา 4 วันที่อารมณ์แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด  แตกต่างอย่างชัดเจน จากความพ่ายแพ้ช่วงทดเวลาจนน้ำตาตกมาถึงประตูชัยท้ายเกมของ กาเซมีโร่ ซึ่งทำให้ ปิศาจแดง ได้ไปต่อในศึก เอฟเอ คัพ 

ใครที่อดหลับอดนอนชมเกมเมื่อคืนที่ผ่านมาคงเต็มไปด้วยหลากหลายอารมณ์ เพราะช่วงต้นเกม ผีแดง ได้โอกาสงามๆ หลายครั้งแต่โดนปฏิเสธจากคานประตูและการเซฟอันยอดเยี่ยมของ แม็ตต์ เทอร์เนอร์ 

ไม่ต่าง น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ที่สร้างความยากลำบากให้ ยูไนเต็ด หลังจากตั้งเกมได้ แถมยังเกือบฉวยจากความผิดพลาดทำประตูออกนำ ดีที่ อองเดร โอนานา ยืนถูกที่ถูกเวลาป้องกันได้หมดทำให้สกอร์ 0-0 ลากยาวไปจนถึงท้ายเกม 

ณ เวลานั้นแรงกดดันทับลงบนบ่าทั้งสองทีม ไม่มีใครอยากพลาดทำให้เกมมีแนวโน้มไปสู้กันในช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที (หรืออาจจะตัดสินด้วยการจุดโทษ)

แต่แล้วจากจังหวะฟรีคิกทางซ้ายของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส (ซึ่งโดนสาวก เจ้าป่า โห่ตลอดทั้งเกม) เปิดยัดมาเสาแรก กาเซมีโร่ สอดไปโขกเสียบตาข่าย

วินาทีนั้นอารมณ์ปลดปล่อยของขุนพล ปีศาจแดง แสดงออกมาทั้งสีหน้าท่าทาง มันคือการปลดเปลื้องสิ่งที่กดทับพวกเขาในช่วงไม่กี่วันผ่านมา 

แม้อารมณ์ดีใจแบบสุดขีดจะถูกคั่นจังหวะจาก วีเออาร์ ที่ขอมีส่วนตรวจสอบว่า ราฟาแอล วาราน ที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าบังทางวิ่งผู้เล่น ฟอเรสต์ หรือไม่ ทว่าหลังจากผ่านไปหลายนาทีเสียงเฮของแฟนบอลทีมยือนดังลั่นสนสนามอีกครั้งพร้อมการกำหมัดดีใจของ กาเซมีโร่ (อีกครั้ง)

สิ่งที่เห็นในสนามตอกย้ำอย่างชัดเจนว่าขุนพล ยูไนเต็ด ให้ความสำคัญกับ 'เกม' นี้มากเพียงใด ไม่ใช่สิ ... หากจะกล่าวให้ถูกต้องคือแข้งผีแดงให้ความสำคัญกับ 'เอฟเอ คัพ' เป็นอย่างมากเพราะมันคือรายการเดียวที่พวกเขาเหลือลุ้นในซีซั่นนี้

จึงเห็นอาการของทุกคนที่แสดงออกมาทั้งตอนทำประตู (หรือหลังจาก วีเออาร์ ยืนยันจังหวะ) และช่วงจบการแข่งขัน ซึ่งมันไม่ใช่การแสดงออกถึงอารมณ์ที่มีต่อชัยชนะเท่านั้น แต่มันคืออารมณ์ความรู้สึกของการได้ไปต่อเพื่อไล่ล่าความฝันของพวกเขา

กระนั้นงานสำคัญในรอบต่อไปกลับเป็นเรื่องน่าสนใจยิ่งกว่าเนื่องจากคู่แข่งคืออริไม่เผาผี ลิเวอร์พูล ที่กำลังอยู่ในช่วงเข้าฝัก เพราะไม่ว่าจะส่งชุดไหนลงสนาม หงส์แดง ทำผลงานได้ยอดยี่ยมไม่เว้นแม้แต่เกมล่าสุด 

หลายเสียงแซ่ซ้องชื่นชม เยอร์เกน คล็อปป์ ที่เข็น หงส์ (แดง) พิการในช่วงที่ผ่านมาและยังคงเดินหน้าคว้าชัยได้ต่อเนื่องแม้แกนหลักหลายรายสลับหายหน้าหายตา

รอบต่อไปจึงเป็นงานสำคัญทั้งในแง่ของศักดิ์ศรีและการคว้าตั๋วไปเล่นรอบรองชนะเลิศที่ เวมเบลีย์ อีกทั้งยังเป็นเกมที่ทุกคนตั้งตารอในช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้