หลังเกม ซาเอซ กุนซือทีมชาติกล่าวถึง อลอนโซ่ รุกกี้ของทีมว่า “แจกจ่ายบอลไปทั่วสนามอย่างแม่นยำ และมองเห็นฟุตบอลได้ชัดเจนเป็นพิเศษ”
ซาเอซ แสดงมุมมองว่า อลอนโซ่ จะเป็นสมองให้กับทีมไปอีก 1 ทศวรรษข้างหน้า “เขาหยุด เขาคิด และจากนั้นก็พาสบอลออกไป เขาเคลื่อนเกมไปในทิศทางตรงกันข้ามที่กำลังดำเนินไป และเรียนรู้ที่จะขโมยเพราะเขามีร่างกายที่พร้อมสำหรับมัน”
ซาเอซ ให้โอกาส อลอนโซ่ ลงไปควบคุมแดนกลางให้กับเขาในการเล่นเพลย์ออฟฟุตบอลยูโร 2004 กับ นอร์เวย์ งานของเขาคือแจกจ่ายบอลออกไปให้กับเพื่อนร่วมทีม ซึ่งรวมแล้วในค่ำคืนวันนั้น ทีมชาติสเปนมีการพาสบอลกันทั้งสิ้น 581 ครั้ง (ค่าเฉลี่ยการพาสบอลในเกม ลา ลีกา อยู่ที่ 442 ครั้งต่อเกม)
ส่วนตัว อลอนโซ่ เขาพาสบอลทั้งสิ้น 98 ครั้ง ซึ่งมากกว่าผู้เล่นทุกคนในทีม เฉลี่ยแล้วมากกว่า 1 ครั้งต่อนาที ซึ่ง ซาเอซ ชื่นชมว่าการมี อลอนโซ่ อยู่ในสนามนั้นช่วยทำให้ สเปน เล่นได้ง่ายขึ้น
…………………………………….
ตอนที่ 6 แชมเปี้ยนส์ลีก ครั้งแรกในชีวิต
ฤดูกาลต่อมา 2003-2004 เรอัล โซเซียดาด และ อลอนโซ่ มีทั้งช่วงเวลาที่ดีและแย่ในแง่ของฟุตบอล อลอนโซ่ ได้โอกาสลงเล่นในรายการใหญ่ที่สุดของทวีปอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นครั้งแรกในชีวิต
เรอัล โซเซียดาด จับสลากไปอยู่ในกลุ่ม ดี ร่วมกับ ยูเวนตุส ยักษ์ใหญ่จาก อิตาลี ,กาลาตาซาราย ทีมดังจากตุรกี และโอลิมเปียกอส จาก กรีซ
จากทั้งหมด 6 นัด อลอนโซ่ ลงสนามเป็นตัวจริงทุกนัด และผลการแข่งขัน แชมเปี้ยนส์ลีก หนแรกในประวัติศาสตร์สโมสรก็ออกมาน่าพอใจสำหรับรอบแบ่งกลุ่ม ทีมคว้าอันดับ 2 รองจาก ยูเวนตุส เก็บไปทั้งสิ้น 9 คะแนน จากการชนะ 2 เสมอ 3 ยิงได้ 8 เสีย 8 ตบเท้าเข้ารอบน็อคเอาท์ได้สำเร็จ
ผลงานส่วนตัว อลอนโซ่ ทำได้ 1 ประตู ในเกมที่ เรอัล โซเซียดาด บุกชนะ กาลาตาซาราย 2-1 โดยเขาเป็นคนยิงประตูชัยในนาทีที่ 72 ซึ่งนับว่าสำคัญอย่างยิ่งต่อการพาทีมเข้ารอบ
โซเซียดาด ของ อลอนโซ่ ไปได้สวยในเกมยุโรป แต่ใน ลา ลีกา สถานการณ์ค่อนข้างเลวร้าย หลังผ่านนัดที่ 16 ของฤดูกาลในข่วงกลางเดือนธันวาคม ทีมจมอยู่ในโซนตกชั้น รั้งอันดับ 18 โดยเก็บชัยชนะได้เพียง 3 นัด มี 15 แต้ม
หลังจบรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อลอนโซ่ กับเพื่อนร่วมทีมก็หันกลับมามุ่งมั่นในเกม ลา ลีกา และเพียงแค่จบเดือนมกราคม ทีมก็กระโดดก็ขึ้นมารั้งอันดับ 9 ของตาราง อย่างไรก็ดีตาม ด้วยประสบการณ์ที่ยังน้อย บวกด้วยขุมกำลังที่ยังไม่แกร่งพอทั้งตัวจริง และสำรอง ก็ทำให้ โซเซียดาด แผ่วลงไปอีกครั้ง
ใน แชมเปี้ยนส์ลีก โซเซียดาด จับไปเจอกับ โอลิมปิก ลียง จาก ฝรั่งเศสซึ่งถือว่าเป็นทีมแกร่งในยุคนั้น
ผลปรากฏว่า เรอัล โซเซียดาด ตกรอบ ด้วยการพ่าย ลียง ด้วยสกอร์ 0-1 ทั้ง 2 นัด ยุตเส้นทางสายยุโรปที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย
หลังจบเส้นทางยุโรป เรอัล โซเซียดาด ของ อลอนโซ่ ก็ต้องหันมาต่อสู้อย่างหนักใน ลา ลีกา ทีมมีปัญหาที่ความสม่ำเสมอ ช่วงปลายเดือนมีนาคม ทีมอันดับหล่นไปอยู่ที่ 16 ของตารางสุ่มเสี่ยงที่จะตกชั้นอีกครั้ง ทำให้ต้องสู้กันสุดฤทธิ์ตลอดทั้งเมษายน และพฤษภาคม
ท้ายที่สุด เรอัล โซเซียดาด ก็การันตีการอยู่รอดปลอดภัยใน ลา ลีกา หลังผ่านนัดที่ 37 และจบฤดูกาลในอันดับที่ 15 ของตาราง
ปีนี้เรียกได้ว่าเป็นปีที่ อลอนโซ่ ได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆมากมาย ทั้งการลงเล่นในรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ทั้งรอบแบ่งกลุ่ม และในรอบน็อคเอาท์ที่เต็มไปด้วยความกดดันกับทีมแกร่งอย่าง โอลิมปิก ลียง
ทั้งการต่อสู้ดิ้นรนใน ลา ลีกา ซึ่งต้องลากยาวถึงนัดรองสุดท้ายกว่าที่จะเอาตัวรอด รวมถึงการลงเล่นสัปดาห์ละ 2 นัด นับเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่สอนให้ อลอนโซ่ เติบโตและแข็งแกร่งขึ้นตามลำดับ
สรุปผลงานในฤดูกาล 2003-04 อลอนโซ่ ในวัย 22 ปี ลงเล่นในลา ลีกา 34 เกม ทำได้ 3 ประตู, 7 เกม ใน แชมเปี้ยนส์ลีก ยิงได้ 1 ประตู ถือเป็นผลงานที่ไม่เลวเลย
เจมส์ ลา ลีกา แปล &เรียบเรียง
