รายงานจากหลายสำนักคุณภาพอ้างตรงกันว่า ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ อดีตนักบริหารมือทองของ ‘หงส์แดง’ จะหวนกลับมารับตำแหน่งใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมยังแอนฟิลด์ โดยงานแรกคือแต่งตั้ง ฮิวจ์ส วัย 44 ปีขึ้นทำหน้าที่ผอ.กีฬา
โดยหลังจากเดินทางไปเผชิญหน้ากันตัวเป็นยังเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐฯ ก็ถูกคาดหมายว่า เอ็ดเวิร์ดส์ รีเทิร์นมารับงานใหม่กับกลุ่มเจ้าของทีม เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป (เอฟเอสจี) ค่อนข้างแน่
ต่างไปคือเที่ยวนี้คนทำหน้าที่ผอ.กีฬาคือ ฮิวจ์ส จึงอยากให้ไปทำความรู้จักกัน
ใครคือ ริชาร์ดส์ ฮิวจ์ส?
ฮิวจ์ส คาดว่าจะมาทำงานกับ ลิเวอร์พูล หลังผ่าประสบการณ์ 10 ปีที่ บอร์นมัธ เมื่อสิ้นฤดูกาลนี้ โดยตำแหน่งส่วนใหญ่ในถิ่นไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม คือผู้อำนวยการ เทคนิค
ความท้าทายที่นักบริหารชาวสกอตต์ต้องเจอคือเปลี่ยนสเกลงานจากทีมไซส์เล็ก มาสู่ทีมลุ้นแชมป์ทุกรายการ กรณีมารับงานที่แอนฟิลด์จริงๆ
ก็จะเป็นผอ.กีฬา ยุค ‘เอฟเอสจี’ ต่อจาก เอ็ดเวิร์ดส์, ยูเลี่ยน วอร์ด และ ยอร์ก ชมัดท์เก่อ
ขอบข่ายงานหลักๆคือต่อรอง ซื้อ-ขายผู้เล่น, ขยายสัญญาใหม่ แบบติดต่อประสานงานใกล้ชิดกับสตาฟฟ์คัดสรรบุคลากร
พื้นเพเกิดยังเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ แต่ไปเติบโตยังเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เพราะตามบิดาซึ่งทำงานให้สำนักพิมพ์ เพนกวิน บุ้กส์ - นั่นหมายความว่ารับอิทธิพลทั้งความเป็นอังกฤษ, อิตาเลี่ยนในตัว
ทำไมอาจคุ้นหน้าคุ้นตาเขามาบ้าง?
ตัดเรื่องนามสกุลที่ค่อนข้างโหลออกไป ฮิวจ์ส คืออดีตกองกลาง ปอร์ทสมัธ และ บอร์นมัธ ค้าแข้งแก่สองสังกัดนั้นนานพอตัว
แต่หากย้อนไปแต่แรกเขาเซ็นเข้าอะแคเดอมี่ อตาลันต้า ที่อิตาลี, จากนั้นย้ายมาอังกฤษที่ อาร์เซน่อล แล้วค่อยได้เซ็นสัญญาอาชีพในนาม บอร์นมัธ
ผลงานลงสนาม 169 เกมแก่ ‘เดอะ เชอร์รี่ส์’ ในการเล่นสองรอบ, ส่วน 114 จาก 165 เกมฐานะ ปอร์ทสมัธ คือหวดบนพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ซึ่งที่ ‘เดอะ ปอมปีย์’ นั่นเองที่ ฮิวจ์ส ได้สนิทกับ เอ็ดเวิร์ดส์ ซึ่งขณะนั้นทำงานอยู่ฝ่ายวิเคราะห์ผลงาน
ดีกรีทีมชาติสกอตแลนด์ 5 นัด เคยเผชิญหน้า ลิเวอร์พูล 9 ครั้ง สมัยเป็นผู้เล่น ปอร์มสมัธ ทำได้หนึ่งประตูสำคัญเขี่ย ‘หงส์แดง’ ตกรอบ 5 เอฟเอ คัพ 2003-04
เขาเซ็นใครเข้าทีมบอร์นมัธบ้าง?
ตลาดซื้อ-ขายแรกของ ฮิวจ์ส ฐานะผอ.เทคนิคโดนย้อมแมวเซ็น จอร์ดอน ไอบ์ กับ แบร้ด สมิธ จาก ลิเวอร์พูล ค่าตัวรวมกัน 21 ล้านปอนด์
ซึ่งย้อนไปวันนั้นเขาถูกด่าระงมเรื่องเสริมทัพพลาด สวนทาง ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ ที่อาศัยดีลดังกล่าวสร้างชื่อฐานะผอ.กีฬา ‘หงส์แดง’ ผู้ดำเนินกิจการซื้อ-ขายอย่างชาญฉลาด
อย่างไรก็ตามดีลต่อๆมาของ บอร์นมัธ ครั้งเล่นที่ ดีน คอร์ต นับว่าประสบความสำเร็จอย่าง อารอน แรมส์เด (8 แสนปอนด์), เนธาน อาเก้ (20 ล้านปอนด์), โดมินิค โซลันกี้ (19 ล้านปอนด์), เดวิด บรู้กส์ (11.5m), ฟิลิป บิลลิ่ง (15 ล้านปอนด์), ลอยด์ เคลลี่ (13 ล้านปอด์), เนโต้ (ฟรี), มาร์กอส เซเนซี่ (12 ล้านปอนด์) และ มิลอส เคอร์เคซ (15.5 ล้านปอนด์)
เขายังเคยติดต่อยืม แฮร์รี่ วิลสัน และ แน็ต ฟิลลิปส์ จาก ลิเวอร์พูล, ทำกำไรจากการขาย แรมส์เดล, อาเก้, คัลลั่ม วิลสัน และ ไทโรน มิงส์
นอกสนามบอลก็เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงขอเปลี่ยนกุนซือจาก แกรี่ โอนีล ซึ่งว่าแววดีจนมารุ่งกับ วูล์ฟส์ ซีซั่นนี้ ไปสู่ อันโดนี่ อีราโอร่า กุนซือสแปนิชทำฟุตบอลแนวสร้างสรรค์ เคยสร้างชื่อที่ ราโย บาเยกาโน่
วิสัยทัศน์จากปาก?
ย้อนไปเมื่อปี 2019 สมัยยังมี เอ็ดดี้ ฮาว เป็นผจก.ทีม - ฮิวจ์ส แสดงกึ๋นของตัวเองในการคัดสรรผู้เล่นมาสู่ บอร์นมัธ
“ลักษณะนิสัยและทัศนคติ มันคือด้านสำคัญที่ยิ่งใหญ่ของนักเตะสักคนหนึ่งที่เราคัดสรรมา เป็นวัฒนธรรมองค์กรที่ เอ็ดดี้ ปลูกฝังเข้าไปแก่สโมสร”
“นั่นหมายความว่าเราต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้เล่น มากกว่าที่ตาเห็น 90 นาทีบนสนามแข่ง ซึ่งมันทวีความสำคัญขึ้นด้วย”
“นั่นคืออีกสิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ขณะเดียวกันก็เพิ่มความกระตือรือร้นในการเสาะหานักเตะแบบนั้นให้มากสุดเท่าที่สามารถทำได้เพื่อนำเขาสู่สโมสร”
“คุณจำเป็นต้องมีข้อมูลมากสุดเท่าที่ทำได้เมื่อจะเซ็นสัญญาใครสักคน - แล้วหวังว่ามันจะเข้าที่เข้าทางขึ้น, มีประสบการณ์ด้านนั้นมากขึ้น เพื่อทำให้เราดีกว่าวันแรกๆที่เริ่มโปรเจ็คต์กัน”
ทัศนคติที่แสดงออกมาทำไมมันดูลงตัวอย่างสมบูรณ์แบบกับ ลิเวอร์พูล
